โดยปกติแล้วสีของอุจจาระทั่วไปที่เราถ่ายกันประจำมักมีสีน้ำตาล แต่ในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่หลายคนอาจตกใจเมื่อถ่ายแล้วสังเกตเห็นอุจจาระตัวเองเป็นสีดำ กังวลว่ากินอะไรเข้าไปผิดหรือเปล่า ห่วงว่าจะเป็นอะไรต่อลูกในท้องหรือเปล่า ทําไมคนท้องถ่ายเป็นสีดํา มาดูคำตอบในบทความนี้กันค่ะ
ทําไมคนท้องถ่ายเป็นสีดํา แม่ท้องกินอะไรผิดไป!
เพื่อป้องกันหรือเป็นการให้สารอาหารเสริมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ยังไม่มีภาวะซีด และภาวะโรคโลหิตจาง เมื่อไปฝากครรภ์คุณหมอจะให้ยาบำรุงธาตุเหล็กมาให้คุณแม่รับประทานเสริม เนื่องจากธาตุเหล็กเป็นแร่ธาตุที่สำคัญสำหรับคนท้อง และจำเป็นสำหรับการสร้างเม็ดเลือดที่เพิ่มจำนวนอย่างมากในช่วงตั้งครรภ์ เพราะทารกในครรภ์จะดูดซึมธาตุเหล็กจากแม่ไปใช้ คุณแม่จึงต้องการธาตุเหล็กในขณะตั้งครรภ์เพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ โดยอาจเริ่มรับประทานธาตุเหล็กเสริมระหว่างตั้งครรภ์ ตั้งแต่อายุครรภ์ 12 สัปดาห์
ซึ่งการรับประทานยาตามที่หมอสั่งให้จะช่วยให้ร่างกายของแม่และลูกในท้องแข็งแรง เพื่อให้เพียงพอต่อการนำสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงทารกที่อาศัยอยู่ในครรภ์ เพราะการได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอจะส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจาง อันเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของการคลอดทารกที่มีน้ำหนักแรกเกิดน้อยกว่าเกณฑ์ปกติ และสารอาหารที่ไม่สามารถไปเลี้ยงทารกได้อย่างเพียงพออาจส่งผลต่อพัฒนาการทางด้านร่างกายและสมองของทารกได้
นอกจากนี้หากร่างกายคุณแม่ไม่ได้รับธาตุเหล็กที่เพียงพออาจเกิดภาวะขาดธาตุเหล็ก ทำให้มีอาการหน้ามืด เป็นลม และเกิดอันตรายได้ เพิ่มความเสี่ยงในการแท้ง การคลอดก่อนกำหนด ลูกในครรภ์น้ำหนักน้อย ลูกในครรภ์มีโลหิตจาง หากแม่มีภาวะโลหิตจางมากก็อาจทำให้เกิดน้ำคร่ำน้อย ซึ่งส่งผลทำให้เด็กเสียชีวิตในครรภ์ได้ นอกจากนั้นยังอาจเกิดอันตรายกับมารดาในช่วงคลอด เพราะอาจตกเลือดจนเสียชีวิตได้อีกด้วย
บทความแนะนำที่เกี่ยวข้อง : 15 อาหารที่มีโฟเลตสูง ที่แม่ท้องและลูกในท้องควรทาน
อ่านต่อ ทำไมคนท้องเวลาทานยาบำรุงเลือดแล้วถึงถ่ายออกมาเป็นสีดำ? คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ทำไมเวลาทานยาบำรุงเลือดแล้วถึงถ่ายออกมาเป็นสีดำ?
