AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

คนท้องห้ามกินอะไร 9 อาหาร ที่แม่ท้องควรห้ามใจ เลี่ยงได้เลี่ยงก่อนนะแม่!

คนท้องห้ามกินอะไร

ในระหว่างตั้งครรภ์ หากคุณแม่ได้ดูแลครรภ์ด้วยการใส่ใจในเรื่องโภชนาการแม่ท้องเป็นพิเศษ และปรับพฤติกรรมตัวเองสำหรับการใช้ชีวิตได้อย่างเหมาะสมก็จะทำให้ลูกน้อยในครรภ์มีสุขภาพแข็งแรง ในช่วงนี้ คนท้องห้ามกินอะไร เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อลูกในท้อง มาดูกันค่ะ

คนท้องห้ามกินอะไร 9 อาหาร ที่แม่ท้องควรห้ามใจ เลี่ยงได้เลี่ยงก่อนนะแม่!

1.อาหารรสจัด

ในระหว่างตั้งครรภ์นั้น ระบบย่อยอาหารของคุณแม่จะไม่เหมือนตอนปกติที่ยังไม่ท้อง มีโอกาสที่จะเกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ง่าย หากกินอาหารที่มีรสจัด ไม่ว่าเป็นเผ็ด เค็ม หวาน เปรี้ยว มันจัด หรือรับประทานอาหารที่มีใช้เครื่องปรุงแต่งมากล่วนส่งผลเสียต่อร่างกาย และจะทำให้เกิดอาการอาการดังกล่าวรวมถึงทำให้ท้องเสีย รวมถึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคอื่นตามมาได้อีกมากมาย โดยเฉพาะแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ชอบกินอาหารรสจัด เช่น อาหารที่เค็มจัด ไม่ว่าจะปรุงรสด้วยน้ำปลาหรือเกลือที่มากไป อาจทำให้เกิดโรคไต เสี่ยงต่ออาการบวม และทำให้เกิดครรภ์เป็นพิษ อาหารหวานจัด อาหารที่ใส่น้ำตาลมาก หากร่างกายใช้พลังงานจากความหวานของน้ำตาลไม่หมด ร่างกายก็จะเก็บสะสมในรูปแบบไขมัน ส่งผลให้เกิดโรคอ้วน เบาหวาน ฟันผุบ่อย ท้องอืด รวมไปถึงโรคร้ายแรง เช่น ความดัน ไขมันในเลือดสูง โรคไต มะเร็ง ฯลฯ และส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์ได้

2.อาหารที่สามารถเก็บได้นาน

ในอาหารที่มีการเก็บไว้ได้นานแม้ว่าจะผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย บรรจุอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่แน่นหนา และอาจมีสารอาหารครบถ้วนไม่แพ้อาหารสด จึงเป็นที่ได้รับความนิยมและพกพาสะดวก แต่อาหารประเภทนี้จะมีสารเคมีเจือปนเพื่อเพิ่มรสชาติและวัตถุกันเสียหรือสารกันบูดเพื่อเพิ่มระยะเวลาในการเก็บ ดังนั้นในช่วงตั้งครรภ์หากเลี่ยงที่จะกินได้ก็ควรงดไว้ก่อน เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายต่อคุณแม่และลูกในครรภ์ ซึ่งอาหารประเภทนี้จะอยู่ในรูปของ

อาหารที่คนท้องไม่ควรกิน
อาหารที่คนท้องห้ามกิน

3.อาหารที่ไขมันสูง

อาหารประเภทของทอดหรือผัดที่ใส่น้ำมันมาก ๆ หากกินในปริมาณมากไป ก็เป็นตัวการที่ทำให้คุณแม่ท้องอืด แน่นท้อง ย่อยยาก  นอกจากนี้ยังส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เป็นโรคและกระทบต่อสุขภาพโดยรวมของคุณแม่ได้

