ปัญหาสิวที่กลับไม่สิวเมื่อตั้งครรภ์ การดูแลรักษาสิวสำหรับคนที่ เป็นสิวตอนท้อง นั้น เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะยาที่ใช้รักษาสิวบางประเภท ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้ลูกในท้องพิการได้ หรือยาบางประเภทหากกินหรือทาเข้าไป ก็จะส่งผลกับลูกในท้องได้
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับสิวประเภทนี้กันก่อน ว่าทำไมก่อนท้องก็ไม่ได้เป็นสิวง่ายขนาดนี้ แต่พอท้องแล้ว สิวก็บุกมาเต็มไปหมด สาเหตุของการ เป็นสิวตอนท้อง นั้นมาจากฮอร์โมนนั่นเองค่ะ ในช่วงท้อง ระดับฮอร์โมนในร่างกายแม่ท้องจะเปลี่ยนแปลงมาก ฮอร์โมนที่มีมากขึ้นเป็นสาเหตุให้ผิวมันขึ้น เมื่อผิวมันขึ้น ผิวจะอุดตันได้ง่าย สำหรับผู้หญิงที่มีประวัติเป็นสิวในช่วงก่อนมีประจำเดือน ในช่วงท้องก็มีโอกาสจะเกิดสิวได้ง่ายกว่าเดิม นอกจากนี้ อารมณ์ที่แปรปรวน อ่อนไหว ในช่วงท้อง ก็ทำให้เกิดความเครียดและความกังวล ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวการที่ทำให้สิวเห่อนั่นเอง
เป็นสิวตอนท้อง รักษาอย่างไรไม่กระทบลูก
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับยารักษาสิวที่ควรหลีกเลี่ยงหากกำลังตั้งครรภ์ วางแผนที่จะตั้งครรภ์ กันก่อนนะคะ ว่ายาประเภทนี้อาจส่งผลในเรื่องใดได้บ้าง
ยาที่ห้ามใช้ตอนท้อง
อ้างอิงจากบทความเรื่อง “โรคสิวในเวชปฏิบัติ” ในวารสารการแพทย์ (วารสารคลินิก) ซึ่งได้กล่าวไว้ว่า ยารักษาสิวทั้งในรูปแบบยากินและยาทา ต่อไปนี้ ส่งผลเสียต่อลูกในท้อง
- ยาทากลุ่มกรดวิตามินเอ หรือ เรตินอยด์ ได้แก่ Tretinoin, Isotretinoin, Adapaleno ซึ่งยากลุ่มนี้ยังไม่ยืนยันความปลอดภัยสำหรับหญิงมีครรภ์ ส่วน Tazarolene นั้นห้ามใช้ในหญิงมีครรภ์โดยเด็ดขาด
- ยากินที่ใช้รักษาสิวและห้ามใช้ในหญิงมีครรภ์ เด็ดขาด คือยากลุ่มเดตตร้าชัยคลิน ได้แก่ Tetracycline, Doxycycline และ Minoeyeline ซึ่งเป็นยากินรักษาสิวที่ใช้กันมาก เนื่องจากยาตัวนี้มีผลต่อกระดูกและฟันของเด็กอ่อนในครรภ์และเด็ก จึงห้ามใช้ในหญิงมีครรภ์ และไม่ให้ใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 8 ขวบ หรือจนกว่าจะมีฟันแท้ ขึ้นครบ
- ส่วนยากินกลุ่มซัลฟา ก็ไม่แนะนำให้ใช้ในหญิงมีครรภ์ และยาสำหรับกินรักษาสิว กลุ่มฮอร์โมน เช่น Spironolactone, Cyproterone acetate ระหว่างกินยาชนิดนี้ก็ห้ามตั้งครรภ์ เพราะลูกน้อยในท้องที่เป็นเพศชาย มีสิทธิ์กระเดียดเป็นเพศหญิงได้
- สำหรับยากินรักษาสิวที่มีผลเสียต่อเด็กทารกมากที่สุด เป็นเหตุให้เด็กต้องพิการหลายพันคนทั่วโลก คือ เรตินอยด์ หรือ Isotretinoin ยาตัวนี้จะทำให้เด็กทารกพิการ ดังนั้น ห้ามใช้ยาตัวนี้เด็ดขาด สำหรับคนที่คิดจะตั้งครรภ์ เคยใช้ยาตัวนี้ก็ต้องหยุดกินยาให้ครบ 1 เดือนก่อนการตั้งครรภ์ จึงปลอดภัย และระหว่างให้นมลูกก็ห้ามใช้ยาตัวนี้ด้วยเช่นกัน รวมไปถึงห้ามบริจาคเลือดระหว่างกินยานี้ การใช้ยาต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น ส่วนความผิดปกติที่พบร้อยละ 25-30 ของหญิงตั้งครรภ์ที่กินตัวยานี้ เด็กมีความผิดปกติในกะโหลกและใบหน้า หัวใจ ระบบประสาทส่วนกลาง **ที่สำคัญ ในเมืองไทยสามารถหาซื้อยา ตัวนี้ได้ง่ายและไม่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์**
ในกรณีที่แม่ท้องมีสิวขึ้นมาก แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอก่อนการใช้ยาทุกชนิดนะคะ และควรแจ้งคุณหมอด้วยว่ากำลังตั้งครรภ์ เพื่อให้คุณหมอจ่ายยาที่ไม่อันตรายกับแม่ท้อง
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ เป็นสิวตอนท้อง กับ 13 วิธีดี๊ดี รักษาสิวตอนท้องแบบไม่ต้องพึ่งยา