คุณแม่ตั้งครรภ์นอกจากจะต้องการสารอาหารให้ครบถ้วนแล้วนั้น สารอาหารตัวหนึ่งที่ไม่ควรขาดก็คือ ธาตุเหล็ก การรับประทานยาบำรุงเลือดที่มีธาตุเหล็กตามที่แพทย์สั่ง เพื่อช่วยเสริมธาตุเหล็กบำรุงร่างกายคุณแม่ให้แข็งแรง และช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันภาวะโลหิตจางในขณะตั้งครรภ์ และบำรุงอวัยวะต่าง ๆ รวมถึงสมองที่จำเป็นต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้พอเพียง
ซึ่งในช่วงตั้งครรภ์นั้นร่างกายของคุณแม่จึงต้องการธาตุเหล็กจะมีเพิ่มมากขึ้น โดยแม่ท้องต้องการธาตุเหล็กตลอดการตั้งครรภ์ ประมาณ 1,000 มิลลิกรัม สำหรับใช้ในการสร้างเม็ดเลือดของแม่ 500 มิลลิกรัม ใช้เพื่อทดแทนการสูญเสียไปในระบบขับถ่ายตามปกติ 200 มิลลิกรัม และส่งไปส่งไปให้ทารกและรกในครรภ์ 300 มิลลิกรัม
ดังนั้นเมื่อไปฝากครรภ์คุณหมอจะทำการตรวจดูความเข้มข้นของเลือด หากพบว่าคุณแม่มีภาวะโลหิตจาง หรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดโลหิตจาง ก็อาจจะให้วิตามินธาตุเหล็กมารับประทานเสริมหรือป้องกันไว้ก่อน
แต่ในการรับประทานยาบำรุงธาตุเหล็กของแม่นั้นจะมีอาการข้างเคียงที่พบบ่อย คือ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และทำให้อุจจาระเปลี่ยนเป็นสีดำได้จากการกินยา และถ้ากินในปริมาณมากอาจมีอาการแสบหน้าอก ท้องผูกหรือท้องเสีย ในกรณีนี้การรับประทานธาตุเหล็กหลังอาหารทันทีจะช่วยลดอาการลงได้ หรือให้รับประทานก่อนนอน ควรเริ่มยาในปริมาณน้อย ๆ แล้วค่อย ๆ เพิ่ม ทั้งนี้ถ้าฝากครรภ์และตรวจร่างกายแล้วไม่มีความเสี่ยงของภาวะโลหิตจาก คุณหมออาจจะให้ยาเสริมธาตุเหล็กในปริมาณไม่สูง ทั้งนี้องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาแนะนำให้แม่ตั้งครรภ์ควรได้ธาตุเหล็กไม่ต่ำกว่า 27 มิลลิกรัมต่อวัน (อ้างอิงข้อมูลจาก www.bangkokhospital.com)
นอกจากการกินยาบำรุงธาตุเหล็กตามที่แพทย์สั่งแล้ว ทางเลือกที่ดีเพื่อที่จะป้องกันการขาดสารอาหารต่าง ๆ และเพิ่มธาตุเหล็กให้กับร่างกาย ก็คือการรับประทานที่มีแร่ธาตุจำเป็นในช่วงตั้งครรภ์ให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง ร่างกายสามารถดูดซึมและนำมาใช้ได้อย่างรวดเร็วจะอยู่ในประเภท เนื้อสัตว์ต่าง ๆ อาหารทะเลต่าง ๆ ตับ กุ้งแห้ง หอยแมลงภู่ เป็นต้น และโดยทั่วไปธาตุเหล็กจะดูดซึมได้ร้อยละ 10 ในอาหารที่เป็นกรด
แนะนำให้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์รับประทานธาตุเหล็กกับน้ำส้มคั้น หรือวิตามินซี 250 มิลลิกรัม รวมถึงการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในแต่ละวัน เพื่อให้ได้รับสารอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย และรับประทานอาหารจำพวกผักหรือผลไม้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากขณะตั้งครรภ์คุณแม่จะมีอาการท้องผูก การรับประทานอาหารที่มีกากหรือเส้นใยสูง ดื่มน้ำมาก ๆ ก็จะช่วยให้อุจจาระนิ่มถ่ายได้สะดวกขึ้น
บทความแนะนำที่เกี่ยวข้อง : 10 วิตามินคนท้อง ที่ควรกินเพื่อบำรุงแม่และลูกในท้อง
อย่างไรก็ตาม ในการรับประทานยาบำรุงเลือดสำหรับแม่ตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์เมื่อไปฝากครรภ์ ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง เนื่องจากชนิดและปริมาณยาที่ได้รับอาจมากหรือน้อยเกินไป อาจทำให้มีผลกระทบต่อแม่และลูกในครรภ์ได้ และหากพบว่าอาการถ่ายอุจจาระมีสีดำ มีลักษณะเปียกหรือเหนียวคล้ายยางมะตอยโดยไม่ได้มีสาเหตุมาจากการรับประทานอาหารหรือยาบำรุงเลือดเสริมธาตุเหล็กอยู่ หรือแม้แต่ช่วงนั้นไม่ได้เป็นเลือดกำเดาหรือเลือดออกหลังถอนฟัน และอาจมีอาการนานกว่า 3 วัน การถ่ายอุจจาระเป็นสีดำหรือมีสีเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่องบ่อยครั้ง ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติในร่างกายอื่น ๆ ได้ เช่น ภาวะเลือดออกในระบบทางเดินอาหารหรือหลอดอาหาร เป็นต้น ดังนั้นหากสังเกตความผิดปกติจากการถ่ายอุจจาระ ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุเพื่อความปลอดภัยต่อแม่และลูกน้อยในครรภ์นะคะ.
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.gedgoodlife.com, www.pobpad.com
อ่านต่อบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ คลิก :
ทำไมต้องผ่าคลอด ข้อบ่งชี้ที่แม่เลือกคลอดเองตามธรรมชาติไม่ได้!
คนท้องนวดหลังได้ไหม? นวดเท้าได้ไหม? เมื่อปวดเมื่อยทำอย่างไร?
คนท้องไม่สบาย กับ 11 โรคที่ต้องระวังระหว่างตั้งครรภ์
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่