AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

เรื่องหลังคลอดที่คุณแม่มือใหม่…อาจไม่รู้

เราอาจเตรียมตัวเตรียมใจเรื่องการตั้งครรภ์และการคลอดเต็มที่ ศึกษาข้อมูลจนทะลุปรุโปร่ง แต่ไหงดันลืมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงหลังคลอดเสียอย่างนั้น ขอบอกว่าไม่ใช่เรื่องเลี้ยงลูก แต่เป็นเรื่องร่างกายของคุณแม่ล้วนๆ

•  24 ชั่วโมงแรก หลังคลอด

ร่างกายของแต่ละคนมีการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกัน บางคนอาจรู้สึกอ่อนล้า ผิดหวัง หรือเศร้าซึม ในขณะที่บางคนอาจมีความสุข กระตือรือร้น และร่าเริง แต่ไม่ว่าจะรู้สึกแบบไหน สิ่งสำคัญคือการให้เวลาให้ร่างกายได้ฟื้นฟู ซึ่งการฟื้นฟูร่างกายหลังคลอดระหว่างคลอดธรรมชาติกับการผ่าคลอดนั้นมีความแตกต่างกัน

1. การคลอดธรรมชาติ

หลังจากคลอดลูกน้อยไปแล้ว มดลูกของคุณแม่ยังคงบีบตัวเพื่อขับรกที่อยู่ในมดลูกออกมา โดยมีคุณหมอคอยนวดท้องคุณแม่เพื่อช่วยกระตุ้นมดลูกอีกทางหนึ่ง ส่วนมากจะใช้เวลาคลอดรกประมาณ 5-10 นาที แต่บางคนอาจนานถึงครึ่งชั่วโมง โดยตลอดเวลาที่เบ่งคลอดรกนั้นคุณแม่จะไม่รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด หลังจากคลอดรกแล้ว คุณหมอก็จะฉีดยาออกซิโทซิน กระตุ้นให้มดลูกยังคงบีบตัว เพื่อช่วยปิดหลอดเลือดบริเวณที่รกลอกตัวให้ไหลน้อยลง และยังช่วยให้มดลูกหดลงเท่ากับขนาดมดลูกก่อนตั้งครรภ์เร็วขึ้นด้วย สุดท้ายจึงค่อยเย็บแผลบริเวณฝีเย็บซึ่งอยู่ระหว่างช่องคลอดและทวารหนัก โดยคุณแม่จะรู้สึกเจ็บแผลนี้ประมาณ 2-3 วัน หรือนานถึงสัปดาห์ และอาจมีอาการท้องผูกหลังผ่าตัด ซึ่งหากวันที่ 3 แล้วยังถ่ายไม่ออก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางรักษา

2. การผ่าคลอด

หลังจากการผ่าตัด ทีมแพทย์จะพาคุณแม่มายังห้องพักฟื้นเพื่อตรวจวัดสัญญาณชีพ (ได้แก่ อุณหภูมิร่างกาย อัตราการเต้นชีพจร อัตราการหายใจ และความดันโลหิต) ทุกๆ 15 นาที เป็นเวลา 1-2 ชั่วโมง หรืออาจมากกว่านั้น หากฤทธิ์ยาชายังไม่หมด ในระหว่างนี้คุณแม่สามารถให้นมลูกได้และยังไม่รู้สึกเจ็บแผลผ่าตัด แต่หากฤทธิ์ยาหมดแล้ว คุณแม่อาจเจ็บมากจนให้นมลูกไม่ไหว แพทย์ก็จะให้ยาแก้ปวดเพื่อช่วยให้คุณแม่สามารถให้นมลูกได้ต่อไป โดยอาการเจ็บแผลผ่าตัดนี้จะต่อเนื่องไปอีกหลายวันเลยทีเดียว

•  หลังผ่าตัด 6-8 ชั่วโมง

หากยังไม่ดึกเกินไป คุณหมอจะแนะนำให้คุณแม่เดินในระยะสั้นๆ สองครั้งต่อวัน ถึงแม้ว่าการเดินอาจจะทำให้เจ็บแผล แต่จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น เพราะทำให้ไม่มีของเหลวคั่งในปอด กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ให้ระบบย่อยและระบบขับถ่ายกลับมาทำงาน ลดอาการท้องอืด และป้องกันการเกิดลิ่มเลือด โดยในระยะแรกของการเดิน ควรมีคนคอยช่วยพยุงด้วย เพื่อป้องกันการล้ม

•  หลังจากการผ่าตัด 12-24 ชั่วโมงแรก

คุณแม่จะไม่สามารถกินอะไรได้เลยนอกจากจิบน้ำ ซึ่งต้องรอจนกว่าจะผายลม (แสดงว่าระบบย่อยกลับมาทำงานแล้ว) แต่จะได้รับน้ำเกลือเพื่อป้องกันการขาดน้ำแทน เมื่อระบบย่อยกลับมาทำงานแล้ว จึงเริ่มรับประทานอาหารอ่อนๆได้

สำหรับคุณแม่ที่ผ่าคลอดนั้นจะใช้เวลาฟื้นฟูร่างกายนานกว่าคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติ  ส่วนมากจะใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์ และควรทำกิจกรรมทุกอย่างช้าๆ ไม่ยกของหนัก ไม่ขับรถเอง และการนอนพักมากๆ จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น

