เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนขณะตั้งครรภ์ จึงทำให้อะไร ๆ ในร่างกายคุณแม่ก็เปลี่ยนไป แม้กระทั่งเส้นผมสวย ๆ บนศีรษะที่อาจทำให้จากผมที่เคยดำขลับสวยงาม กลายเป็นแห้ง ชี้ฟู ไม่มีน้ำหนัก ต้องทนเห็นตัวเองโทรมจนทนไม่ไหว เป็นเรื่องที่เข้าใจตรงกันว่า ถึงแม้ตอนท้องคนเป็นแม่ก็ไม่อยากหยุดสวย อยากดัดผม ย้อมผม ทำสีเหมือนที่เคย แต่ก็กลัว ๆ เพราะมีคนทักบอกว่าอย่าเพิ่งทำสีผมตอนท้อง คนท้องทําสีผมได้ไหม สารเคมีในสีจะส่งผลเป็นอันตรายต่อเบบี๋ในท้องมั้ย? รวมทั้งการทำเคมีกับเส้นผมอื่น ๆ ด้วย มาไขข้อข้องใจนี้ค่ะ
คนท้องทําสีผมได้ไหม ดัด ย้อม ยืด จะเป็นอันตรายต่อเบบี๋ในท้องมั้ย?
ในข้อเท็จจริงเรื่องนี้ในทางแพทย์ยังไม่มีการยืนยันที่แน่ชัดว่า การทำสีผมจะทำให้สารเคมีที่อยู่ในน้ำยาเคมีที่ใช้กับผมแทรกซึมผ่านหนังศีรษะเข้าสู่ร่างกายไปทำอันตรายต่อลูกในครรภ์ได้หรือไม่ ซึ่งผลิตภัณฑ์ทำสีผมและดัดผมส่วนใหญ่จะมีสารเคมีที่ใช้กัดสีหรือดัดผมเป็นส่วนผสม ส่วนสีที่ใช้ย้อมก็เป็นสารเคมีหลายชนิดปนกัน ในน้ำยาเคมีที่ใช้กับผมประกอบด้วย
- รีซอร์ซินอล เป็นสารเคมีที่อาจทำให้เนื้อเยื่อตา คอ และผิวหนังระคายเคือง นอกจากนี้ยังทำให้มีอาการไอและภูมิคุ้มกันโรคต่ำลง
- ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ ที่นิยมใช้เพื่อกัดสีผม เป็นสารที่ทำให้ผิวหนังไหม้และมีอาการแพ้
- แอมโมเนีย ที่พบมากในยาย้อมผมก็ทำให้วิงเวียนและปวดศีรษะ
- พีพีดี ทำให้ผิวเกิดการอักเสบและระคายเคือง
ถึงแม้ว่าจะมีการศึกษาวิจัยในคนพบว่ามีการดูดซึมสารเคมีเหล่านี้ผ่านหนังศีรษะเข้าในกระแสเลือดในปริมาณที่น้อยมาก การที่จะส่งผ่านข้ามรก จนไปเกิดอันตรายกับเด็กจึงเป็นไปได้ยาก โดยปกติแล้วเมื่อสารเคมีซึมซับเข้าสู่ร่างกายจะถูกขับออกจากร่างกายในรูปแบบของปัสสาวะ แต่สารเคมีที่ใช้ในการย้อมผม ทำสี นั้นไม่ได้มีปริมาณที่สูงมาก จึงไม่ส่งผลต่อทารกในครรภ์ (อ้างอิงข้อมูลจากโรงพยาบาลพญาไท) แต่คุณแม่ตั้งครรภ์ก็ควรระมัดระวัง เพราะกลิ่นของน้ำยาที่แม่สูดดมเข้าไปอาจจะส่งผลให้คุณแม่รู้สึกวิงเวียนและปวดศีรษะบ้าง
ดังนั้นหากคุณแม่ต้องการที่จะเสริมสวยให้เส้นผมระหว่างตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะดัด ยืด ย้อมผม ทำสี แนะนำว่าเพื่อความสบายใจและไม่ต้องคอยกังวลว่ากลัวลูกในท้องจะไม่ปลอดภัย ถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงดีกว่าค่ะ เพราะการเสริมความงามเหล่านี้ต้องใช้สารเคมี ซึ่งสารเคมีบางอย่างอาจทำให้คุณแม่เกิดอาการแพ้ได้ เป็นแผลที่หนังศีรษะ ก็อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อลุกลามรวดเร็ว
อ่านต่อ ข้อแนะนำเมื่อแม่ท้องอยากทำสีผม คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ข้อแนะนำเมื่อแม่ท้องอยากทำสีผม
- ควรหลีกเลี่ยงการทำสีผมในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ จากข้อมูลของโรงพยาบาลพญาไทได้แนะนำว่า ช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ถือเป็นช่วงที่สำคัญของทารก เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่ทารกจะเริ่มสร้างอวัยวะที่สำคัญขึ้นมา จึงควรทำร่างกายให้สมบูรณ์พร้อมให้ลูกน้อยได้สร้างอวัยวะอย่างเต็มที่ ดังนั้นเพื่อความสบายใจและเป็นการป้องกันไว้ก่อน หากคุณแม่อยากจะเปลี่ยนสี ทำผมให้กับตัวเอง ควรรอให้มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 4 เดือนเป็นต้นไป หรือเข้าสู่ไตรมาสที่สอง ปัญหาจากปัจจัยภายนอกทั่วไปก็จะไม่ส่งผลต่อการสร้างอวัยวะของเด็ก ช่วยลดความเสี่ยงในอันตรายที่จะเกิดขึ้น
- เมื่อคุณแม่ท้องเข้าร้านทำผมควรแจ้งกับช่างว่ากำลังตั้งครรภ์ก่อนทุกครั้ง เพื่อให้ช่างคอยดูแลและระมัดระวังเป็นพิเศษในขั้นตอนการทำ หรือสอบถามเพื่อเลือกใช้บริการร้านทำผมที่มีช่างผู้ชำนาญในด้านการทำเคมีเป็นพิเศษ เพราะช่างจะสามารถทำสีผมหรือดัดผมได้โดยหลีกเลี่ยงการให้น้ำยาสัมผัสกับหนังศีรษะให้น้อยที่สุดได้เป็นอย่างดี ซึ่งในการทำเคมีต่าง ๆ กับเส้นผม ควรให้น้ำยาเคมีโดนหนังศีรษะให้น้อยที่สุด เพราะในช่วงตั้งครรภ์ผิวคุณแม่จะบอบบางและแพ้ง่าย
