ช่วงตั้งครรภ์เป็นเวลาที่คุณผู้หญิงหลายคนใฝ่ฝันถึง เพราะกำลังจะมีสมาชิกตัวน้อยๆ เข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวให้สมบูรณ์มากขึ้น แต่ทว่าขณะตั้งครรภ์คุณแม่หลายท่านอาจมีอาการคันหน้าท้อง โดยเฉพาะช่วงระยะใกล้คลอด เมื่อสำรวจดูอาจพบว่าผิวหนังบริเวณนั้นแตกเป็นร่องซะแล้ว
ปัญหาผิวแตกลาย เกิดจากผิวหนังของเราถูกยืดหรือดึงให้ขยายตัวออกอย่างรวดเร็ว โดยมักเริ่มบริเวณหน้าท้อง และลามมาที่สะโพก หรือต้นขาด้วย โดยจะเกิดเป็นรอยทางยาวสีชมพูเรื่อๆ หรือแดง เมื่อดูให้ละเอียดจะพบว่าผิวบริเวณนั้นแบนหรือฝ่อราบลง บางรายอาจมีอาการคันร่วมด้วย ต่อมาจะมีสีเข้มขึ้นเป็นสีแดงหรือม่วง ถ้าปล่อยทิ้งไว้ในระยะยาว รอยนี้จะกลายเป็นทางยาวซีดๆ เงาๆ ได้ รอยแตกส่วนใหญ่กว้าง 1-10 มิลลิเมตร และยาวได้หลายเซนติเมตร
ปัจจัยที่ส่งเสริมให้มีโอกาสเกิดรอยแตกลายได้ง่ายขึ้น ได้แก่ การตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุน้อย อัตราการเพิ่มของน้ำหนักตัวระหว่างตั้งครรภ์ น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดรวมถึงน้ำหนักตัวของทารกแรกคลอด นอกจากนี้แล้ว ถ้าคนในครอบครัวเคยประสบปัญหาหน้าท้องลายขณะตั้งครรภ์ยิ่งทำให้ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะนี้สูงขึ้น
แม้ว่าอาการแตกลาย ไม่ได้มีผลต่อสุขภาพโดยรวม แต่ขืนปล่อยไว้นานขึ้นโดยไม่ได้รักษา รอยแตกลายจะมีสีซีดลงจนเป็นสีขาว ผิวบางและบุ๋มลงเหมือนแผลเป็น คงไม่มีคุณแม่คนไหนอยากให้เกิดรอยเช่นนั้น นอกจากจะไม่สวยงามแล้วยังทำให้ขาดความมั่นใจ
การรักษารอยแตกลายเป็นเรื่องยากและใช้เวลาพอสมควร โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีปัญหามาก เช่นมีรอยแตกเป็นบริเวณกว้างหรือเป็นมานาน อาจต้องใช้การรักษาหลายวิธีประกอบกัน จึงอาจทำให้เกิดความกังวล ท้อแท้ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงขึ้น ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุด คือการป้องกันไม่ให้เกิดรอยแตกลาย แล้วเราจะมีวิธีใดบ้างที่ช่วยถนอมดูแลผิวตลอด 9 เดือนของตั้งครรภ์
ขั้นตอนการดูแลรักษาและจัดการปัญหาท้องลายหลังคลอด
ปัญหาท้องลายที่จะทำให้จางลงจนผิวดูเนียนเรียบได้ จะใช้วิธีง่ายๆ แต่คุณแม่ต้องอาศัยความสม่ำเสมอ สามารถแบ่งออกได้เป็นสองช่วง ซึ่งหากคุณแม่ยังสาวมีการปฏิบัติตัวตามขั้นตอนต่อไปนี้ ก็จะสามารถช่วยลดและรักษาปัญหาท้องลายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
อ่านต่อ >> วิธีการดูแลรักษาปัญหาท้องแตกลายระหว่างตั้งครรภ์ คลิกหน้า 2
การดูแลรักษาตัวเองระหว่างตั้งครรภ์
1.ดูแลตั้งแต่เริ่มเป็น ไม่ปล่อยทิ้งไว้จนรอยแตกเห็นเด่นชัด
คุณแม่บางคนอาจชะลาใจ เมื่อตั้งท้องอ่อนๆ ท้องยังไม่ขยายก็ไม่เห็นลอยแตก จึงคิดว่าท้องเราอาจไม่มีรอยแตก ซึ่งแท้จริงแล้วกันไว้ดีกว่าแก้ คือวิธีที่ดีที่สุด หากรู้ตัวว่าตั้งครรภ์และรู้สึกว่าหน้าท้องเริ่มขยายใหญ่ สิ่งแรกคือสังเกตว่าหน้าท้องเริ่มมีรอยแตกเป็นริ้วหรือไม่ หากพบรอยแตกใหม่ๆ เร็วขึ้นก็สามารถรักษาได้ง่ายและทำให้จางลงหรืออาจกำจัดให้เรียบเนียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าปล่อยจนรอยแตกเหล่านั้นเห็นเด่นชัด หากปล่อยไว้นานๆ โอกาสรักษาให้หาย 100% ก็จะลดลงไปด้วย
2.ดูแลง่าย ๆ ด้วยการอาบน้ำ
ให้อาบน้ำในระดับอุณหภูมิห้องก็จะช่วยป้องกันการเกิดท้องลายได้ เพราะการอาบน้ำอุ่นมากๆจะยิ่งทำให้ผิวหนังกลายเป็นขุย และทำให้เกิดอาการท้องแตกลายมากยิ่งขึ้นในช่วงท้ายๆก่อนการคลอดบุตร รวมถึงน้ำที่ค่อนข้างร้อนจะทำให้ผิวแห้งแตกเป็นขุยเพราะขาดความชุ่มชื้น โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีผิวแห้งอยู่แล้ว จะยิ่งทำให้หน้าท้องแตกลายมากขึ้น
3.ห้ามเกาเด็ดขาด
ถ้าหากรู้สึกคันบริเวณหน้าท้องโปรดหลีกเลี่ยงการเกา เพราะจะเป็นการทำร้ายผิว ถ้าหากเกิดอาการระคายเคืองควรไปรับยาทาเพื่อแก้อาการคันจากแพทย์จะดีกว่า แต่ถ้ากลัวอดใจให้เกาไม่ได้ก็ให้ทำการตัดเล็บเอาไว้สั้นเสียตั้งแต่เนิ่นๆจะช่วยลดการทำร้ายผิวที่เกิดขึ้นจากการเกาได้ หรือการลูบๆถูๆเบาๆก็ช่วยบรรเทาได้
4.หมั่นทาครีมบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและเติมน้ำให้ผิว
สำหรับคุณแม่ที่ผิวบริเวณหน้าท้องขยายมากๆ ต้องเริ่มทาครีมบำรุงสูตรเข้มข้นหรือออยล์สำหรับทาผิวหญิงตั้งครรภ์โดยเฉพาะ โดยใช้ทาและนวดบริเวณหน้าท้องให้บ่อยครั้งในแต่ละวัน สามารถใช้ได้ทั้งครีมสำหรับลดรอยแตกลายโดยเฉพาะหรือจะใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าวก็ได้ ใช้ครีมทาผิวนวดบริเวณหน้าท้องวันละหลาย ๆ ครั้งเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังบริเวณหน้าท้อง
5.นองตะแคงช่วยได้
ในขณะตั้งครรภ์ทำให้เกิดท้องลายได้ง่าย โดยปกติแล้วการนอนตะแคงถือว่าเป็นท่าที่นอนสบายที่สุดของผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ แต่การนอนตะแคงนั้นทำให้ผิวหนังเกิดการดึงรั้งไปในทิศทางเดียวกันมาก แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้หมอนมารรองรับหน้าท้องเอาไว้ ซึ่งจะช่วยทำให้ปัญหาท้องลายลดลง
6.ทานอาหารเสริมประเภทวิตามินและเกลือแร่
สารอาหารประเภทเกลือแร่และวิตามินมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณให้สวยงามเปล่งปลั่งจากภายใน ซึ่งอาหารมื้อหลักในแต่ละมื้ออาจไม่มีสารอาหารบำรุงผิวที่คุณแม่ต้องการอย่างเพียงพอ ดังนั้นหากต้องการซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวที่เกิดรอยแตกลาย การรับประทานอาหารเสริม เช่น น้ำมันจมูกข้าว วิตามินอี คอลลาเจน ก็สามารถช่วยเรื่องบำรุงผิวได้ เพียงรับประทานวันละ 1 เม็ดเป็นประจำ
อ่านต่อ >> วิธีการดูแลรักษาปัญหาท้องแตกลายหลังคลอด คลิกหน้า 3
การดูแลรักษาปัญหาท้องแตกลายหลังคลอด
1.ออกกำลังกายสูตรเฉพาะสำหรับคุณแม่หลังคลอด
หลังคลอดร่างกายของคุณแม่ยังอ่อนเพลียรวมถึงอยู่ในช่วงปรับสภาพ แต่ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถออกกำลังและทำกิจกรรมหนักๆ ได้ตามใจชอบ ก็สามารถเลือกออกกำลังกายแบบเฉพาะสำหรับหญิงสาวหลังคลอดได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น โยคะ พีลาทิส การว่ายน้ำเบาๆ หรือเดินเร็ว เป็นต้น การออกกำลังกายทำให้ร่างกายกระฉับกระเฉง สุขภาพแข็งแรง โลหิตไหลเวียนดีขึ้น ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส ทำให้รูปร่างกระชับได้สัดส่วน เป็นตัวช่วยลดรอยแตกลายที่มองเห็นชัดได้เป็นอย่างดี
2.การใช้ครีมทาผิวหลังการคลอด
มีผลวิจัยว่า ครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากโกโตโคลา วิตามินอี และคอลาเจนไฮโดราไลเสท มีคุณสมบัติในการช่วยลดการแตกลายของหน้าท้องได้ ในกรณีที่มีอาการท้องลายไม่มากนัก สามารถใช้ยาที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ ทาเพื่อช่วยให้รอยแตกลายจางลงได้
3.ดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ และเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
การดื่มน้ำนอกจากจะทำให้ร่างกายสดชื่นและระบบต่างๆ ทำงานได้อย่างเป็นปกติแล้ว ยังเป็นวิธีการเพิ่มความชุ่มชื้นและเติมน้ำให้ผิวอย่างรวดเร็วและดีที่สุด เมื่อผิวเรามีความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดรอยแตกเพิ่มมากขึ้นรวมถึงลดรอยแตกลายที่เป็นอยู่ให้จางลงได้ รวมทั้งเครื่องดื่มจำพวกชาเขียว ชาสมุนไพร น้ำผักและน้ำผลไม้ เพื่อเป็นการช่วยคืนความชุ่มชื้น ป้องกันรอยแตกของผิวได้เป็นอย่างดี
วิธีรักษาผิวแตกลายแบบธรรมชาติ
การสครับผิวช่วงอาบน้ำให้ใช้ใยบวบขัดผิวไปด้วย ทำให้ผิวของคุณจะได้ผ่อนคลายและได้รับการปรนนิบัติอย่างเต็มที่ โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีสารสกัดมาจากธรรมชาติและมีประสิทธิภาพในการซึมซาบสู่ผิวได้ดี นำมาใช้ขัดหรือสครับผิวบริเวณที่มีปัญหา แนะนำให้ทำเพียง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือถ้าจะให้ง่ายกว่านั้นก็จะอาจใช้สูตรสครับผิวทำเองจากธรรมชาติก็ได้ เช่น
สูตรมะนาว หลายคนใช้สูตรนี้แล้วได้ผล คือการใช้น้ำมะนาวและดินสอพองมาผสมกันแล้วใช้ทาบริเวณผิวแตกลาย ซึ่งน้ำมะนาวจะมีฤทธิ์เป็นกรดแบบธรรมชาติที่ช่วยลดปัญหาผิวแตกลายได้ และยังช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้อาการแตกลายบนผิวหายจางลงอย่างรวดเร็วอีกด้วย
สูตรขมิ้นผสมมะขาม ให้นำขมิ้นและมะขามมาผสมกันแล้วใช้ขัดนวดผิว ขมิ้นนั้นมีเคอคูมินที่ทำให้ผิวขาว ส่วนมะขามนั้นมีกรดเอเอชเอที่ช่วยในเรื่องการผลัดเซลล์ผิว
สูตรสครับน้ำตาล อีกวิธีที่ทำได้ง่ายและสะดวกสุด ๆ เพียงแค่คุณหยิบน้ำตาลมาผสมกับน้ำอัลมอนด์และน้ำมะนาว จากนั้นก็นำส่วนผสมที่มาขัดผิวที่แตกลาย ก็จะช่วยแก้ปัญหาผิวแตกลายได้แล้วล่ะ
อ่านต่อ >> วิธีรักษาปัญหาท้องแตกลายหลังคลอดด้วยสูตรธรรมชาติ คลิกหน้า 4
การใช้น้ำมันหรือสมุนไพรนวดทา
น้ำมันงา ให้คุณใช้น้ำมันงานำมาทาผิวบริเวณที่เป็นรอยแตกเป็นประจำ โดยให้ชโลมทาทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เพราะน้ำมันงานั้นมีชื่อเสียงมากในด้านการบำรุงผิว ที่สามารถช่วยทำให้ผิวที่เคยแห้งกร้านกลับมาดูสดใสมีน้ำมีนวลได้อีกครั้ง
น้ำมันมะกอก อุ่นจนเกือบร้อนแล้วนำมานวดวนบริเวณผิวที่แตกลาย ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วค่อยล้างออก
สูตรสมุนไพรว่านหางจระเข้ ใช้วุ้นสีขาวจากว่านหางจระเข้ที่ล้างยางออกแล้ว นำมาทาบริเวณผิวแตกลายเป็นประจำทุกเช้าและเย็น ซึ่งจะช่วยทำให้รอยแตกลายนั้นค่อย ๆ ดูจางลงได้ หรือใช้เฉพาะน้ำเมือกจากใบสดว่านหางจระเข้ 1 ส่วน นำมาผสมกับครีมบำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิวของเราอีก 5 ส่วน จากนั้นก็นำมาใช้ทาผิว โดยผสมพอใช้ในแต่ละครั้ง ถ้าจะใช้อีกครั้งก็ให้ผสมใหม่ทุกครั้ง
สูตรใบบัวบก นำมาตำคั้นเอาแต่น้ำ จากนั้นนำมาทาบริเวณรอยแตกลายเป็นประจำทุกเช้าและเย็น ผิวที่แตกลายก็จะค่อย ๆ จางลงได้เช่นกัน ส่วนอีกวิธีนั้นให้ใช้มันฝรั่งสด 1 หัว นำมาปอกเปลือกออกแล้วบดให้ละเอียด ใช้ทาบริเวณที่ผิวแตกลาย ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด แต่จะใช้ได้ผลเฉพาะผิวกับที่เริ่มแตกลายเท่านั้น นอกจากนี้คุณยังสามารถนำไข่ขาวมามาส์กผิวบริเวณที่เป็นรอยแตกลายได้อีกด้วย
เพราะความสวยรอไม่ได้ ยิ่งมีลูกแล้วคุณแม่ต้องสวยขึ้นนะคะ ลองนำวิธีข้างต้นไปทำกันเลยค่ะ ได้ผลอย่างไร มาแชร์ประสบการณ์กันได้นะคะ
อ่านบทความน่าสนใจ
คลิก >> “กระชับหน้าท้องหลังคลอดลูกให้แบนราบด้วยเทคนิคง่ายๆ”
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.beauty24store.com , mahosot.com www.ideaforlife.net