เรียลพาเรนต์ส เดอะซีรีส์ 6 / เรื่องจริงของแม่ที่หมออยากแบ่งปัน
ยอมปล่อยให้ลูกจากไป เพื่อยื้อชีวิตแม่ไว้ให้กลับคืน
อากาศปีนี้หนาวกว่าทุกปี ฉันลุกจากที่นอน มองออกนอกหน้าต่างเห็นฟ้าสีหม่นคลุมด้วยหมอกหนา เจ็ดโมงเช้าแล้วยังไม่เห็นแสงของดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าแม้แต่น้อย ลูกในท้องดิ้นตุบตุบเป็นครั้งแรก แต่แรกฉันไม่รู้ว่าเป็นอะไรเพราะนี่เป็นการตั้งท้องแรกของฉัน เมื่อมองท้องของตนเองเห็นผิวท้องนูนขึ้น รู้สึกเหมือนมีอะไรตอดอยู่ที่ผิวหนัง ฉันจึงแน่ใจว่าเป็นลูกดิ้น ฉันเอามือลูบท้องอย่างตื่นเต้น เรียกสามี“ พี่พจน์(ชื่อสมมุติ) ดูลูกของเราดิ้น” สามีที่นั่งดูทีวีฟังข่าวตอนเช้า รีบลุกมาหา เขาเอามือลูบท้องของฉันอย่างไม่เชื่อสายตา “ลูกเราดิ้นแล้ว เย้” สามีร้องอย่างดีใจ
แม้ลูกดิ้นไม่แรง แต่ฉันรู้สึกว่าลูกดิ้นจนเสียดท้อง ฉันเอามือกดที่ลิ้นปี่ ทำหน้าเหยเกขณะสามีถามว่า “นัท(ชื่อสมมุติ)เป็นอะไรหรือเปล่า” “ไม่รู้เป็นอะไรนัทรู้สึกจุกท้อง” ฉันตอบ พูดไม่ทันขาดคำฉันก็อาเจียนออกมาอย่างแรง สามีลูบหลังลูบไหล่ก็ไม่ดีขึ้น ฉันอาเจียนซ้ำอีกหลายครั้งจนมีเลือดออกมาปนกับเศษน้ำลายและน้ำเหลือง ๆ ที่ออกมาจากกระเพาะอาหาร สามีจึงรีบพาฉันไปโรงพยาบาล
ไปถึงโรงพยาบาลที่ฝากท้อง ฉันไม่ลืมเอาสมุดฝากท้องไปด้วย ขณะนั้นฉันคิดว่าตนเองอาเจียนจากอาหารเป็นพิษ หรือแพ้ท้อง แพทย์พยาบาลที่ห้องฉุกเฉิน กลับทำหน้าตาตื่น บอกว่าความดันโลหิตฉันสูงมาก มีค่าสูงถึง 220/130 ขณะที่ค่าปกติไม่เกิน 120/80 ขาทั้งสองข้างของฉันบวม หน้าแข้งกดบุ๋ม อาการจุกท้องอาเจียนเป็นอาการตับบวม นี่คืออาการครรภ์เป็นพิษอย่างรุนแรง หากรอช้าฉันจะมีอาการชักซึ่งเกิดอันตรายต่อแม่และลูกในท้องได้ หมอรีบรับฉันไว้ในห้องไอซียู
ทั้งสามีและฉันตกใจมาก เพราะสองอาทิตย์ที่แล้วฉันก็มาฝากครรภ์ตามนัด หมอตรวจพบว่าฉันมีความดันโลหิตสูงแต่ไม่มากนัก ซึ่งฉันก็บอกว่าฉันไม่ตกใจ ปกติก่อนท้องฉันก็มีความดันโลหิตสูงอยู่แล้ว หมอให้ฉันพักผ่อนมาก ๆ และนัดมาตรวจอีกสองอาทิตย์ ยังไม่ครบวันนัด ฉันก็มีอาการครรภ์เป็นพิษเสียก่อน
ฉันเข้าไปนอนห้องไอซียู เพราะความดันโลหิตฉันสูงมาก ยาลดความดันโลหิตธรรมดาไม่สามารถลดได้ ฉันมีอาการปวดหัว แน่นอกตลอดเวลา อย่างไรก็ตามในห้องไอซียู มีแต่ผู้ป่วยหนักใช้เครื่องช่วยหายใจ มีฉันนี่แหละเบาสุดไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แถมยังมีสติสัมปชัญญะดี
ในห้องไอซียู หมอให้ยากันชัก ยาลดความดันโลหิต หมอตรวจเลือดหลายอย่าง เมื่ออยู่ไอซียูได้ 3 วัน หมอสรุปว่าตอนนี้ค่าการทำงานของตับผิดปกติ เกล็ดเลือดต่ำ พร้อมจะมีเลือดออกตามที่ต่าง ๆ ในร่างกายได้ทุกเมื่อ อาการที่ฉันเป็น คือเป็นโรคครรภ์เป็นพิษอย่างรุนแรง และมีกลุ่มอาการของ HEELP ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนของครรภ์เป็นพิษอย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้แม่เสียชีวิตได้ วิธีรักษาโรคนี้มีทางเดียวคือต้องเอาทารกในครรภ์ออกเพื่อช่วยแม่