4.อาหารที่มีไขมันทรานส์สูง

ไขมันทรานส์ จัดเป็นไขมันชนิดที่มีอันตรายสูงสุด เพราะไขมันตัวนี้จะไปเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL-cholesterol) โดยอาหารที่มีไขมันทรานสูงส่วนใหญ่จะอยู่ในอาหารตระกูลเบเกอรี่อย่าง คุกกี้ เค้ก โดนัท วิปครีม พาย ขนมกรุบกรอบต่าง ๆ อาหารฟาสต์ฟู้ดต่าง ๆ เครื่องดื่มต่าง ๆ ซึ่งหากกินอาหารที่มีส่วนผสมของไขมันทรานส์มาก ๆ หรือติดต่อกันนานๆ อาจส่งผลเพิ่มความเสี่ยงอันตรายต่าง ๆ เช่น หัวใจและหลอดเลือดตีบตัน ก่อให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบหัวใจได้ทั้งแม่และลูก ไขมันในเลือดสูง นอกจากนี้ก็จะส่งผลให้น้ำหนักตัวคุณแม่เพิ่มส่งผลให้เกิดโรคอ้วนขึ้นได้ และเมื่อคุณแม่ที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไปในระหว่างตั้งครรภ์ จะทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการแท้งลูก เกิดภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ความดันโลหิตสูง และครรภ์เป็นพิษด้วย ทั้งยังเสี่ยงคลอดลูกก่อนกำหนดอีกด้วย

5.อาหารที่ปรุงทิ้งไว้นานเกินไป

คุณแม่ควรได้รับประทานทันทีหลังจากที่ปรุงสุกใหม่ เพื่อให้ร่างกายได้รับคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วน การกินร้อนจะช่วยให้ลดการปนเปื้อนจากเชื้อโรคต่าง ๆ ค่อนข้างน้อย แต่หากรับประทานอาหารที่ปรุงทิ้งไว้นานแล้วโดยไม่ได้นำกลับมาทำร้อนใหม่ ก็อาจมีเชื้อแบคทีเรียแฝงตัวอยู่ในอาหาร จนทำให้คุณแม่ท้องอืด แน่นท้อง และท้องเสียได้

คนท้องห้ามกินของดิบ

6.อาหารปรุงไม่สุก

ในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารดิบหรืออาหารกึ่งสุกกึ่งดิบปรุงไม่สุกทั้งหลาย อาทิ ไข่ดิบ ไข่ลวก ลาบดิบ ก้อยดิบ แหนม ซูชิปลาดิบ สเต็กที่ไม่สุก แซลมอนรมควัน หากไม่ทำให้สุกทั่วถึงดี มักมีเชื้อโรคต่าง ๆ แฝงมา โดยเฉพาะอันตรายที่มาจากพยาธิ และอันตรายจากอาหารสุกๆ ดิบๆ ไม่ได้มีเฉพาะในเนื้อสัตว์เท่านั้นแต่ในผักสดบางชนิดหากนำมากินดิบ ๆ โดยไม่ต้มให้สุกเสียก่อนก็ล้วนเสี่ยงเจอพยาธิทั้งสิ้น เมื่อรับประทานเข้าไปก็อาจจะเป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์ได้

7.อาหารทะเล

สำหรับคุณแม่ที่แพ้อาหารทะเลอยู่ก่อนแล้ว หากเผลอกินเข้าไปในระหว่างที่กำลังตั้งครรภ์ก็อาจจะมีอาการแพ้มากขึ้น ซึ่งก็จะส่งผลให้มีอาการปวดท้อง ท้องเสีย และอาเจียน เป็นอันตรายต่อลูกในท้องด้วย และถึงแม้ไม่มีอาการแพ้อาหารทะเล แต่บางชนิดก็ควรหลีกเลี่ยงที่จะกิน เช่น

