AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

อาการคนท้องระยะแรก คุณแม่มือใหม่รับมืออย่างไร?

อาการคนท้องระยะแรก หรืออาการแพ้ท้องในคุณแม่ตั้งครรภ์

เรื่องกวนใจคุณแม่หลายคน คงนี้ไม่พ้น อาการคนท้องระยะแรก หรืออาการแพ้ท้องในคุณแม่ตั้งครรภ์ โดยอาการส่วนใหญ่ที่พบบ่อย เช่น เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ได้กลิ่นแปลกก็รู้สึกพะอืดพะอมโดยไม่ทราบสาเหตุ หรืออยากรับประทานของเปรี้ยวๆ เรามารับมือ อาการคนท้องระยะแรก เหล่านี้กันค่ะ

อาการคนท้องระยะแรก หรืออาการแพ้ท้องคืออะไร?

อาการคนท้องระยะแรก หรืออาการแพ้ท้อง (Morning sickness) เป็นอาการหรือความรู้สึกที่ไม่สุขสบายที่เกิดขึ้นในคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 80-90% ส่วนใหญ่มีอาการพะอืดพะอม คลื่นไส้ อาเจียน แสบลิ้นปี่ วิงเวียนศีรษะ เหนื่อยง่าย อ่อนเพลียมากกว่าปกติ แต่อาการเหล่านี้จะดีขึ้นเมื่ออายุครรภ์มากกว่า 3 เดือน และมักจะมีอาการมากในตอนเช้าหลังตื่นนอน แต่ก็อาจมีอาการแพ้ช่วงกลางวันหรือเย็นบ้าง โดย อาการคนท้องระยะแรก อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ซึ่งมีอาการหลักๆ ดังนี้

1.รู้สึกคลื่นไส้อาเจียน อึดอัดท้อง และหน้าอกจนต้องอาเจียนออกมา โดยอาการที่ว่านี้หากเกิดขึ้นตอนท้องว่างด้วยแล้วนั้นยิ่งทรมานมาก เพราะไม่มีอะไรออกมาเลย

2.ปวดแสบลิ้นปี่ หากแพ้ท้องและอาเจียนบ่อยๆ อาจมีอาการแสบบริเวณลิ้นปี่ เพราะน้ำย่อยที่อาเจียนออกมาทำให้แสบหลอดอาหาร ทำให้รู้สึกขมลิ้น เจ็บปวดในอก และเจ็บคอจนอาจเกิดอาการไอเรื้อรังได้

3.จมูกไว เกิดจากระบบประสาทอัตโนมัติไม่มั่นคง ทำให้รู้สึกไม่สบายทันทีเมื่อได้กลิ่นเหม็น เช่น กลิ่นอาหาร ได้แก่ เนื้อสัตว์ กระเทียม กาแฟ กลิ่นน้ำหอมที่เคยชอบ กลิ่นคุณพ่อ และบางครั้งก็รู้สึกหอมมากกับบางสิ่ง เช่น กลิ่นข้าวที่หุงสุก กลิ่นไอน้ำจากการต้ม

อาการคนท้องระยะแรก หรืออาการแพ้ท้องในคุณแม่ตั้งครรภ์ เป็นเรื่องกวนใจอย่างมาก

4.ความชอบในการรับประทานเปลี่ยนไป คุณแม่อาจอยากรับประทานของแปลกๆ เช่น อาหารที่มีรสเปรี้ยว ของหมัก ของดอง เป็นต้น หรือจู่ๆ ก็ไม่สามารถรับประทานอาหารที่เคยชอบได้ หรืออยากรับประทานสิ่งที่ไม่ชอบ หรือคุณแม่บางคนอาจไม่อยากรับประทานอะไรเลย

5.อ่อนเพลีย รู้สึกเหนื่อยง่าย อยากนอนทั้งวัน เนื่องจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสูงขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวเหมือนยากล่อมประสาท ร่างกายมีการเผาไหม้อาหารสำหรับทารก ทำให้สูญเสียพลังงานมากขึ้น

6.อารมณ์แปรปรวน รู้สึกหงุดหงิด และคุณแม่บางคนอาจมีอาการปวดศีรษะบ่อยขึ้น

อ่าน “40 วิธีรับมืออาการแพ้ท้อง” คลิกหน้า 2

40 วิธีรับมืออาการแพ้ท้อง

1.ดื่มนม หรือเครื่องดื่มร้อนๆ หลังจากตื่นนอนตอนเช้า

2.หากรู้สึกคลื่นไส้อาเจียน ให้จิบน้ำอุ่น หรือน้ำขิง (ขิงแท้ 100% ไม่ใส่น้ำตาล) ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้

