ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าเราสามารถย่อโลกทั้งใบให้มาอยู่ในจอสี่เหลี่ยมๆ บนมือของเราได้ และมอบความบันเทิงเพลิดเพลินจนฉุดไม่อยู่ ก้มหน้ากดๆ จิ้มๆ แต่เมื่อเลิกเล่นแล้ว อาการปวดคอ เมื่อยล้า แสบตาก็มาเยือนเป็นโบนัสทันที ยิ่งสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว ภัยจากมือถือ ยิ่งทวีคูณขึ้นเป็นสองเท่า
6 ภัยจากมือถือ แม่ตั้งครรภ์ควรระวัง
The Problem 1 : ปวดเมื่อย
เมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 2 ขนาดท้องของคุณแม่ใหญ่ขึ้น และยื่นมาด้านหน้าจนเห็นได้ชัดเจน กระดูกสันหลังจึงต้องแอ่นและรับน้ำหนักมากเป็นพิเศษ การนั่งในท่าเดิมๆ นานๆ จึงทำให้เกิดอาการปวดหลังมากขึ้นกว่าเดิม แถมการนั่งกดๆ จิ้มๆ ยังทำให้ปวดต้นคอจากการก้ม และปวดสะบักจากการถือมือถือหรือแท็บเล็ตนานๆ
The Fix
ปรับเปลี่ยนท่าทางทุกๆ 20 นาที ลองมองหาสิ่งของในบ้านที่ห่างจากบริเวณที่เรานั่งสัก 20 ฟุต เดินไปมาสัก 20 วินาที และในทุกๆ 1 ชั่วโมง ก็ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสาย ให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย จะทำให้เลือดลมไหลเวียนได้สะดวก
The Problem 2 : ตาแห้ง ตามัว
แสงจากหน้าจอไม่ว่าจะเป็นมือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ และโทรทัศน์ย่อมส่งผลถึงดวงตาทั้งสิ้น เพราะแสงจากหน้าจอและแสงในห้องมีความแตกต่างกัน จึงทำให้สายตาของเราต้องเพ่งมองมากกว่าปกติ นอกจากนี้ การถือดูในระยะที่ใกล้เกินไป จะทำให้ดวงตาเราทำงานหนักขึ้นด้วย ทำให้ตามัว มองอะไรไม่ชัดชั่วขณะ และโดยปกติ คนเราจะกะพริบตา 20 ครั้งต่อนาที แต่บางทีเราก็เผลอจ้องหน้าจอจนเพลิน ทำให้เกิดอาการตาแห้ง แสบตาจนน้ำตาไหลได้
The Fix
ควรเปิดไฟขณะเล่นมือถือเพื่อช่วยลดทอนแสงสว่างจากหน้าจอที่จ้าเกินไป จากนั้นลองถือมือถือให้ห่างจนสุดมือ ถ้าเห็นว่าตัวอักษรเล็กเกินไป ก็ขยายขนาดเพิ่มขึ้น จะได้ไม่เผลอเพ่งดูจนชิดหน้าจอ และหากเกิดอาการแสบตา ให้ใช้น้ำตาเทียมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา กะพริบตาบ่อยๆ นอกจากนี้อย่าลืมรับประทานอาหารที่มีโอเมก้า-3 เพราะมีส่วนช่วยเพิ่มปริมาณน้ำตาไว้หล่อเลี้ยงให้ดวงตาไม่แห้ง
อ่าน “6 ภัยจากมือถือ แม่ตั้งครรภ์ควรระวัง (ต่อ)” คลิกหน้า 2
The Problem 3 : นอนดึก
เพราะต้องอัพเดตเฟสบุ๊ค โพสต์รูปอินสตาแกรม อ่านข่าวในเว็บบอร์ด เล่นเกมอีกหน่อยปิดท้าย เงยหน้ามาอีกทีเที่ยงคืนเสียแล้ว การนอนดึกเป็นประจำจะทำให้คุณแม่เพลีย ไม่สดชื่นในตอนกลางวัน ปวดหัว หงุดหงิด และทำให้อ้วนง่ายขึ้น
The Fix
กำหนดเวลาในการเล่นให้แน่นอนและเคร่งครัด หรือหากิจกรรมอื่นมาทำแทนการเล่นมือถือเช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง เป็นต้น ซึ่งในไตรมาสนี้ถือเป็นไตรมาสที่นอนหลับได้ง่ายที่สุดแล้ว
The Problem 4 : เกิดความเครียด
การใช้โทรศัพท์มือถืออยู่ตลอดเวลา เท่ากับว่าคุณแม่พร้อมที่จะรับโทรศัพท์ ตอบข้อความต่างๆ หรืออ่านข้อความที่แจ้งเตือนเข้ามาทันทีผ่านโซเชียลมีเดียตลอดเวลา ทำให้เกิดความเครียดได้โดยไม่รู้ตัว
The Fix
คุณแม่ควรใช้โทรศัพท์มือถือเท่าที่จำเป็น ลองวางโทรศัพท์มือถือแล้วหันมาอ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมอย่างอื่นแทนการจับโทรศัพท์มือถือไว้ตลอดเวลา การอ่านหนังสือนอกจากจะได้รับความรู้แล้ว หากคุณแม่อ่านออกเสียงให้ลูกในครรภ์ฟังลูกน้อยก็จะได้รับความรู้ และส่งเสริมพัฒนาการไปด้วย
อ่าน “6 ภัยจากมือถือ แม่ตั้งครรภ์ควรระวัง (ต่อ)” คลิกหน้า 3
The Problem 5 : เสียสมาธิ
การใช้โทรศัพท์มือถือเชื่อมต่อเข้ากับโซเชียลตลอดเวลา อาจส่งผลให้เสียสมาธิได้ เนื่องจากต้องห่วงหน้า พะวงหลังคอยดูว่าจะมีใครติดต่อเข้ามาผ่านโซเชียลมีเดียบ้าง หรืออาจจะถึงขั้นติดโทรศัพท์มือถือจนกลายเป็นความวิตกกังวลตามมา
The Fix
คุณแม่ลองวางมือถือ แล้วหันมาฝึกสมาธิ ฝึกลมหายใจ หรือฝึกซ้อมการหายใจเอาไว้เตรียมคลอดลูก ปล่อยวางจากโลกโซเชียลสักครู่ เพื่อให้ทั้งคุณแม่ และลูกน้อยในครรภ์ได้ผ่อนคลาย
The Problem 6 : นิ้วล็อค
การใช้นิ้วในการพิมพ์ข้อความ หรือเล่นเกมนานเกินไป อาจส่งผลให้คุณแม่เกิดอาการนิ้วล็อคได้ เนื่องจากมีการอักเสบของเส้นเอ็น และปลอกหุ้มเอ็นที่ใช้ในการงอนิ้ว และข้อมือ ทำให้เกิดอาการปวดบวมได้
The Fix
คุณแม่ควรพักจากการใช้โทรศัพท์มือทุกๆ 30 นาที หมั่นบริหารมือ หรือบีบนวด เพื่อพักนิ้วมือ และข้อมือบ้าง จะช่วยให้คุณแม่บรรเทาอาการบาดเจ็บจากการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานๆ ได้
ข้อมูลอ้างอิง: สนุกดอทคอม
อ่านบทความที่น่าสนใจ คลิก!!
หมอเผย! แก้ปัญหา “ลูกติดมือถือ” ผิดวิธี! ส่งผลเสียต่อพัฒนาการ
อันตรายจากคลื่นโทรศัพท์มือถือ เสี่ยงมะเร็ง-ทำร้ายสมองหรือไม่?
แพทย์เตือน! ให้ลูกเล่นมือถือ เสี่ยงพัฒนาการแย่ลงในทุกด้าน
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่