นอกจากการอัลตร้าซาวด์ที่สามารถ ดูเพศลูกในท้อง ได้แล้ว ก็ยังมีวิธีทำนาย ทายเพศลูก อีกหลายวิธีในแบบของคนโบราณ แล้วในสมัยก่อนจะสามารถคาดเดาเพศลูกได้จากอะไรบ้าง ตามมาดูกันค่ะ
เผยวิธีทำนาย ทายเพศลูก ในท้องแบบโบราณ
ปัจจุบันการอัลตร้าซาวด์ สามารถดูและรู้เพศของลูกในท้องได้ ซึ่งกว่าจะรู้ว่าเราได้ลูกเพศอะไรก็ต้องรอจนอายุครรภ์ประมาณ 4-5 เดือน ถึงจะอัลตร้าซาวด์ได้ นั้นก็เพื่อเตรียมพร้อมในการซื้อเสื้อผ้าหรือของใช้ต่างๆให้กับลูกน้อย หรือคุณแม่บางคนก็อาจจะเตรียมการตั้งชื่อลูกว่าถ้าได้ลูกสาวจะตั้งชื่อลูกสาวว่าอะไรดี หรือถ้าได้ลูกชายจะตั้งชื่อว่าไหนดี
แต่หากเวลานั้นเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้องของคุณแม่ดันตื่นเต้น อายคุณหมอ นอนขดตัว หุบขามิดชิด ไม่ให้คุณพ่อคุณแม่เห็นเลย ก็อาจเป็นเรื่องที่น่าเสียดายและหนักใจแทนสำหรับครอบครัวที่อยากรู้
สิ่งที่กำหนดเพศของลูก
ทั้งนี้สิ่งที่กำหนดเพศของลูกในท้องนั้น แท้จริงคือ ยีนส์พันธุกรรม โดยไข่ของคุณแม่จะมีโครโมโซม X เท่านั้น ส่วนอสุจิของคุณพ่อจะมีทั้งโครโมโซม X และ Y ดังนั้น อสุจิของคุณพ่อจึงเป็นตัวกำหนด เพศของลูก ถ้าผลจากการที่อสุจิรวมกับไข่ได้เป็นโครโมโซม XX คุณแม่ก็จะได้ลูกสาว แต่หากเป็น XY คุณแม่ก็จะได้ลูกชาย
แต่ถึงอย่างนั้นคุณแม่ก็ยังมิอาจสามารถรู้ได้ว่า อสุจิของคุณสามีจะมารวมโครโมโซมเป็น XX หรือ XY ซึ่งหากไม่สามารถพึ่งพาคุณหมอด้วยการอัลตร้าซาวด์ได้แล้ว หรือหากคุณแม่อยากรู้เพศลูกก่อนไปหาคุณหมอ ก็สามารถทำได้ เพราะจริง ๆ แล้วยังมีอีกหลากหลายวิธีที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้เพศลูกได้ว่าจะเป็น ลูกสาวหรือลูกชาย ด้วย วิธีทำนาย ทายเพศลูกแบบโบราณ
ซึ่งวิธี ทายเพศลูกแบบโบราณ เป็นเรื่องเล่าสืบต่อกันมาจากคนในสมัยก่อน …ซึ่งหากคุณแม่ อยากรู้เพศลูก จะมีวิธีไหน บ้างที่สามารถ ทายเพศลูก ได้นอกจากการอัลตร้าซาวด์ ตามมาดูกันเลยค่ะ
อ่านต่อ “5 วิธีทำนายทายเพศลูกแบบโบราณ” คลิกหน้า 2
หมายเหตุ : อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า วิธี ทายเพศลูกแบบโบราณ เป็นเรื่องเล่าสืบต่อกันมาจากคนในสมัยก่อนจากรุ่นสู่รุ่นแบบไทย ๆ ซึ่งในแต่ละท้องที่มีต่างกัน และบางวิธีก็เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น ผลที่ได้จึงไม่อาจใช้อ้างอิงได้อย่างสมบูรณ์ จึงขอให้คุณแม่ใช้วิจารณญาณในการ ทำนาย ทายเพศลูก กันด้วยนะคะ
5 วิธีทำนาย ทายเพศลูก ในท้องแบบโบราณ
1. ให้เด็กเล็กๆ เหยียบท้อง
เป็นวิธีการ ทายเพศลูก จากการให้เด็กตัวเล็ก ๆ (อายุไม่เกิน 1 ขวบ) เหยียบท้อง โดยคุณแม่ท้องนอนหงาย แล้วอุ้มเด็กหญิงหรือชายมาเหยียบให้เท้าแตะลงมา