3.หลังอาเจียน ควรดื่มน้ำอุ่น กลั้วคอล้างกลิ่นที่ทำให้รู้สึกคลื่นไส้ และในระหว่างวันควรดื่มน้ำให้มากๆ

4.รับประทานอาหารอ่อนๆ ย่อยง่าย แบ่งอาหารเป็นมื้อย่อยๆ วันละ 5-6 มื้อ ช่วยลดความรู้สึกคลื่นไส้

5.รับประทานผลไม้บรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน ได้แก่ สับปะรด และกล้วย

6.รับประทานขนมปังจืด หรือขนมปังกรอบธัญพืช 1-2 ชิ้น ก่อนนอน เพื่อไม่ให้ท้องว่าง บรรเทาอาการแพ้

7.เตรียมเครื่องดื่ม หรือขนมปังแครกเกอร์แบบเค็มไว้ใกล้ตัวเสมอ หลังตื่นนอนให้รับประทานทันที และนอนต่อ 15 นาทีก่อนจะลุกจากเตียง ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้

8.เมื่อลืมตาตื่นนอนแล้ว ให้นอนพักร่างกายสักครู่ อย่าเพิ่งรีบลุกจากเตียงทันที เพราะจะทำให้คลื่นไส้ได้

9.นักจิตวิทยาชื่อ Gordon Gallup กล่าวว่า “การมีออรัลเซ็กซ์สามารถช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้” แต่คำกล่าวนี้ยังไม่มีการพิสูจน์อย่างเป็นรูปธรรมหรือมีหลักฐานสนับสนุนแต่อย่างใด

10.ใส่สายรัดข้อมือบรรเทาอาการแพ้ท้อง แต่ต้องเป็นสายรัดข้อมือกดจุดเท่านั้น ทำงานโดยการให้ความดันที่ปลอกข้อมืดกดจุด

อาการคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ เป็น 1 ใน อาการคนท้องระยะแรก ที่เกิดการแพ้ท้อง

11.หากิจกรรมทำ เช่น พูดคุยกับเพื่อน หรืออยู่กับสิ่งที่ชอบ เพื่อผ่อนคลายความเครียด และปรับอารมณ์

12.การเดินเล่นไปมา สามารถช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้ รวมถึงอาการอื่นๆ เช่น อาการจุกเสียด

13.กลิ่นหอมบางกลิ่นช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้ เช่น น้ำมันหอมระเหยเปปเปอร์มินต์ วางไว้ในห้องนอน

14.รักษาจากสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้ท้อง เช่น อาการแพ้ท้องแฝด หรือกรณีตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก

15.หากแพ้ท้องไม่มาก แพทย์จะให้คำแนะนำว่าอาการเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมชาติ คุณแม่ไม่ต้องกังวล

16.หากแพ้ท้องมาก แนะนำให้อมลูกอมบ่อยๆ จิบน้ำหวาน หรือน้ำผลไม้ทีละน้อย เพื่อให้พลังงาน

17.หากอาเจียนมากจนรับประทานไม่ได้ ควรปรึกษาพบแพทย์ ไม่แนะนำให้ซื้อยามารับประทานเอง

18.หากอาเจียนรุนแรง ควรรีบพบแพทย์ เพราะอาจทำให้มีภาวะขาดน้ำ ขาดสารอาหาร เลือดเป็นกรดได้

19.ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นอนดึก หาเวลางีบบ้างระหว่างวัน ทำจิตใจให้สงบและเข้มแข็ง ไม่เครียด

20.ไม่ควรฝืนทำงานหรือออกกำลังกายมากเกินไป เพราะช่วงนี้สภาพร่างกายของคุณแม่และลูกยังไม่มั่นคง

อ่าน “40 วิธีรับมืออาการแพ้ท้อง (ต่อ)” คลิกหน้า 3

40 วิธีรับมืออาการแพ้ท้อง (ต่อ)

21.อย่างดอาหาร คุณแม่ควรมีขนมขบเคี้ยวที่มีโปรตีนสูง เช่น ขนมจำพวกถั่ว ขนมที่ทำจากถั่วเหลือง

22.แม้ว่าบางครั้งคุณแม่จะไม่รู้สึกหิว แต่ก็ควรจะพยายามบังคับตัวเองให้รับประทานอาหารให้ได้

23.หลีกเลี่ยงอาหารมันหรือของทอด อาหารรสจัดหรือมีเครื่องเทศมาก อาหารร้อนจัด ผลไม้ดอง ฯลฯ

24.อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงจะรับประทานได้ง่ายกว่า เช่น ข้าวสวย ธัญพืช ขนมปังแห้งๆ กรอบๆ

25.อาหารโปรตีนสูงบางชนิดอาจทำให้คุณแม่ไม่สบายท้องได้ อาจเปลี่ยนมารับประทานไข่ต้มสุกๆ อาหารทะเล หรือเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ

26.เมื่ออยากรับประทานอาหารรสเปรี้ยว ให้เลือกทานยำ สลัด หรือผลไม้สดที่มีรสเปรี้ยว แทนของหมักดอง

27.รับประทานผักและผลไม้สดๆ เช่น ผักกาดหอม กล้วย แอปเปิ้ล สับปะรด ฝรั่ง พุทรา

28.ดื่มน้ำก่อนและหลังรับประทานอาหารประมาณ 30 นาที และไม่ควรดื่มน้ำร่วมกับการรับประทานอาหาร

29.ดื่มน้ำให้เพียงพอ จิบน้ำบ่อยๆ หรือฝานขิงอ่อนเป็นแผ่นบางๆ แช่ในน้ำร้อน แล้วนำมาจิบบ่อยๆ

30.บางครั้งคุณแม่อาจอยากรับประทานอาหารแปลกๆ คุณแม่จะต้องพยายามหักห้ามใจและหลีกเลี่ยง

อาการแพ้ท้องสามารถรับมือได้โดย รับประทานผักและผลไม้สดๆ หลีกเลี่ยงของหมักดอง

31.ไม่ควรแปรงฟันทันทีหลังอาหาร รอสักพักแล้วค่อยแปรง เพราะการแปรงฟันอาจทำให้อยากอาเจียน

32.ไม่ควรนอนทันทีหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ

33.หลีกเลี่ยงสถานที่ร้อนอบอ้าว อากาศไม่ถ่ายเท หรือแสงแดด ควรพกร่ม พัด ยาดม และลูกอมติดตัวไว้

34.หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่คนแออัด พกผ้าปิดปากติดตัวเสมอ เพื่อลดการได้กลิ่นต่างๆ ให้น้อยลง

35.ลดสัมภาระในกระเป๋าถือ เหลือไว้แต่ของใช้จำเป็น เพราะการแบกหรือยกของหนักเกินไป อาจทำให้คุณแม่รู้สึกเหนื่อย

36.การสวมเสื้อผ้าที่ทำให้ไม่สบายตัว อาจทำให้คลื่นไส้อาเจียนได้ง่าย ควรใส่เสื้อที่สบาย ระบายอากาศ

37.ลีกหนีให้ไกลจากกลิ่นที่ทำให้คลื่นไส้ หากต้องปรุงอาหารควรเปิดหน้าต่าง เปิดพัดลมระบายอากาศ

38.ทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี เช่น นม เนื้อสัตว์ ตับ ไข่ ปลา สัตว์น้ำประเภทมีเปลือก ถั่ว ข้าวโพด

39.หากคุณแม่มีอาการแพ้ท้องรุนแรงควรแจ้งให้แพทย์ทราบ แพทย์อาจจะสั่งจ่ายวิตามินบีรวมหรือวิตามินบี 6 มาให้คุณแม่รับประทาน

40.จดบันทึกประจำวัน ว่าเวลาใดที่มีอาการแพ้ท้อง คุณแม่จะได้ระวังตัวหรือวางแผนทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้

เครดิต: Medthai

อ่านเนื้อหาที่น่าสนใจเพิ่มเติม คลิก!!

แพ้ท้องหนักมาก มีผลอย่างไรกับแม่ท้องและลูกในท้อง

เผยสูตรเด็ด! “มะม่วงน้ำปลาหวาน” แก้แพ้ท้อง ตำรับ “แม่นายการะเกด”

หมอรามาแนะเทคนิค! เอาชนะ “อาการแพ้ท้อง” แบบถูกต้อง

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids