Checklist วัคซีน สำหรับคนท้อง มาลองเช็คดูสิว่า คุณแม่ท้องฉีดวัคซีนเหล่านี้ครบแล้วหรือยัง ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ว่าที่คุณแม่มือใหม่ลืมไม่ได้เลยหากวางแผนจะมีเจ้าตัวน้อย นั่นก็คือ “การฉีดวัคซีน” เพราะวัคซีนจะช่วยป้องกันโรคร้ายแรงต่างๆ ที่มีผลต่อสุขภาพแม่และลูกได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นมากๆ ที่แม่ท้องทุกคนต้องได้รับวัคซีนที่สำคัญและครบถ้วน มาลองดูกันว่า ถ้าวางแผนจะมีลูกน้อยกลอยใจสักคน ว่าที่คุณแม่จะต้องฉีดวัคซีนกี่ตัว ฉีดตัวไหน และฉีดเมื่อไรกันบ้าง
Checklist วัคซีน สำหรับคนท้อง
วัคซีน ก่อนตั้งครรภ์ 2 เดือน
วัคซีนอีสุกอีใส
- จำนวนเข็ม 2 เข็ม
- การฉีด ฉีดเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 1 เดือน
หากเคยได้รับวัคซีนอีสุกอีใสครบแล้ว หรือเคยเป็นโรคอีสุกอีใสหรืองูสวัดมาก่อน แสดงว่ามีภูมิต้านทานต่อโรคแล้ว อาจไม่จำเป็นต้องฉีด หรือสามารถเจาะเลือดเพื่อตรวจหาภูมิต้านทาน และควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง
การติดเชื้ออีสุกอีใสในขณะตั้งครรภ์ โดยเฉพาะก่อนอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ มีโอกาสเกิดความพิการของทารก เช่น สมองเล็ก แขนขาไม่งอก ผิวหนังหนาผิดปกติ หูหนวก เป็นต้น
วัคซีน ก่อนตั้งครรภ์ 1 เดือน
วัคซีนหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม
- จำนวนเข็ม 1 เข็ม
- การฉีด เมื่อใดก็ได้ แต่ควรฉีดก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 1 เดือน
วัคซีนนี้เป็นวัคซีนที่รวม 3 โรคไว้ในเข็มเดียวกัน เป็นวัคซีนที่ต้องฉีดอย่างยิ่ง แต่ไม่ควรฉีดขณะตั้งครรภ์เนื่องจากมีอันตราย
อันตรายจากการติดเชื้อหัด หัดเยอรมัน และคางทูม
โรคหัด หากเป็นตอนตั้งครรภ์ จะเพิ่มอัตราการแท้งและการคลอดก่อนกำหนด
โรคหัดเยอรมัน จะเพิ่มอัตราการแท้งและการคลอดก่อนกำหนดเช่นเดียวกัน รวมไปถึง ทารกตายในครรภ์ และเกิดความพิการแต่กำเนิด เช่น หูหนวก ตาบอด หัวใจและระบบประสาทผิดปกติ หากติดเชื้อก่อนตั้งครรภ์ 20 สัปดาห์ และในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสแรก โอกาสที่ทารกจะพิการจะยิ่งสูงมากขึ้น
โรคคางทูม หากติดเชื้อตอนตั้งครรภ์อาจทำให้ทารกตายในครรภ์ หรือมีความพิการทางหัวใจได้
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ติดตาม Checklist วัคซีน สำหรับแม่ท้อง คลิกต่อหน้า 2
วัคซีนวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกหรือเอชพีวี
- จำนวนเข็ม 3 เข็ม
- การฉีด ฉีดเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 1-2 เดือน และเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มแรก 6 เดือน
หากฉีดอยู่แล้วและยังไม่ครบจำนวนเข็ม แต่ตั้งครรภ์เสียก่อน ให้หยุดฉีดก่อน จากนั้นจึงค่อยฉีดต่อหลังคลอด
วัคซีน ระหว่างตั้งครรภ์
วัคซีนบาดทะยัก
- จำนวนเข็ม 3 เข็ม
- การฉีด หากไม่เคยฉีดมาก่อน ให้ฉีด 3 เข็ม เข็มที่ 1 และ 2 ห่างกัน 1 เดือน และเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มแรก 6 เดือน
หากเคยฉีดมาแล้ว 1 เข็ม ให้ฉีดอีก 2 เข็ม ห่างกัน 6 เดือน
หากเคยฉีดมาแล้ว 2 เข็ม ให้ฉีดอีก 1 เข็มทันทีที่ฝากครรภ์