- ถ้าเด็กไม่เหยียบ หรือเหยียบข้างเดียว แปลว่าได้ “ลูกสาว”
- แต่ถ้าเหยียบเอาเท้าแตะท้อง แปลว่าได้ “ลูกชาย”
ซึ่งวิธีนี้อาจดูอันตราย ผู้เขียนจึงไม่แนะนำให้คุณแม่ท้องเสี่ยงทำกันนะคะ
2. หยิบใบไม้เสี่ยงทาย
***วิธีนี้คุณแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่ต้องไม่รู้เฉลยนะคะ*** ซึ่งคนที่จะทำนาย ต้องบอกให้คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ไปเด็ดใบไม้จากต้นไม้ มา 1 ใบ แล้วยื่นส่งให้คนที่จะทำนาย
- ถ้ายื่นส่งมาให้แล้ว ใบไม้อยู่ในลักษณะ “หงาย” ก็แปลว่าได้ “ลูกสาว”
- ถ้ายื่นส่งมาให้แล้ว ใบไม้อยู่ในลักษณะ “คว่ำ” ก็แปลว่าได้ “ลูกชาย”
ทั้งนี้เพราะธรรมชาติใบไม้ทุกชนิดทุกใบจะประกอบด้วยโครงสร้างใบสองด้าน ด้านหน้าหงายเป็นใบเรียบที่มีสีเขียวแก่ อีกด้านใบคว่ำจะขุขระ ประกอบไปด้วยก้านใบแตกแขนงเรียงเป็นแผง ซึ่งในทางด้านจิตวิทยาพิจารณาการยื่นวัสดุชนิดเดียวกันกับใบไม้สำหรับคนทั่วไปจะยื่นได้สองวิธี คือ บางคนหงายมาให้และขณะที่บางคนชอบคว่ำมาให้ จะพบสองวิธีเป็นส่วนใหญ่ แต่บังเอิญว่า…เจอตะแคงจะคว่ำก็ไม่คว่ำจะหงายก็ไม่หงาย ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้คติความเชื่อคนโบราณไม่ได้บันทึกหรือเล่าไว้ คุณแม่ก็อาจต้องเดาเอาเอง
อ่านต่อ “วิธีทำนายทายเพศลูกแบบโบราณ” คลิกหน้า 3
3. ดูจากท้อง
คนสมัยก่อนเชื่อว่า หากคุณแม่ตั้งครรภ์ลูกสาว ลักษณะท้องจะโตขึ้นด้านบนหรืออยู่สูงกว่า … แต่ถ้า หากคุณแม่ตั้งครรภ์ลูกชายอยู่ ลักษณะของท้องจะโตลงด้านล่างหรืออยู่ต่ำกว่าท้องที่อุ้มลูกสาว
หรือจากรูปทรงของท้อง คือ หากคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์มีท้องที่มีลักษณะแหลมๆและยื่นไปด้านหน้า จะได้ลูกผู้ชาย แต่ถ้าท้องของคุณแม่มีลักษณะกลมๆมนๆ และมีทรงป้านออกด้านข้าง จะได้ลูกสาว
แต่อย่างไรก็ดีในทางวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ลักษณะของท้องคุณแม่ที่ปรากฏออกมานั้นขึ้นอยู่กับความตึงของกล้ามเนื้อของเด็ก ไม่ใช่เพศของเด็ก
4. ทายจากการ บวกลบคูณหาร
ให้เอาอายุของคุณพ่อและคุณแม่ มาบวกกัน ได้เท่าไหร่แล้ว เอาคูณ 3 แล้วจากนั้นหารด้วย 7 ซึ่งการ ทายเพศลูก ก็ให้ดูจากเศษที่เหลือ
- หากเศษเป็น 1, 3, 5, 7 ก็แปลว่าได้ลูกชาย
- และถ้าเศษเป็น 2, 4, 6 ก็แปลว่าได้ลูกสาว
- แต่ถ้าเป็นเลข 0 หรือหารลงตัว ทายว่าเป็น ลูกสาว แต่คำทำนายบอกว่าอาจจะเลี้ยงยาก
อย่างไรก็ตามสูตรที่ว่ามานี้ อาจไม่ทายผลเพศลูกได้แม่นยำร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะบางครั้งก็อาจได้เศษไม่ตรงตามตำรา ซึ่งหากมองในแง่วิทยาศาสตร์ก็ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันระหว่างตัวเลขอายุของพ่อแม่กับเพศของลูกนั้นยังมีความละเอียดที่น้อยไป
5. ลักษณะหน้าตา ผิวพรรณ ของตัวคุณแม่ท้อง
มีหลายคนเคยบอกไว้ว่า ถ้าในช่วงที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์แล้วสวยขึ้น มีผิวพรรณที่เปล่งปลั่งขึ้นกว่าเดิม แสดงว่าคุณแม่กำลังจะได้ลูกชายค่ะ แต่ถ้าหากในช่วงที่ตั้งครรภ์คุณแม่มีสิว มีฝ้า หน้าดูคล้ำขึ้น ก็อาจจะเป็นสัญญาณที่บอกว่าได้ลูกสาวค่ะ แปลกใจใช่ไหมค่ะว่าทำไมตอนไม่สวยเราจึงได้ลูกสาว ก็เพราะฮฮร์โมนจากลูกสาวมีการเปลี่ยนแปลงง่าย จึงทำให้หน้าตาของคุณแม่เกิดสิว ฝ้าได้ง่ายนั่นเองค่ะ แต่ข้อสรุปที่กล่าวมานั้นยังไม่แม่นยำนะคะ เพราะทั้งหมดทั้งมวลก็ขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพของคุณแม่เองด้วยค่ะ
คุณสามารถกำหนดเพศของลูกน้อยได้หรือไม่
มีหลายทฤษฎีที่อาจใช้กำหนดเพศของลูกน้อยได้ บางคนเชื่อว่าการกินอาหารเค็ม อาหารประเภทแป้ง และอาหารซีฟู้ด ทำให้มีโอกาสได้ลูกชาย ในขณะที่การกินอาหารประเภทผักมากๆ หรืออาหารแคลอรีต่ำ อาจเพิ่มโอกาสให้ได้ลูกผู้หญิง
รวมไปถึงเรื่องตำแหน่งและช่วงเวลาของการมีเพศสัมพันธ์ก็อาจช่วยกำหนดเพศของทารกได้ การหลั่งน้ำอสุจิให้ลึกที่สุด โดยเฉพาะในช่วงวันไข่ตกช่วยเพิ่มโอกาสการได้ลูกชาย เพราะอสุจิที่เป็นเพศชาย (Y) จะว่ายน้ำได้เร็วกว่า ส่วนอสุจิที่เป็นเพศหญิง (X) จะทนกว่าและสามารถมีชีวิตอยู่ในมดลูกได้นานกว่า ดังนั้นการสอดใส่อวัยวะเพศที่ไม่ลึกมาก และห่างจากวันไข่ตกจึงมีโอกาสได้ลูกผู้หญิงมากกว่าลูกชาย
แต่สุดท้ายแล้ว โอกาสในการได้ลูกผู้หญิงหรือผู้ชายก็เป็น 50/50 พอๆ กัน และไม่ว่าลูกจะมีเพศอะไร คุณก็ควรดูแลสุขภาพให้ดีที่สุดเช่นกัน
และอย่างไรก็ตาม จากวิธีการทำนายเพศลูก หรือ ดูเพศลูกในท้อง ที่กล่าวมา เชื่อว่าคือภูมิปัญญาคนสมัยโบราณ และความต้องการพิสูจน์ทราบเพศลูกในครรภ์เป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว ซึ่งสำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่การที่ได้ลูกเพศใดเป็นเรื่องธรรมดา เพราะการได้ลูกชายหรือลูกสาวก็มีข้อดีต่างกัน สิ่งสำคัญคือ คุณพ่อคุณแม่ควรเลี้ยงดูอบรมสั่งสอน ให้ลูกเป็นคนดี มีคุณธรรมไม่ให้สร้างปัญหาสังคมในอนาคต ก็เป็นการดีที่สุดแล้ว
อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก :
- ทำนายเพศลูก ตำราจีน แม่นหรือไม่? แม่ท้องต้องลอง
- แม่สวย แต่งตัวเก่งแบบนี้ ท้องลูกสาว แน่นอน!
- สัญญาณบอก อาการแบบนี้ ท้องลูกชาย ชัวร์!
- ท่าไหนได้ลูกชาย กับสูตรทำลูกชาย ซึ่งว่าที่คุณพ่อคุณแม่ต้องลอง!!
- วิธีทำลูกสาว ไม่ใช่เรื่องยาก ต้องลองสูตรนี้!!!
ขอบคุณข้อมูลจาก : babycare.in.th , www.thaihealth.or.th
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่