คลอดก่อนกำหนด อันตราย กว่าที่คิด ในช่วงวันที่ 17 พฤศจิกายนของทุกปี องค์การอนามัยโลกกำหนดให้เป็นวันเด็กคลอดก่อนกำหนดโลก เนื่องจากปัญหาการคลอดก่อนกำหนดเป็นปัญหาหลักของทั่วโลก ที่ทำให้เด็กเสียชีวิตหรือมีปัญหาสุขภาพในระยะยาว
คลอดก่อนกำหนด อันตราย กว่าที่คิด!!!
“ประเทศไทยมีอัตราการคลอดก่อนกำหนดเฉลี่ยประมาณร้อยละ 12 ของการคลอดทั้งหมด ในปีที่แล้วไทยมีการคลอดประมาณ 7-8 แสนราย และมีถึง 9 หมื่นรายที่คลอดก่อนกำหนด ถือว่าเป็นตัวเลขที่เยอะมาก มากกว่าโรคอื่นๆ หากมาดูภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ เช่น ดาวน์ซินโดรม โอกาสเด็กเป็นแค่ 1 ใน 350 ไม่ถึงร้อยละ 1 เด็กพิการประมาณร้อยละ 3 ครรภ์เป็นพิษร้อยละ 4-5 โรคเบาหวานร้อยละ 6-8 แต่คลอดก่อนกำหนดมากถึงร้อยละ 12 เลยทีเดียว” นพ.บุญศรี จันทร์รัชชกูล หัวหน้าหน่วยเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ โรงพยาบาลสมิตเวช สุขุมวิท กล่าวด้วยความเป็นห่วง เพราะมีการรณรงค์ระดับโลก แต่ในไทยยังไม่ค่อยพูดถึงกันมากนัก ทั้งๆ ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของแม่และเด็ก
คลอดตอนไหนจึงเรียกว่า คลอดก่อนกำหนด
โดยปกติ คุณแม่ตั้งครรภ์จะต้องมีอายุครรภ์ 37-41 สัปดาห์จึงจะเรียกว่า การคลอดแบบครบกำหนด หรือประมาณ 9 เดือนโดยเฉลี่ย แต่หากมีการคลอดก่อนอายุครรภ์ครบ 37 สัปดาห์จะเรียกว่า คลอดก่อนกำหนด ซึ่งการคลอดก่อนกำหนดนั้นมักเป็นสาเหตุที่ทำให้ทารกเสียชีวิต พิการ หรือมีโรคประจำตัวได้ และยังส่งผลต่อฐานะเศรษฐกิจครอบครัว เพราะต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพของเด็กในระยะยาว
สาเหตุของการคลอดก่อนกำหนด
ปัจจัยที่ทำให้คลอดก่อนกำหนดนั้นมีหลายอย่าง เช่น คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุต่ำกว่า 17 ปี หรือมากกว่า 35 ปี ครรภ์เป็นพิษ โรคประจำตัว การติดเชื้อของทารกในครรภ์ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ การตั้งครรภ์แฝด มีภาวะเครียด มีความผิดปกติของมดลูกและปากมดลูก คุณแม่สูบบุหรี่หรือใกล้ชิดคนที่สูบ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เคยมีประวัติคลอดก่อนกำหนดมาก่อน เป็นต้น
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ติดตาม คลอดก่อนกำหนด ป้องกันได้จริงหรือ คลิกหน้า 2
คลอดก่อนกำหนด ป้องกันได้จริงหรือ
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาการคลอดก่อนกำหนดที่ได้ผลเลย ทำได้เพียงชะลอการคลอดออกไป 48 ชั่วโมงเท่านั้น แต่การคลอดก่อนกำหนดนั้นสามารถป้องกันได้ ในกรณีที่มีการซักประวัติและทราบว่าคุณแม่เคยคลอดก่อนกำหนดมาก่อน และภาวะปากมดลูกสั้น
