AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ตั้งครรภ์ 9 เดือน และพัฒนาการทารกในครรภ์

ตั้งครรภ์ 9 เดือน ดีใจกับคุณแม่ด้วยค่ะที่จะได้เห็นหน้าลูกน้อยในเร็ววันนี้แล้ว เพราะในช่วงตั้งครรภ์ 9 เดือนนี้ ลูกน้อยพร้อมที่จะออกมาลืมตาดูโลกและพบหน้าคุณแม่ ร่างกายคุณแม่เองก็มีสัญญาณที่บ่งบอกถึงการคลอดอีกด้วยค่ะ

ตั้งครรภ์ 9 เดือน และพัฒนาการทารกในครรภ์

 

 

ตั้งครรภ์ 9 เดือน การเปลี่ยนแปลง อาการแม่ท้อง

ช่วงใกล้คลอดศีรษะของลูกน้อยลงมาในช่องเชิงกรานใกล้ปากมดลูกเพื่อเตรียมคลอดแล้ว จะทำให้คุณแม่มีอาการท้องลด โดยที่คุณแม่จะรู้สึกเบาสบายแถวๆ ลิ้นปี่รวมทั้งยังหายใจได้สบายขึ้น แต่หากเข้าสู่การตั้งครรภ์เดือนที่ 9 แล้ว ท้องยังไม่ลดลงก็ไม่ผิดปกติค่ะ เพราะคุณแม่อาจจะมีอาการท้องลดในช่วงที่เจ็บครรภ์คลอดได้

เพราะมดลูกของคุณแม่ได้ขยายตัวขึ้นตามตัวของลูกน้อยที่ใหญ่คับครรภ์ จนทำให้ดันกระเพาะอาหารและลำไส้คุณแม่ให้สูงขึ้น ส่งผลให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมา ทำให้คุณแม่มีอาการแสบร้อนกลางอกได้  วิธีบรรเทาอาการคือ ให้คุณแม่กินอาหารในปริมาณน้อยๆ แต่พออิ่ม คืองดการกินอาหารครั้งเดียวเยอะๆ แต่ให้กินครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยมื้อ พยายามเคี้ยวอาหารให้ละเอียด หลังกินอาหารควรนั่งพักสักครู่ ไม่นอนทันที ก็จะช่วยป้องกันอาการแสบร้อนกลางอก และจุกเสียดได้ค่ะ

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

ติดตาม คำแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ 9 เดือน คลิกต่อหน้า 2

เจ็บท้องจริง เจ็บท้องเตือน ต่างกันอย่างไร?

อาการ “เจ็บท้องเตือน” คือ เกิดจากการที่มดลูกขยายตัวเต็มที่ และเคลื่อนลงต่ำเพื่อเตรียมคลอด จนมีอาการหดเกร็งตัวเป็นบางครั้ง ซึ่งอาการแสดงของเจ็บท้องเตือนคือ

อาการ “เจ็บท้องจริง” คือ อาการเจ็บท้องที่เกิดจากมดลูกบีบรัดตัวเพื่อจะคลอด ทำให้คุณแม่มีอาการ

หากคุณแม่มีอาการเจ็บท้องจริงดังที่กล่าวมา ให้รีบไปพบแพทย์ทันที เพราะคุณแม่กำลังจะคลอดลูกน้อยแล้วค่ะ

คลอดธรรมชาติ และการผ่าตัดคลอด

การจะผ่าคลอด หรือคลอดธรรมชาติของคุณแม่นั้น โดยส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะขึ้นอยู่กับสุขภาพร่างกายและความต้องการของคุณแม่ โดยสูติแพทย์จะเป็นผู้ดูแลและตรวจภายใน เพื่อประเมินขนาดของอุ้งเชิงกรานและขนาดของลูกน้อยเมื่ออายุครรภ์ครบกำหนด รวมถึงสุขภาพคุณแม่ และภาวะแทรกซ้อนต่างๆ  ซึ่งหากทุกอย่างเหมาะสม และคุณแม่มีความตั้งใจที่จะคลอดธรรมชาติ โดยไม่มีข้อบ่งชี้ให้ต้องผ่าคลอด ก็จะสามารถคลอดตามธรรมชาติได้

ส่วนการผ่าตัดคลอด ในทางวิชาการจะทำเมื่อมีข้อบ่งชี้ต่างๆ หรือความเสี่ยงต่อสุขภาพคุณแม่และลูกน้อย เช่น ลูกไม่กลับหัวหรืออื่นๆ หรือในปัจจุบันที่มักจะเป็นไปตามความต้องการของคุณแม่ โดยความแตกต่างของการคลอด คือ การคลอดธรรมชาติ จะเจ็บน้อยกว่า คุณแม่และลูกน้อยจะปรับตัวได้เร็วและดีกว่าการผ่าตัดคลอด  ส่วนการผ่าตัดคลอดต้องใช้แพทย์ วิสัญญีแพทย์ และความพร้อมของห้องผ่าตัด ใช้วิธีการที่ยุ่งยากกว่า คุณแม่จะฟื้นตัวได้ช้ากว่าคลอดธรรมชาติ  แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับข้อบ่งชี้และความจำเป็น ว่าการคลอดวิธีไหนจะปลอดภัยต่อคุณแม่และลูกน้อยมากที่สุดค่ะ

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

เตรียมพร้อมให้นมแม่ แก่ลูกน้อย

ลูกน้อยของคุณแม่จะได้รับคุณค่าน้ำนมคุณภาพจากคุณแม่หลังคลอดทันทีและเต็มที่  หากคุณแม่มีการเตรียมพร้อมดูแลเต้านม และแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง ซึ่งปัญหาการให้นมแม่ที่พบบ่อย ได้แก่ ปัญหา หัวนมสั้น

แก้ปัญหา หัวนมสั้น

หากคุณแม่มีหัวนมสั้น สามารถแก้ไขได้ด้วยการนวดคลึงเต้านมตั้งแต่ตั้งครรภ์ โดยมีวิธีการดังนี้ (ยกเว้นกรณีคุณแม่นวดเต้านมแล้วท้องแข็ง เจ็บท้อง ควรงดการนวดเพื่อป้องกันการคลอดก่อนกำหนด)

  1. ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับด้านข้างของหัวนม คลึงไปมาเบาๆ และจับหัวนมดึงยืดออกมา เล็กน้อยแล้วปล่อย ควรทำซ้ำ 2-3 ครั้ง นานครั้งละ 2-5 นาที จะช่วยให้หัวนมของคุณแม่ที่สั้นหรือฝังอยู่ในลานนม ยื่นยาวออกมาได้
  1. วางนิ้วหัวแม่มือทั้ง 2 ข้างให้ชิดโคนหัวนม กดและดึงออกจากกันไปทางด้านข้างทั้ง 2 ข้าง ทำแบบนี้ทั้งทางด้านบนและด้านล่าง และทำซ้ำหลายๆครั้งให้รอบบริเวณหัวนม

หากลองทำแล้วหัวนมคุณแม่ยังสั้นอยู่ ควรลองปรึกษาแพทย์ถึงการแก้ปัญหานี้ในวิธีอื่นๆ เพื่อให้หลังคลอดคุณแม่มีเต้านมและหัวนมที่พร้อมสำหรับการให้ลูกน้อยได้ทันทีค่ะ

ติดตาม พัฒนาการทารกในครรภ์ 9 เดือน คลิกต่อหน้า 3

พัฒนาการทารกในครรภ์ 9 เดือน

อ่านบทความอื่นที่น่าสนใจ

มดลูกเข้าอู่ช้า และอาการผิดปกติของมดลูกหลังคลอด

เซ็กส์หลังคลอด เริ่มเมื่อไหร่?

9 วิธีลดน้ำหนักหลังคลอด..ให้คุณแม่กลับมาสวยเป๊ะเหมือนเดิม!

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids