จากสถานการณ์ โรคเอดส์ ในบ้านเราทุกวันนี้ ยังมีคุณแม่ตั้งครรภ์ และเด็กทารกเกิดใหม่ ติดเชื้อ HIV อยู่ทุกปี ทั้งที่ยาและการรักษาก้าวไปถึงขั้นทำให้ผู้ติดเชื้อ HIV มีชีวิตยืนยาวได้ตามปกติ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น แล้วคุณแม่จะรับมือได้อย่างไรเมื่อรู้ตัวว่า ติดเชื้อ HIV ขณะกำลังตั้งครรภ์ลูกน้อยอยู่ เรามีข้อมูลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาฝากค่ะ
โรคเอดส์ ในแม่ตั้งครรภ์

แพทย์หญิงกุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ สาขาโรคติดเชื้อในเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ผู้เชี่ยวชาญโรคเอดส์ในเด็ก อธิบายว่า เมื่อมีการใช้ยาต้านไวรัส HIV ในหญิงตั้งครรภ์ หรือประมาณ 10 ปีมานี้ สถานการณ์ของโรคเอดส์ในเด็กจึงดีขึ้นมาก
อัตราการติดเชื้อลดลงด้วยประสิทธิภาพของยา การติดเชื้อ HIV ในหญิงตั้งครรภ์ลดลงจาก ประมาณ 1-2% อยู่ที่ 0.8% ส่วนเด็กเกิดใหม่ที่ติดเชื้อจากปีละประมาณ 2,000 คน ลดลงอยู่ที่ประมาณ 300-400 คน
- การปกป้องเด็กในครรภ์ได้ผลสูง
การกินยาต้านไวรัสอย่างถูกต้องครบถ้วน แม่จะปกป้องลูกจากการติดเชื้อได้ และยังรักษาตนเองให้มีชีวิตยืนยาวปกติได้ด้วย
- ยาต้านไวรัสอยู่ในสิทธิประกันสุขภาพ
ผู้ติดเชื้อสามารถรักษาตัว ด้วยยาต้านไวรัสโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ และกรณีของแม่ที่ติดเชื้อ เมื่อคลอดแล้วยังมีนมผสมให้สำหรับเลี้ยงลูกไปจนถึงอายุ 1 ขวบฟรีด้วย
ด้วยสัญญาณดีของการรักษาโรคเอดส์ข้างต้น ทางการแพทย์จึงมองเห็นโอกาสที่ไม่มีเด็กเกิดใหม่ติดเชื้อ HIV ทว่ากลับไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะอะไร?
แม่ตั้งครรภ์ไม่ฝากท้อง
“เด็กทุกรายที่ติดเชื้อ HIV ในปัจจุบัน เกิดจาก แม่ไม่ได้ฝากท้อง จึงติดเชื้อขณะคลอด เมื่อคลอดแล้ว มีการตรวจถึงมารู้ว่าตนเองติดเชื้อ แม่จึงหมดโอกาสปกป้องลูกจากการติดเชื้ออย่างน่าเสียดายมาก
“การปกป้องเด็กไม่ให้ติดเชื้อ คือ แม่ต้องกินยาต้านไวรัสตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์ ดังนั้นการฝากครรภ์ตั้งแต่ช่วงแรกๆ แม่ท้องจะได้รับการตรวจ รู้เร็ว ได้กินยาเร็ว โอกาสที่ลูกจะติดเชื้อน้อยกว่า 1% หรือจะเรียกว่าแทบจะไม่ติดเชื้อเลยก็ได้ และตัวแม่เองก็มีชีวิตยืนยาวได้ปกติด้วย” คุณหมอกุลกัญญา ชี้ประเด็น
