3.ถ้ามีเหตุต้องส่งเข้ารพ.รัฐในที่สุด ก็ยากเหลือแสน
โดยเฉพาะเด็กคลอดก่อนกำหนดนะคะ หาที่รับยากมากค่ะ แต่ถ้าคุณไปเริ่มต้นกับรพ.รัฐแต่แรก เขาก็ต้องรับอยู่แล้วแหละ
ที่ต้องมาเขียน เพราะคนไข้รพ.เอกชนมักไม่เข้าใจในความหวังดีของเรา เวลาที่เราอยู่เอกชนแล้วเจอเคสนะคะ
คนไข้มักไม่เข้าใจและไม่พอใจว่าทำไมเราต้องส่งเขาเข้ารัฐบาล
ซึ่งการที่เราเป็นหมอ รพ.รัฐอยู่แล้ว เราก็ยึดความปลอดภัยคนไข้เป็นหลัก และเราก็คุยเพื่อส่งเคสกับรพ.รัฐได้ง่ายด้วย
แต่เราก็ไม่สามารถอธิบายอะไรกับคนไข้ได้มาก ก็ ณ ขณะนั้นเราอยู่ในสถานะหมอ รพ.เอกชน จะให้พูดไปว่า ที่นี่มันไม่พร้อมอย่างงั้นไม่ดีอย่างงี้ เลี้ยงลูกคุณไม่ไหวหรอก ได้เหรอ???
ถ้าคนไข้เจอหมอฟูลไทม์ บางท่านก็จะพยายามเก็บคนไข้ไว้จนถึงที่สุด ซึ่งบางครั้งเป็นการรักษาบนความเสี่ยง (แต่คนไข้ไม่รู้ตัวนะคะ กลับมีความพอใจมากกกก) เพราะมันเป็นการยากที่เขาจะยอมรับว่า รพ.ตัวเอง ศักยภาพไม่เพียงพอที่จะดูเคส
ก็จะพยายามถูลู่ถูกังอยู่กันไป ซึ่งบางเคสก็ตลอดรอดฝั่งไปได้ด้วยดี (เด็กคลอดกำหนดบางคนก็อาการดีเหลือเชื่อ)
แต่บางเคส ก็แย่เกินกว่าคาดฝันค่ะ แล้วนึกดูว่า คุณเข้าไป ผ่ากับเขาเรียบร้อย เสร็จปุ๊บออกมาหมอเด็กบอกเด็กหอบต้องหาที่ส่งตัวลูก ระหว่างยังหาไม่ได้ ค่ารักษาวิ่งทุกวันเป็นหมื่นเป็นแสนจะทำยังไงแถมการรักษาก็ยังไม่เต็มร้อยอีก
อันนี้ก็ฝากให้คิดนะคะ กรณีคลอดก่อนกำหนด และกรณีอื่นๆ ซึ่งสุดท้ายหมออาจจำเป็นต้องให้คลอดก่อนกำหนดเช่นกัน เช่น ครรภ์เป็นพิษ รกเกาะต่ำเลือดออกมาก
ถ้ารู้ตัวว่าความเสี่ยงสูงเข้ารัฐบาลได้ก็เข้าเถอะค่ะ หรือถ้าหมอรพ.เอกชนบอกว่า ควรไปรพ.รัฐก็ไปเถอะค่ะอย่างอแงเลย
หากกระทบต่อความรู้สึกใครต้องขออภัยนะคะ และเชิญหมอสูติหมอเด็กแสดงความเห็นเพิ่มเติมได้ค่ะ
-------> อ่านต่อบทความแนะนำ : คลอดก่อนกำหนด อันตราย กว่าที่คิด!!!
-------> อ่านต่อบทความแนะนำ : ครรภ์เป็นพิษ ภัยใกล้ตัว! อันตรายต่อคุณแม่และลูกในท้อง
-------> อ่านต่อบทความแนะนำ : รกเกาะต่ำ ภาวะรุนแรงที่สุดของการตั้งครรภ์
ซึ่งจากกระทู้นี้สิ่งนี้ที่สามารถบอกคุณแม่ได้คือ เมื่อรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ การไปฝากครรภ์เป็นเรื่องสำคัญ โดยต้องดูรายละเอียด พิจารณาดังข้อต่อไปนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจฝากครรภ์และคลอดที่รพ. นั้นๆ โดยมีสามชิกเว็บไซต์พันทิปท่านหนึ่งใช้ชื่อว่า Suchamaso ได้แสดงความคิดเห็น ซึ่งให้รายละเอียดไว้อย่างดี ว่า…
***หมายเหตุ: ข้อมูลดังต่อไปนี้เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งนำมาแชร์เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่จึงต้องใช้วิจารณญาณให้การอ่าน เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจของตัวท่านเองด้วยนะคะ***
เราเป็นใครไม่สำคัญ..ฟังที่เราจะบอกก็พอ อิอิ
ขอบอกกันไว้ตรงนี้ในฐานะมนุษย์คนนึงเลยนะว่า
รพ.เอกชน เค้าเป็นธุรกิจแบบนึงคุณต้องเข้าใจว่าเขาต้องการกำไร
แน่นอนสิ่งที่คุณจ่ายไปคุณจะได้ความสะดวกสบายและบริการที่ดีกว่ารัฐ
แต่ถ้าให้พูดกันตรงๆคือมีไม่กี่ รพ.ที่สามารถดูแลทารกแรกที่มีเกิดภาวะวิกฤติได้ และต้องบอกอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญคือการฝากครรภ์จะทำให้คุณทราบอยู่แล้วว่าคุณมีความเสี่ยงใดๆ หรือเปล่า ??? เพื่อเตรียมวางแผนค่าใช้จ่าย
ถ้าคุณจะต้องจ่ายคุณต้องวางแผนเนิ่นๆ ศึกษาข้อมูลล่วงหน้าก่อนจะคลอดให้ดีว่า รพ.ที่คุณจะไปคลอดและต้องจ่ายเงินนั้นมีศักยภาพเพียงพอไหม โดยพิจารณาจากหลักเกณฑ์คร่าวๆ ในกรณีที่ครรภ์มีความเสี่ยงดังนี้1. มีกุมารแพทย์ทารกแรกเกิด (Neonatologist)
2. มีหน่วยอภิบาลทารกแรกเกิดวิกฤติ (NICU)
3. มีตู้อบทารกแรกเกิดเพียงพอ (Incubator)
4. มีเครื่องช่วยหายใจหลากชนิดตามอาการของทารก (Ventilator)
5. มีความสามารถในการจัดหา/ผลิตสารอาหารทางหลอดเลือด (TPN)
อ่านต่อ >> คำแนะนำในกระทู้จากพันทิป “เตือนใจคุณแม่ท้อง เรื่องการเข้า รพ.เอกชน” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่