คำพูดของหมอทำให้ทั้งสามีและฉันตกใจมากขึ้นไปอีก เราไม่เข้าใจเลยว่าเกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร ลูกในท้องของฉันหมอก็บอกว่าปกติ แต่ทำไมต้องเอาลูกออก ลูกเพิ่งได้ 5เดือน น้ำหนักครึ่งกิโลกรัม หากเอาออกลูกต้องเสียชีวิต ฉันบอกสามีว่า “พี่พจน์ เราย้ายโรงพยาบาลเถอะพี่ นัทไม่ทำร้ายลูก นัทยอมตายเพื่อลูก” แต่สามีไม่ยอม เขาบอกว่า “นัท พี่ต้องมองความปลอดภัยของนัทเป็นหลัก” นั่นเองทำให้ฉันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร คร่ำครวญว่า “ทำไมโชคชะตาเล่นตลกกับนัทอย่างนี้” ตาและใบหน้าที่บวมจากอาการครรภ์เป็นพิษ จึงยิ่งบวมหนักไปอีก
เมื่อหมอมาตรวจ ฉันจึงต่อรองกับหมอว่า “คุณหมอคะ ขอรอให้ลูกโตกว่านี้ได้ไหมคะ สัก6 เดือน 7 เดือน ลูกรอดค่อยเอาลูกออกจากท้อง” หมอทำหน้าเคร่งเครียดก่อนตอบว่า “คุณเป็นโรคครรภ์เป็นพิษอย่างรุนแรง ขืนรอไปลูกคุณก็อาจตายในท้อง แถมแม่อาจจะเสียชีวิตตามไปด้วย คุณต้องตัดสินใจ เพราะค่าการทำงานของตับของคุณเลวร้ายขึ้นเรื่อย ๆ เกล็ดเลือดของคุณก็ต่ำลง ถ้าคุณช้า หมออาจช่วยคุณไม่ทัน”
ฉันโกรธหมอ ฉันบ่นหมอให้พี่พจน์ฟัง “เอะอะก็จะเอาลูกออก นัทไม่ทำร้ายลูก นัทไม่ทำร้ายลูกเด็ดขาด” ฉันตีโพยตีพาย จนพยาบาลให้ห้องไอซียูมาช่วยปลอบ
พี่พจน์มีลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกัน ชื่อพี่แก่นเป็นหมอสูติอยู่ต่างจังหวัด พี่พจน์เลยให้ฉันโทรศัพท์คุยกับพี่แก่น ให้พี่แก่นอธิบายให้ฉันเข้าใจ
บันทึกของหมอ
ฉันชื่อหมอแก่น เป็นลูกพี่ลูกน้องกับพจน์ ฉันเพิ่งรู้ว่านัทน้องสะใภ้เข้าห้องไอซียูด้วยอาการครรภ์เป็นพิษอย่างรุนแรง และมีกลุ่มอาการของ HEELP ฉันเล่าประสบการณ์ที่เจอคนไข้อาการเดียวกับนัทให้นัทฟัง คนไข้รายหนึ่งลูกและแม่เสียชีวิต คนไข้อีกรายหนึ่งขนาดเอาลูกออก แม่ยังชักหมดสติไปเป็นอาทิตย์ เมื่อฟื้นขึ้นมาตามองไม่เห็นนานเป็นปี ต้องรักษาด้วยการยิงเลเซอร์ ตาจึงพอมองเห็นแต่ไม่เหมือนเดิม ฉันบอกนัทว่า ต้องเอาลูกออกเพื่อช่วยชีวิต ดังคำของพุทธองค์ที่ว่า พึงสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต แล้วนัทอายุแค่ 29 ปี ยังมีโอกาสท้องต่อไป ซึ่งแม้โอกาสจะเกิดครรภ์เป็นพิษซ้ำ แต่หากเราเปลี่ยนแปลงปัจจัยที่เสี่ยงต่อครรภ์เป็นพิษก่อนท้อง เช่นควบคุมความดันโลหิตให้ปกติ ลดน้ำหนัก ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ลดความเครียด พักผ่อนเพียงพอ รับประทานผักผลไม้ให้มาก เมื่อตั้งครรภ์ก็รับประทานยาที่ป้องกันครรภ์เป็นพิษ ท้องหน้าอาจจะได้ลูกที่สมบูรณ์แม่ก็แข็งแรง นั่นเองนัทจึงยินยอมให้แพทย์เอาเด็กออก แม้ลูกไม่รอดแต่แม่ก็ปลอดภัยหายจากอาการครรภ์เป็นพิษภายใน 1 สัปดาห์หลังคลอด
เกร็ดเพิ่มเติม
HEELP เป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงของครรภ์เป็นพิษอย่างรุนแรง เป็นสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้แม่และเด็กเสียชีวิตจากอาการครรภ์เป็นพิษ HEELP ย่อมาจาก
HEmolysis = มีการแตกตัวของเม็ดเลือด
Elevated liver enzyme = ค่าเอ็นไซมน์ของตับสูง (ตับทำงานผิดปกติ)
Low Platelet = เกล็ดเลือดต่ำ
บทความโดย พญ.ชัญวลี ศรีสุโข
ภาพโดย shutterstock