- สวมหน้ากากปิดปากและจมูกให้เรียบร้อยในขณะที่ทำผม และเลือกเข้าร้านทำผมที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อป้องกันการสูดดมกลิ่นน้ำยาเคมีต่าง ๆ เข้าไปโดยตรง
- ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำสีหรือย้อมผมที่สกัดจากพืช มีส่วนประกอบจากธรรมชาติ ซึ่งจะปลอดภัยกว่าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมี เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีกลิ่นแรง เพราะน้ำยาเคมีที่มีกลิ่นแรงเกินไปอาจมีส่วนผสมของแอมโมเนีย อาจส่งผลให้คุณแม่วิงเวียนศีรษะ อาเจียน หรือเพิ่มอาการแพ้ท้องได้
- ควรเลือกใช้น้ำยาในการทำผมที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยจาก FDA ซึ่งหากมีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ต้องมีฉลากแจ้งเตือนที่เห็นได้ชัดเสมอ
- สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่เป็นช่างทำผม ในกรณีที่หลีกเลี่ยงการทำสีผมให้ลูกค้าไม่ได้ ควรใส่หน้ากากอนามัยและถุงมือขณะทำสีผม และล้างมือทันทีเมื่อสิ้นสุดการทํางาน ระยะเวลาที่แนะนําในการทํางานไม่ควรเกิน 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ที่สำคัญควรได้ทำงานอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อลดการสูดดมสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย
ถึงแม้ว่าทางแพทย์ยังไม่มีการยืนยันที่แน่ชัดว่าการทำสีผมหรือการทำเคมีกับเส้นผมในคนท้องนั้นจะส่งผลเสียโดยตรงต่อทารกในครรภ์ได้อย่างแน่นอน แต่เพื่อความปลอดภัยสำหรับลูกน้อยในครรภ์รวมถึงตัวคุณแม่ด้วย แนะนำว่าในช่วงท้องนี้คุณแม่ควรอดใจไว้อีกซักนิด รอทำหลังจากที่มีอายุครรภ์เกิน 4 เดือนไปแล้ว ถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงไปก่อน และที่สำคัญผลลัพธ์ของการทำสี ดัด หรือยืดผม อาจไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด เช่น หลังดัดผม แทนที่จะเป็นลอนสลวยสวยงามแต่อาจกลับกลายเป็นผมหยิกหยักฟู แห้ง หรือการทำสีผม ที่อาจไม่ได้สีที่สวยออกมาตรงกับที่ต้องการ เนื่องจากสภาพของผมที่เปลี่ยนไปในขณะตั้งครรภ์
ในระยะนี้คุณแม่สามารถดูแลตัวเองให้สวยแบบไม่ต้องพึ่งสารเคมีได้ เช่น การเข้าร้านทำผมเพื่อตัดผมเปลี่ยนลุค เลือกทรงผมเก๋ ๆ ที่รับกับใบหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีในช่วงตั้งครรภ์ การบำรุงและหมักผมด้วยสูตรที่ใช้วัตถุดิบธรรมชาติต่าง ๆ อย่างน้ำมันมะกอกธรรมชาติ ไข่แดง โยเกิร์ต ที่จะช่วยให้ผมคุณแม่สวยโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี รวมถึงการออกกำลังกายสำหรับคนท้อง รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ ดื่มน้ำเยอะ ๆ เป็นต้น เรียกว่าช่วงนี้ขอสวยแบบธรรมชาติไปก่อน เพื่อไม่ทำให้คุณแม่ต้องเกิดความวิตกกังวลตอนอุ้มท้อง รอให้หลังคลอดแล้วค่อยมาเปลี่ยนสีผมเพิ่มความสดใส ก็จะเป็นผลดีและปลอดภัยต่อคุณแม่และเบบี๋ที่สุดนะคะ
แต่ในกรณีที่จำเป็นต้องทำหรืออดใจไม่ไหวอยากทำผมจริง ๆ คุณแม่สามารถนำผลิตภัณฑ์ทำสีผมที่เลือกไว้ไปปรึกษาคุณหมอที่ฝากครรภ์ เพื่อให้ช่วยพิจารณาว่าสารเคมีที่เป็นส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์หรือน้ำยาทำสีผมเหล่านั้นจะมีอันตรายหรือไม่ หรือขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากคุณหมอเพื่อลดความกังวลใจในเรื่องนี้ลงได้ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.phyathai.com, www.motherhood.co.th
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจอื่นๆ
ทําไมคนท้องถ่ายเป็นสีดํา แม่ท้องกินอะไรผิดไป!
คนท้องกินทุเรียนได้ไหม ส่งผลอะไรกับลูกหรือไม่!
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่