อ่านต่อ >> “เรื่องหลังคลอดที่คุณแม่มือใหม่…อาจไม่รู้” คลิกหน้า 2

•  เปลี่ยนตั้งแต่หัวจรดเท้า

1. ผม

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนขณะตั้งครรภ์ทำให้ผมหนาขึ้นและเงางามขึ้น แต่พอหลังคลอดเท่านั้นแหละ ผมกลับร่วงทุกวัน วันละนับร้อยเส้น พานให้กังวลว่าจะกลายเป็นคนหัวล้านเสียแล้ว ไม่ต้องเครียดค่ะ นั่นเพราะฮอร์โมนในร่างกายกลับมาอยู่ในระดับเดิม เส้นผมของคุณแม่จึงร่วงมากๆ ในช่วง 3-4 เดือนแรก และจะกลับมาเป็นปกติภายใน 6-12 เดือน

2. หน้าอก

หลังคลอดเต้านมของคุณแม่จะอ่อนนุ่มเพราะมีเพียงน้ำนมเหลืองเท่านั้น แต่ 2-3 วันหลังจากนั้นจะเริ่มบวม คัด ตึง มากขึ้น เพราะเริ่มผลิตน้ำนมจริง และในช่วงแรกที่ลูกดูดนม คุณแม่จะเจ็บที่หัวนมมาก แต่พอเข้าวันที่ 5 แล้ว ความเจ็บก็จะลดลง ส่วนขนาดหน้าอกบางคนมีขนาดใหญ่ขึ้น บางคนเล็กลง ในขณะที่บางคนก็ขนาดเท่าเดิม แต่ที่สำคัญคือหย่อนคล้อยมากขึ้น

3. หน้าท้อง

หลังจากคลอดปุ๊บ ท้องของคุณแม่จะไม่หดลงเท่าเดิมปั๊บ  แต่ขนาดจะยังคงใหญ่และหย่อนยานคล้ายคนท้องสัก 6 เดือนอยู่ เนื่องจากผิวหนังและกล้ามเนื้อของคุณแม่มีการขยายออกตลอด 9 เดือน รวมถึงมดลูกที่ใหญ่ตามขนาดลูก ซึ่งสำหรับมดลูกนั้น จะสามารถหดตัวจนกลับไปขนาดเท่าเดิมได้เอง โดยใช้เวลาประมาณ 6-8 สัปดาห์ (การให้ลูกดูดนมจะช่วยให้มดลูกหดตัวเร็วขึ้นด้วย) ในขณะที่ผิวหนังและกล้ามเนื้อที่ขยายออกนี้ต้องอาศัยการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายเท่านั้น

4. ช่องคลอด

การคลอดธรรมชาติทำให้ช่องคลอดขยายตัวมาก มีอาการบวมและช้ำ 2-3 วันหลังคลอดอาการบวมจึงค่อยทุเลาลง และช่องคลอดค่อยๆหดกลับมาในอีก 2-3 สัปดาห์ถัดมา แต่จะไม่หดกลับไปเท่าเดิมเหมือนก่อนตั้งครรภ์ ดังนั้นการออกกำลังกายด้วยการบริหารอุ้งเชิงกรานจะช่วยให้ช่องคลอดกลับมากระชับขึ้นและใช้เวลาฟื้นฟูน้อยลง

5. เท้า

เพราะร่างกายคุณแม่ต้องแบกน้ำหนักมากเมื่อตอนตั้งครรภ์ ทำให้กระดูกเท้าขยายออกและแบนขึ้นเพื่อรองรับน้ำหนักที่เปลี่ยนไป เป็นเหตุให้คุณแม่ต้องเปลี่ยนไซส์รองเท้า ทั้งนี้แม้หลังคลอดไปแล้วเท้าของคุณแม่ก็จะไม่หดกลับไปเท่าเดิม ขยายแล้วขยายเลย อย่างไรเสียก็ถือว่าเป็นของที่ระลึกจากการมีเจ้าตัวน้อยก็แล้วกันค่ะ

6. ผิวหนัง

รอยแตกลาย ก็เป็นของที่ระลึกจากการตั้งครรภ์อีกหนึ่งอย่างที่ไม่หายไปไหน แต่สามารถจางได้หากหมั่นทาครีมบำรุง ส่วนคุณแม่คนไหนมีปัญหาเรื่องสิวเห่อ ฝ้า หรือกระขึ้นตอนตั้งครรภ์ หลังคลอดแล้วปัญหาเหล่านี้จะค่อยๆ หมดไป เพราะฮอร์โมนในร่างกายกลับมาอยู่ในระดับปกติแล้ว

ถึงแม้ร่างกายของคุณแม่จะเปลี่ยนแปลงไปมากมาย แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้นมีค่ายิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ดังนั้นขอให้คุณแม่เข้มแข็งและอย่าลืมพักผ่อน เพื่อให้ร่างกายและจิตใจมีพลังในการเลี้ยงลูกต่อไป หรือจะมีลูกอีกคนก็ไม่ว่ากันค่ะ


บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสาร Amarin Baby & Kids