“ถ้าสามารถตรวจได้ว่าใครมีปัจจัยเสี่ยงและป้องกันความเสี่ยงนั้นได้ ก็จะช่วยลดการคลอดก่อนกำหนดได้มาก โรคใดก็ตามหากยังไม่มีการรักษาที่ได้ผล ก็ควรต้องมีการป้องกันที่ดีเกิดขึ้น การป้องกันที่ดีก็ต้องมากจากการตรวจที่ดี รู้ว่าใครมีปัจจัยเสี่ยงและป้องกันคนในกลุ่มนั้น ด้วยสาเหตุนี้จึงเกิด 3P Concept เพื่อช่วยป้องกันการคลอดก่อนกำหนดแก่คุณแม่ตั้งครรภ์” นพ.บุญศรี กล่าวก่อนจะอธิบายให้ฟังว่า 3P Concept คืออะไรและช่วยป้องกันได้อย่างไร
รู้หรือไม่ “คุณแม่ที่เคยมีประวัติคลอดก่อนกำหนดมาก่อน 2 ครั้ง ท้องที่สามมีโอกาสคลอดก่อนกำหนด ถึงร้อยละ 42 และมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ”
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
3P Concept ป้องกันคลอดก่อนกำหนด
การป้องกันคลอดก่อนกำหนดด้วยวิธี 3P Concept มีดังนี้
- Prediction คือการตรวจเบื้องต้นว่าคุณแม่ท่านใดมีปัจจัยเสี่ยงบ้างด้วยการซักประวัติ การอัลตร้าซาวนด์เพื่อวัดปากมดลูก และอื่นๆ ดังนั้นยิ่งฝากท้องเร็วเท่าไรก็มีส่วนช่วยในการวินิจฉัยได้ดีมากขึ้น และสามารถวางแผนขั้นตอนการรักษาล่วงหน้าได้ดีขึ้น
“การวัดปากมดลูกทำได้ด้วยการอัลตร้าซาวนด์ทางช่องคลอด โดยวัดตามความยาว หากปากมดลูก สั้นกว่า 2.5 เซ็นติเมตร จะเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด เพราะไม่สามารถรับน้ำหนักเด็กที่เติบโตขึ้นได้ โดยส่วนมากจะเริ่มวัดเมื่ออายุครรภ์ 16 สัปดาห์ แต่บางกรณีสามารถวัดได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 12 สัปดาห์”
ติดตาม วิธีป้องกันการคลอดก่อนกำหนด คลิกหน้า 3
- Prevention การป้องกันการบีบตัวของมดลูก การคลอดเกิดจากมดลูกบีบตัวและปากมดลูกเปิดก่อนเวลา จึงต้องป้องการการบีบตัว โดยมีขั้นตอนดังนี้
2.1 ให้ยากลุ่ม Progesterone เพื่อลดการบีบตัวของมดลูกก่อน ก็จะช่วยชะลอการคลอดก่อนกำหนดไปได้ แต่หากให้ยากลุ่ม Progesterone แล้วไม่ได้ผล ก็จะนำไปสู่ขั้นตอนการรักษาในข้อที่ 2 ต่อไป
2.2 ใส่ห่วงพยุงปากมดลูก (Cervical Pessary) / การเย็บปากมดลูก หลักการการรักษาในขั้นตอนนี้คือการทำอย่างไรให้ปากมดลูกแข็งแรงพอจะพยุงตัวเด็กได้ สมัยก่อนรักษาด้วยการเย็บปากมดลูก แต่การเย็บปากมดลูกคนไข้ต้องวางยาสลบ หลังผ่าตัดก็ต้องนอนโรงพยาบาลหลายวัน เมื่ออายุครรภ์มากขึ้นก็จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลไปเรื่อยๆ จนกว่าจะคลอด เนื่องจากเมื่อเด็กตัวโตขึ้น ปากมดลูกจะหย่อนลงมาอีก ทำให้รู้สึกเจ็บหน่วงและเดินไม่ไหว แต่การใส่ห่วงพยุงปากมดลูกนั้นสะดวกกว่ามาก อีกทั้งใส่ง่าย ห่วงนี้เมื่อใส่ไปแล้วจะไปรัดปากมดลูกให้บวม พอบวมก็จะเกิดการปิดตัวเองโดยธรรมชาติ เมื่อเด็กโตมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีน้ำหนักกดลงมาอีกก็ตาม ห่วงนี้จะช่วยถ่ายเทน้ำหนัก ทำให้แรงที่กดลงมาไม่ผ่านปากมดลูกโดยตรง นอกจากนี้การใส่ห่วงทำให้มีอาการหน่วงน้อยลง คุณแม่สามารถเดินหรือทำกิจกรรมตามปกติได้ โดยไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลแบบถาวร ที่สำคัญจากการรักษาและวิจัยพบว่า ห่วงพยุงปากมดลูกสามารถช่วยป้องกันการคลอดก่อนกำหนดได้มากถึง 45 % เลยทีเดียว
“ห่วงพยุงปากมดลูก (Cervical Pessary) ทำมาจากซิลิโคน จึงนุ่ม ไม่ระคายเคือง มีประสิทธิภาพ ในการช่วยป้องกันการคลอดก่อนกำหนดได้สูง ห่วงพยุงมีหลายขนาด การใช้ขึ้นอยู่กับแพทย์พิจารณา ซึ่งหากใช่ห่วงพยุงแล้วจะใส่ไว้จนกว่าจะคลอดจึงค่อยเอาออก”
- Health Pregnancy Promotion แม้ห่วงพยุงปากมดลูกจะให้ผลดีน่าพอใจ แต่ในบางกรณีก็ยังป้องกันไม่ได้ คนไข้กลุ่มนี้จึงได้รับการรักษาต่อในขั้นตอนนี้ นั่นคือการให้ยาระงับการหดตัวของมดลูกให้ได้ 48 ชั่วโมง โดยยาในกลุ่มสเตียรอยด์นี้จะช่วยขยายปอดให้ทารกหายใจได้ดีขึ้น และป้องกันเลือดออกในลำไส้ จากนั้นจึงให้แมกนีเซียมซัลเฟตต่อ เพื่อป้องกันสมองของทารกในครรภ์ที่มีอายุน้อยกว่า 32 สัปดาห์ จากนั้นจึงทำคลอด แล้วจึงส่งต่อให้ทีม NICU ดูแลเด็กต่อไป
นพ.บุญศรีกล่าวเพิ่มเติมว่า “ส่วนใหญ่คิดว่าเด็กคลอดออกมาแล้วก็จบแค่นั้น แต่จริงๆ ไม่ใช่ เด็กที่คลอดก่อนกำหนดเหล่านี้มักจะตัวเล็กและมีปัญหาสุขภาพ อีกทั้งยังมีปัจจัยเสี่ยงเมื่ออายุมากขึ้น ได้แก่ หนึ่ง อายุสั้นกว่าคนทั่วไป สอง มีโอกาสเป็นโรคในกลุ่มเมตาบอลิกมากกว่า เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ โรคหัวใจ เป็นต้น ดังนั้นเด็กกลุ่มนี้จำเป็นต้องได้รับการติดตามผลไปตลอดชีวิต มีหลายๆ เคสที่เด็กเป็นเบาหวานตั้งแต่อายุ 10 ขวบ หรือบางคนก็เสียชีวิตขณะหลับ เหล่านี้ล้วนเกิดจากการคลอดก่อนกำหนดทั้งสิ้น
การชะลอการคลอดให้นานที่สุดนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อตัวเด็กมาก การที่เขาอยู่ในท้องคุณแม่นานขึ้นๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตได้ถึงร้อยละ 7 ในทุกๆ วันเลยทีเดียว ซึ่งการคลอดก่อนกำหนดนั้นปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะตัวเด็ก แต่ยังส่งผลกระทบต่อพ่อแม่ ครอบครัว และสังคมด้วย”
ขอขอบคุณข้อมูลจาก นพ.บุญศรี จันทร์รัชชกูล หัวหน้าหน่วยเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
บทความโดย กองบรรณาธิการนิตยสาร Amarin baby & kids
อ่านบทความอื่นที่น่าสนใจ
สามีแพ้ท้องแทนภรรยา สาเหตุเกิดจากอะไร?
การเร่งคลอด คืออะไร ทำไมถึงต้องเร่งคลอด?
แผลผ่าคลอดอักเสบ ปวด คัน เป็นหนอง ต้องทำอย่างไร?
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่