AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ภาวะตกเลือดหลังคลอด ละเลยเพียงนิด อันตรายถึงชีวิตได้

ภาวะตกเลือดหลังคลอด เป็นภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ที่เป็นอันตรายต่อคุณแม่โดยตรง มีรายงานว่า ภาวะตกเลือดหลังคลอดเคยเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตของคุณแม่ตั้งครรภ์ในประเทศไทยติดต่อกันมากว่า 10 ปี  วันนี้เราจึงนำข้อมูลเกี่ยวกับอาการต่าง ๆ ที่เป็นสัญญาณเตือนให้คุณแม่เตรียมตัวรับมือกับ ภาวะตกเลือดหลังคลอด แบบสังเกตรู้ และดูแลป้องกันได้ด้วยตนเองมาฝากค่ะ

ตกเลือด คืออะไร

อาการตกเลือด คือ การมีเลือดออกทางช่องคลอดหรือช่องท้อง ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคุณแม่ตั้งครรภ์ การตกเลือดสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งก่อนคลอดและหลังคลอด โดยแบ่งเป็นระยะ ดังนี้

ภาวะตกเลือดหลังคลอด เป็นอย่างไร

คุณแม่มือใหม่หลายคนอาจจะกังวลและตกใจกับเลือดที่ไหลออกมาในระยะหลังคลอด โดยทั่วไปแล้วในช่วง 2-3 วันหลังคลอด จะมีของเหลวปนเลือดไหลออกมา หรือที่เรียกว่า น้ำคาวปลา ถือเป็นภาวะปกติของร่างกายในการซ่อมแซมแผลในโพรงมดลูก ซึ่งสีของเลือดจะจางลงและลดปริมาณลงจนหมดไปใน 3-4 สัปดาห์ คุณแม่จึงไม่ต้องวิตกกังวล เพียงสังเกตลักษณะ เช่น ระยะเวลาที่นานเกินไป หรือมีอาการอื่นแทรกซ้อนหรือไม่ เพราะอาการผิดปกติบางอย่างอาจนำมาซึ่งภาวะตกเลือดหลังคลอดที่เป็นอันตรายถึงชีวิต หากไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ

ภาวะตกเลือดหลังคลอด สัญญาณอันตรายถึงชีวิต

ภาวะตกเลือดหลังคลอด ที่ผิดปกตินั้น มีด้วยกันหลายสาเหตุ โดยแบ่งความรุนแรงออกเป็น 2 ระยะ คือ การตกเลือดทันทีภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอด ซึ่งมีความรุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และการตกเลือดในระยะ 24 ชั่วโมง จนถึง 6 สัปดาห์หลังคลอด  ลองมาดูสาเหตุและความรุนแรงว่าแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

อ่านต่อ สาเหตุการตกเลือดทันทีภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอด
คลิกหน้า 2

สาเหตุการตกเลือดทันทีภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอด

สาเหตุส่วนใหญ่มาจากกล้ามเนื้อมดลูกมีการขยายตัวมากเกินไป มักจะเกิดในกรณีครรภ์แฝดหรือตั้งครรภ์มาแล้วหลายครั้ง หรือเกิดการฉีกขาดของกล้ามเนื้อมดลูกจากการคลอด มีเนื้องอกในมดลูก รกเกาะต่ำ มีการติดเชื้อในโพรงมดลูก และได้รับยาในกลุ่มต้านการหดรัดตัวของมดลูก กลุ่มคุณแม่ที่มีความเสี่ยงต่อปัจจัยการตกเลือดในข้อนี้ คือ คุณแม่ครรภ์แฝด คุณแม่อายุมาก คุณแม่ที่มีภาวะเบาหวาน ทารกในครรภ์ตัวใหญ่มาก คุณแม่ที่มีรกเกาะต่ำ เป็นต้น

ภาวะรกค้าง คือ รกไม่หลุดหรือคลอดออกมาภายใน 30 นาทีหลังจากทารกคลอดออกมาแล้ว โดยอาจจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของรก หรือทั้งรกเลยก็ได้ ทำให้รกไปขวางการหดตัวของมดลูก และเกิดอาการตกเลือดหลังคลอดตามมา

รกโดยทั่วไปจะวางตัวอยู่บนกล้ามเนื้อมดลูก แต่ในกรณีรกฝังตัวลงไปในกล้ามเนื้อทะลุผนังกล้ามเนื้อ ทำให้หลังคลอดรกจึงไม่หลุดออกมาด้วยและติดอยู่ในมดลูก จึงเกิดการติดเชื้อ ในบางรายต้องทำการล้วงรก ซึ่งมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เพิ่มขึ้น

การฉีกขาดของฝีเย็บหลังคลอดเป็นสาเหตุของการตกเลือดมากเป็นอันดับที่ 2 รองจากกล้ามเนื้อตัวมดลูกหดรัดตัวไม่ดี หากแพทย์พบว่าหลังคลอดคุณแม่มีเลือดออกมากผิดปกติ จะต้องรีบสำรวจฝีเย็บ และปากมดลูกว่ามีการฉีกขาดส่วนใด เพื่อทำการเย็บซ่อมห้ามเลือดต่อไป เพราะหากปล่อยให้เลือดไหลไปเรื่อย ๆ อาจทำให้คุณแม่เสียเลือดจนเสียชีวิตได้

มดลูกแตกเกิดได้ 2 ส่วน คือ เนื้อเยื่อทุกชั้นของมดลูกฉีกแยกออกจากกัน หรือเนื้อเยื่อเพียงบางส่วนแยกออกจากกัน หากรอยแยกไม่ใหญ่มากแพทย์จะใช้วิธีเย็บซ่อมเพื่อช่วยห้ามเลือดและรักษาแผล แต่ถ้ารอยแยกลึกจนไม่สามารถเย็บได้ แพทย์จำเป็นต้องตัดมดลูก เพื่อรักษาชีวิตคุณแม่ไว้

โดยทั่วไปเลือดที่ออกจากมดลูกจะถูกขับออกมาทางช่องคลอด แต่หากได้รับการกระทบกระเทือนระหว่างคลอด อาจทำให้เกิดเลือดคั่งและมีก้อนเลือดดันผนังช่องคลอด แพทย์จำเป็นต้องกรีดช่องคลอดแล้วเอาก้อนเลือดนั้นออก เพื่อลดความเจ็บปวด

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

อ่านต่อ สาเหตุการตกเลือดในระยะ 24 ชั่วโมง
จนถึง 6 สัปดาห์หลังคลอด
 คลิกหน้า 2

เครดิตภาพ : gurindersinghnagi.blogspot.com

สาเหตุการตกเลือดในระยะ 24 ชั่วโมง จนถึง 6 สัปดาห์หลังคลอด

อาการตกเลือดระยะหลัง มักจะเกิดในช่วง 1–2 สัปดาห์หลังคลอด ซึ่งพบได้ไม่บ่อยนัก ส่วนใหญ่มักจะเกิดการติดเชื้อจากการตกค้างของเนื้อเยื่อรก จนกลายเป็นติ่งเนื้อ เมื่อติ่งเนื้อหลุดลอกออกจึงมีเลือดสดไหลออกมา หรือเรียกว่าภาวะอักเสบติดเชื้อที่เยื่อบุโพรงมดลูก อาการที่แสดงว่าเกิดการอักเสบที่เยื่อบุโพรงมดลูกที่สังเกตได้ คือ น้ำคาวปลาจะมีกลิ่นเหม็น กดเจ็บบริเวณมดลูก และมีไข้ร่วมด้วย การรักษาระยะแรกจะให้ยาเพื่อหยุดเลือด ถ้าเลือดไม่หยุดแพทย์จะแนะนำให้ทำการขูดมดลูกเพื่อเอาเนื้อเยื่อออก

ตกเลือดหลังคลอด ป้องกันได้

คุณแม่สามารถป้องกันภาวะตกเลือดได้ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ด้วยการดูแลตนเองและเตรียมความพร้อม ดังนี้

แม้ว่าภาวะตกเลือดหลังคลอด จะมีความรุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิต แต่หากคุณแม่ศึกษาข้อมูลเบื้องต้น หมั่นสังเกตสัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติของร่างกาย ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้คุณแม่รู้เท่าทันและปลอดภัยจากการตกเลือดหลังคลอดอย่างแน่นอน

อ่านต่อ บทความน่าสนใจอื่นๆ คลิก

อยู่ไฟหลังคลอด เข้ากระโจม ทับหม้อเกลือ วิธีโบราณ ช่วยดูแลสุขภาพคุณแม่หลังคลอดให้ดีขึ้น

เทคโนโลยีใหม่ ตรวจความเสี่ยงครรภ์เป็นพิษ รวดเร็ว แม่นยำ

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 


แหล่งข้อมูลอ้างอิง

โฉมพิลาศ จงสมชัย ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.ภาวะตกเลือดหลังคลอด.

รศ.พญ. ประนอม บุพศิริ.ตกเลือดหลังคลอด (Postpartum hemorrhage).

เฟื่องลดา ทองประเสริฐ ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.Postpartum Hemorrhage; ภาวะตกเลือดหลังคลอด.