หากฉีดครบ 3 เข็มแล้ว แต่เกิน 10 ปี ให้ฉีดกระตุ้นอีก 1 เข็ม
แม้การคลอดในปัจจุบันจะมีความก้าวหน้าและเครื่องมือที่ทันสมัย แต่ก็ยังมีโอกาสติดเชื้อได้ ดังนั้นแม่ท้องจึงยังจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักอยู่ ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้ลูกติดเชื้อได้อีกด้วย
ทารกที่ติดเชื้อบาดทะยักจะมีอาการเกร็ง หลังแข็ง หลังแอ่น ชักกระตุก ดูดนมไม่ได้ และเสียชีวิตในที่สุด
วัคซีนคอตีบและไอกรน
- จำนวนเข็ม 1 เข็ม
- การฉีด ฉีดร่วมกับวัคซีนบาดทะยักในเข็มที่ 2
วัคซีนนี้เป็นวัคซีนที่รวม 3 โรคไว้ในเข็มเดียวกัน แนะนำให้ฉีดที่อายุครรภ์ระหว่าง 27-36 สัปดาห์ และควรฉีด 1 เข็มต่อการตั้งครรภ์ทุกท้อง
โรคคอตีบ พบว่ามีการระบาดใหม่อีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2555 ซึ่งโรคนี้ทำให้แม่และลูกในท้องเสียชีวิตได้ หรือเกิดอาการอื่นๆ เช่น หายใจไม่ออก ทางเดินหายใจอุดตัน กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
โรคไอกรน เป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ผ่านการไอและจาม หากติดเชื้อจะมีอาการไอถี่ หรือระบบหายใจล้มเหลว และทำให้เสียชีวิตได้ นอกจากนี้ลูกสามารถติดเชื้อไอกรนผ่านทางแม่ได้ด้วย ซึ่งหากลูกเป็นโรคไอกรนเมื่ออายุ 3 เดือนแรกหลังคลอด จะมีโอกาสเจ็บป่วยรุนแรงจนเสียชีวิตได้ แต่การฉีดวัคซีนนั้นจะช่วยป้องกันโรคไอกรนในลูกที่คลอดออกมาได้ตั้งแต่ 2-6 เดือนเลยทีเดียว
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
วัคซีนไข้หวัดใหญ่
- จำนวนเข็ม 1 เข็ม
- การฉีด ควรฉีดเมื่ออายุครรภ์ระหว่าง 27-36 สัปดาห์
การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่นอกจากจะช่วยป้องกันแม่แล้ว ยังส่งภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยหลังคลอดได้อีก 6 เดือนเลยทีเดียว วัคซีนนี้สามารถฉีดในคนท้องได้ทุกฤดู ไม่จำเพาะช่วงหน้าหนาวที่มีการระบาดเท่านั้น
โรคไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่ทำอันตรายให้คนท้องได้มากกว่าคนธรรมดา ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงมากกว่า เช่น ปอดบวม เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ หัวใจวาย เป็นต้น จนทำให้แม่และลูกเสียชีวิตได้
วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี
- จำนวนเข็ม 3 เข็ม
- การฉีด เข็มที่ 1 และ 2 ห่างกัน 1-2 เดือน และเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มแรก 6 เดือน
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ควรตรวจเลือด เพื่อทราบว่าเป็นพาหะของเชื้อโรคนี้หรือไม่ และอาจปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาว่าควรได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีหรือไม่ ซึ่งผู้หญิงตั้งครรภ์ที่ควรได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี ได้แก่ คนยังไม่มีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตับอักเสบบี หรือมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
การฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีนอกจากจะช่วยป้องกันแม่แล้ว ยังส่งภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยหลังคลอดด้วย อาจมีผลข้างเคียงหลังฉีดบ้าง แต่ไม่ร้ายแรง เช่น ปวด บวม แดงบริเวณที่ฉีด เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว มีไข้ต่ำๆ หรือปวดศีรษะได้ แก้ไข้ด้วยการกินยาแก้ปวดหรือประคบเย็น
ไวรัสตับอักเสบบีเป็นไวรัสที่ติดจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น เลือด น้ำลาย น้ำมูก อสุจิ เป็นต้น และสามารถติดจากแม่สู่ลูกได้ การติดเชื้อจะทำให้ตับอักเสบ ตัวเหลือง ตาเหลือง อ่อนเพลีย ตับวาย และมีแนวโน้มเป็นมะเร็งตับหรือตับแข็งได้ในอนาคต
ติดตาม Checklist วัคซีน สำหรับแม่ท้อง คลิกต่อหน้า 3
สรุป Checklist วัคซีน สำหรับคนท้อง ต้องฉีด
ฉีดก่อนตั้งครรภ์ อย่างน้อย 1-2 เดือน
- วัคซีนหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม
- วัคซีนอีสุกอีใส
- วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกหรือเอชพีวี
ฉีดได้ระหว่างตั้งครรภ์
- วัคซีนบาดทะยัก
- วัคซีนคอตีบ
- วัคซีนไอกรน
- วัคซีนไข้หวัดใหญ่
- วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี
ฉีดหลังคลอด
สามารถฉีดวัคซีนได้ทุกตัว เพราะไม่มีผลต่อการให้นมลูก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
- วัคซีนบางตัวอาจมีอันตรายกับคนท้อง ดังนั้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อ คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรเดินทางไปในท้องถิ่นที่มีการระบาดของโรค เช่น โรคไข้เหลือง โปลิโอ ไทฟอยด์ ฝีดาษ อหิวาตกโรค ฯลฯ หรือไม่ควรไปในสถานที่ที่คนพลุกพล่านบ่อยๆ เช่น โรงหนัง ห้างสรรพสินค้า ตลาด เป็นต้น และแม้จะได้รับวัคซีนแล้ว ก็ไม่ควรไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงอยู่ดี
- วัคซีนบางชนิด ควรเลือกให้เฉพาะเมื่อมีเหตุจำเป็น เช่น วัคซีนพิษสุนัขบ้า วัคซีนนิวโมคอคคัส เป็นต้น
- หากจำไม่ได้ว่าเคยฉีดวัคซีนตัวใดมาบ้าง สามารถฉีดซ้ำได้ โดยเฉพาะวัคซีนที่จำเป็นต้องฉีดในคนท้อง ในกรณีที่วัคซีนมีราคาแพง และไม่แน่ใจว่าเคยได้รับหรือไม่ สามารถเจาะเลือดตรวจหาภูมิต้านทานของโรคนั้นๆ ได้
- ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดวัคซีนทุกครั้ง
Expert Tips “หากฉีดวัคซีนต้องห้ามโดยไม่รู้ว่าตั้งครรภ์ จะทำอย่างไรดี จากการศึกษายังไม่พบอันตรายต่อลูกจนต้อง ยุติการตั้งครรภ์ เพียงแต่ต้องเฝ้าระวังและติดตามอาการเป็นพิเศษ ในกรณีที่คุณแม่ฉีดวัคซีนไปแล้วแต่ยังไม่ครบ จำนวนเข็ม แต่ตั้งครรภ์เสียก่อน คุณแม่สามารถมาฉีดต่อหลังคลอดได้โดยไม่ต้องเริ่มใหม่” พญ.ลัลธพร พัฒนาวิจารย์ สูตินรีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ โรงพยาบาลราชวิถี “การรับวัคซีนนอกจากป้องกันโรคได้แล้ว วัคซีนยังไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับแม่และลูกในท้องแม้แต่น้อย อีกทั้งวัคซีนยังสามารถป้องกันโรคให้ลูกในช่วงหลังคลอดได้อีกด้วย” พญ.ชัญวลี ศรีสุโข สูตินรีแพทย์ ระดับนายแพทย์เชี่ยวชาญ หัวหน้าแผนกสูตินรีเวช โรงพยาบาลพิจิตร
อ่านบทความอื่นที่น่าสนใจ
แพ็คเกจวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ระบาด ปี 2560