8.อาหารที่ปรุงด้วยผงชูรส

อาหารสำหรับคนท้องที่ดีควรไม่ปรุงรสด้วยผงชูรสเลย นอกจากไม่มีคุณค่าทางอาหารแม้แต่น้อย ยังผ่านกระบวนการทางเคมีหลายอย่างถูกสังเคราะห์ออกมาเรียกว่า “โมโนโซเดียม กลูตาเมต” (MSG) ที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคร้ายมากมายทั้งมะเร็ง ไตวาย ตับอักเสบ ฯลฯ ในกรณีที่บริโภคมาก ๆ หรือถ้าแพ้ผงชูรสก็จะส่งผลให้เกิดอาการตึงชาบริเวณใบหน้าและหู ชาปากและลิ้น ปวดกล้ามเนื้อบริเวณโหนกแก้ม ต้นคอ วิงเวียนศีรษะ มีอาการอ่อนเพลีย หัวใจเต้นช้า คลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อออก น้ำตาไหล ปวดท้อง เป็นต้น สำหรับการปรุงอาหารกินให้อร่อยในระหว่างตั้งครรภ์ที่หลีกเลี่ยงการใส่ผงชูรส คุณแม่สามารถเลือกวัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น ใช้น้ำต้มกระดูกหมู กระดูกไก่ หรือใส่น้ำตาลกับเกลือลงไปเล็กน้อย ก็ช่วยปรุงรสชาติให้อาหารอร่อยและยังได้คุณค่าทางอาหาร แต่ถ้าออกไปทานอาหารนอกบ้านก็ควรแจ้งที่ร้านว่าไม่ใส่ผงชูรส เพื่อป้องกันอาการแพ้ผงชูรสและเพื่อสุขภาพที่ดีของแม่และลูกในครรภ์

9.ผักบางชนิด

ผักเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ แต่ก็มีผักบางชนิดที่ไม่เหมาะจะรับประทานในปริมาณมาก ๆ ระหว่างตั้งครรภ์ นั่นก็คือผักจำพวกเครือเถา เช่น ตำลึง ยอดมะระ ยอดฟักแม้ว กระถิน ชะอม ขี้เหล็ก ฯล เพราะในผักเหล่านี้มีสาร Purine อยู่มาก กินมากเกินไปก็จะส่งผลให้เป็นโรคเกาต์ขึ้นได้ ดังนั้นหากคุณแม่ท้องอยากรับประทานก็สามารถทานได้ แต่แนะให้สลับสับเปลี่ยนเมนูผักอื่น ๆ ในแต่ละวันไป เพื่อให้ได้สารอาหารที่หลากหลายและช่วยป้องกันท้องผูกได้อีกด้วย

จะเห็นได้ว่าในช่วงตั้งครรภ์มีหลายสิ่งที่คุณแม่ต้องปรับพฤติกรรมตัวเองและให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินที่จัดว่าเป็นหัวใจสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ เพราะสิ่งที่คุณแม่รับประทานเข้าไปนั้นจะส่งต่อไปยังลูกน้อยในครรภ์ด้วย ดังนั้นเพื่อได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนมีประโยชน์ คุณแม่ควรคัดสรรที่จะเลือกกินแต่สิ่งดี ๆ และปลอดภัย ควรห้ามใจในเรื่องอาหารการกินที่ไม่เหมาะในช่วงตั้งครรภ์หรือควรกินในปริมาณที่เหมาะสม และได้ออกกำลังกายเบา ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ เท่านี้คุณแม่ก็มั่นใจได้ว่าจะมีสุขภาพร่างกายและครรภ์ที่แข็งแรงตลอด 9 เดือนก่อนที่จะได้พบหน้าลูกน้อยแล้วละคะ

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.medthai.comwww.dumex.co.thwww.trueplookpanya.com

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจอื่นๆ

คนท้องทำเล็บเจลได้ไหม ทาสีเล็บ เพนท์เล็บ ควรทำหรือไม่ควรทำ

คนท้องยืดผมได้ไหม ผมหยิก ชี้ฟู อยากให้ผมตรงจัดทรงง่าย ทำแล้วอันตรายมั้ย?

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids