การไป เยี่ยมคุณแม่หลังคลอด และทารกตัวน้อย …ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทารกได้รับเชื้อมากที่สุด คือการสัมผัสของคนรอบข้าง เนื่องจาก ทารกมีภูมิคุ้มกันต่ำและมีผิวหนังซึ่งเป็นเกราะธรรมชาติบอบบาง
เพราะเชื้อโรคที่อยู่บริเวณมือและส่วนต่างๆ ของร่างกายผู้เข้าเยี่ยม ซึ่งปกติจะไม่ก่อให้เกิดโรคใดๆ แต่เมื่อเชื้อนี้อยู่บนร่างกายทารก จากการสัมผัสโดยไม่ได้ล้างมือ มันจะก่อตัวเพิ่มจำนวนมากขึ้นและท่าให้เกิดโรคได้
เช่นเดียวกับเรื่องร้ายของหนูน้อยคนนี้ ที่คุณแม่ชาวอังกฤษ ชื่อว่า แคลร์ เฮนเดอร์สัน ได้โพสต์ข้อความและรูปภาพผ่านเฟสบุ๊กเตือนบรรดาคุณแม่มือใหม่ทั้งหลาย อย่าให้ใครมาหอมหรือจูบแก้มลูกน้อยพร่ำเพรื่อ เพราะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของลูกน้อยได้
เฮนเดอร์สัน ผู้เป็นแม่เล่าว่า บรู๊ค ลูกสาวของเธอลืมตัวดูโลกเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางญาติพี่น้องและเพื่อนๆ แวะเวียนมาเยี่ยมและแสดงความยินดีไม่ขาดสาย ซึ่งในจำนวนแขกที่มาเยี่ยมนั้น ตนก็ไม่ทันระวังเพื่อนคนหนึ่งที่มีเชื้อไวรัส HSV-1 ต้นเหตุของโรคเริม สามารถติดต่อได้จากการจูบปาก หรือแม้แต่จูจุ๊บเบาๆ และหากเด็กทารกติดเชื้อไวรัสตัวนี้เข้าไปแล้วอาจทำอันตรายกับปอด รวมถึงตับและสมองจนถึงขั้นเสียชีวิต
ทั้งนี้ อาการติดเชื้อไม่ได้แสดงออกทันที แต่อยู่มาคืนหนึ่งระหว่างป้อนนมลูก ซึ่งคุณแม่สังเกตเห็นความผิดปกติว่า บรู๊ค ลูกสาวตัวน้อยว่า มีไข้อ่อนๆ และมีอาการบวมแดงที่ริมฝีปาก เธอจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที
ซึ่งแพทย์ระบุว่า โชคดีที่นำตัวหนูน้อยมาโรงพยาบาลทันเวลาเพราะอาการน่าเป็นห่วง โดยหนูน้อยต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลถึง 5 วัน
คุณแม่เฮนเดอร์สัน จึงโพสต์ข้อความเตือนบรรดาคุณแม่คนอื่นๆ ให้ระมัดระวังอย่าใครจูบหรือหอมทารกแรกเกิด เพราะไม่อาจทราบได้เลยว่า ใครที่มีเชื้อไวรัสชนิดนี้ และหากพบเพื่อนหรือญาติคนใดมีแผลที่ปากให้รู้ไว้เลยว่าเป็นอันตรายต่อลูกน้อย
ด้านผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคติดต่อ กล่าวถึงกรณีของหนูน้อยบรู๊คว่า เชื้อสามารถเข้าไปทำลายระบบประสาทเด็กในวัยแรกเกิดได้ เป็นเคสที่พบได้ยากแต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย อย่างไรก็ตาม ทารกส่วนใหญ่ไม่ได้มีความเสี่ยงเพราะมีภูมิคุ้มกันจากแม่
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!
- โรคเริมในเด็กอันตราย ลูกเสี่ยงเสียชีวิต เพราะจูบ
- แม่แชร์ประสบการณ์เตือน! ลูกวัยไม่ถึงเดือนติดเชื้อ เพราะพาออกนอกบ้าน
ที่มา BuzzFeed
ขอบคุณข้อมูลข่าวและภาพจาก : www.khaosod.co.th
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
การเยี่ยมทารกแรกเกิด เพื่อความปลอดภัยและป้องกันไม่ให้ทารกติดเชื้อ
เพราะทารกแรกเกิดยังมีภูมิคุ้มกันต่ำและผิวหนังที่บอบบาง ซึ่งเชื้อโรคที่อยู่บริเวณมือและส่วนต่างๆ ของร่างกายผู้เข้าเยี่ยม เมื่อมาอยู่บนร่างกายทารกจากการสัมผัสโดยไม่ได้ล้างมือ มันจะก่อตัวเพิ่มจำนวนมากขึ้นและท่าให้เกิดโรคได้ เพื่อการป้องกันทารกติดเชื้อเพิ่ม ดังนั้น จึงขอความร่วมมือจากญาติ ทุกครั้งที่เข้าเยี่ยม ทารก ควรปฏิบัติดังนี้
1. ล้างมือทุกครั้งก่อนเข้าเยี่ยมคุณแม่หลังคลอด และถ้าคุณแม่เลี้ยงทารกอยู่อย่าแตะต้องตัวทารกเด็ดขาด เพราะเสื้อผ้าหรือมือของผู้ไปเยี่ยมอาจไม่สะอาดพอ อาจทำให้เด็กแรกเกิดไม่สบายได้ค่ะ
Must read : ลูกติดเชื้อในกระแสเลือด เพราะแม่ล้างมือไม่สะอาด
2. อย่าสัมผัสใบหน้า แขน ขา หรือลำตัวทารก ถ้าคุณยังไม่ล้างมือให้สะอาด เพราะเด็กทารกภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงมากพอ คุณอาจจะส่งเชื้อร้ายไปสู่ทารกได้โดยไม่ตั้งใจ สิ่งที่คุณควรทำคือ ล้างมือหรือใช้เจลทำความสะอาดมือที่มีในห้องพักผู้ป่วยทันทีที่เข้าไปเยี่ยมทารกแรกเกิดค่ะ
Must read : 7 อาการต้องระวัง พ่อแม่อย่าเผลอ “จูบลูก”
Must read : ลูกติดเชื้อในกระแสเลือด เพราะถูกคนอื่นหอม
Must read : ติดเชื้อเพราะถูกหอม อันตรายใกล้ตัวทารกและเด็กเล็ก
3. ไม่ควรนำเด็กวัยหัดเดินหรือเด็กวัยก่อนอนุบาลเข้าไปเยี่ยมเด็กทารก เพราะเด็กวัยนี้มักจะเป็นไข้หรือหวัด และเป็นพาหะนำโรคต่าง ๆ ง่ายกว่าผู้ใหญ่ เด็กวัยนี้เมื่อเห็นน้องน่ารักอาจจะอยากจูบอยากหอมน้องโดยไม่รู้เดียงสา แต่ก็อาจจะทำให้เด็กทารกป่วยได้เช่นกันค่ะ
4. ไม่นำสิ่งของต่าง ๆ หรือของเล่น สัมผัสที่ปากหรือหยอกล้อกับเด็กทารก เพราะของเล่นบางอย่างยังไม่เหมาะสมกับวัยของทารกและอาจจะไม่สะอาด อาจทำให้ทารกติดเชื้อโรค หรือไม่สบายได้ค่ะ
5. อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่อยากฝากผู้มาเยี่ยมให้รู้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องต้องห้ามเลยค่ะ นั้นคือ การสูบบุหรี่ หากคุณรู้อยู่แล้วว่า คุณกำลังจะไปเยี่ยมเด็กแรกเกิด ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือที่ทำงาน คุณก็ควรที่จะไม่สูบบุหรี่ไปก่อนหน้านั้นนะคะ อดใจรอไว้ก่อนค่ะ เพราะต่อให้คุณล้างมือแล้ว กลิ่นเขม่าควันก็จะติดอยู่ตามมือตามตัว และนั่นก็อาจจะไปส่งผลให้เด็กเล็กมีอาการแพ้และรับสารพิษได้
Must read : ควันบุหรี่มือสาม ทำร้ายลูกได้ 20 เท่า!!
การเป็นแขกที่ทำตัวมีประโยชน์จะสร้างความประทับใจให้กับผู้ถูกเยี่ยม อย่างคุณแม่ลูกอ่อนได้แน่ ๆ และยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ของคุณกับญาติ ๆหรือเพื่อนรัก เชื่อเถอะว่า คุณจะกลายเป็นคนสำคัญในใจที่เพื่อนไม่มีวันลืมเลยทีเดียว
อ่านต่อ >> “มารยาทการไปเยี่ยมคุณแม่หลังคลอด” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
เพื่อไม่เป็นการรบกวนคุณแม่หลังคลอดให้เหนื่อยจนเกินไป หลังจากการคลอดอีกไม่กี่สัปดาห์ คุณแม่ก็จะต้องเลี้ยงลูกเอง และคงรู้สึกเหนื่อยมาก ๆ กับการเลี้ยงเด็กทารก รวมไปถึงการต้องต้อนรับแขกผู้มาเยี่ยม รับขวัญทารกตัวน้อยๆที่เพิ่งเกิด แขกผู้มาเยี่ยมควรต้องรู้ข้อสำคัญที่ควรระวังกันสักนิด เพราะทารกแรกเกิดยังบอบบางอยู่มาก อาจทำให้เด็กทารกติดเชื้อ หรือไม่สบายจากการสัมผัสของคุณได้
มาดูกันค่ะ ว่าการจะไปเยี่ยมคุณแม่หลังคลอด ควรไปเมื่อไหร่ดี และควรปฏิบัติตัวเช่นไร รวมถึงอะไรบ้างที่คนไปเยี่ยมจำเป็นต้องรู้ในการไปเยี่ยมทารกแรกเกิดและคุณแม่หลังคลอด
มารยาทการไป เยี่ยมคุณแม่หลังคลอด
1. ควรไปเยี่ยมคุณแม่หลังคลอดประมาณ 2 วันไปแล้ว นับจากวันคลอด เพราะใน 1-2 วันแรกหลังคลอดนั้นคุณแม่ยังต้องการการพักผ่อนอยู่ค่ะ
2. การเยี่ยมที่โรงพยาบาล ควรเยี่ยมตามเวลาที่ทางโรงพยาบาลกำหนดไว้ และใช้ เวลาเยี่ยมสั้น ๆ นอกจากจะสนิทสนมถูกอกถูกใจกันจริง ๆ และทั้งแม่ทั้งลูกอยู่ในสภาพปกติ มีความสุขดี
3. การซื้อของใช้ของเยี่ยมไม่จำเป็นต้องซื้อเฉพาะของเด็กเท่านั้น คุณแม่หลังคลอดก็อยากได้ของเยี่ยมสำหรับตัวเองเหมือนกัน เช่น ผ้ารัดท้อง โลชั่นลดลายแตกลาย อาหารบำรุงต่าง ๆ เป็นต้น
Must read : 5 เครื่องดื่มบำรุงครรภ์และเครื่องดื่มต้องห้ามสำหรับคนท้อง
Must read : ของใช้ทารกแรกเกิด 11 อย่างที่ไม่จำเป็นต้องซื้อ
4. ถ้าจะไปเยี่ยมที่บ้านและมีโทรศัพท์ติดต่อกันได้ การนัดแนะล่วงหน้าจะทำให้ผู้ถูกเยี่ยมสบายใจขึ้นหรืออาจมีช่องทางปฏิเสธได้ถ้ายังไม่พร้อม เช่นอาจจะออกตัวว่า “ยังไม่แข็งแรง” หรือ “ลูกกวนมาก เกรงว่าผู้เยี่ยมจะรำคาญ” หรือ “ลูกไม่ใคร่สบายหมอให้ระวังการติดเชื้อ ยังไม่อยากให้พบคนมากๆ” เป็นต้น ทั้งนี้แล้วแต่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะกล้าและมีปฏิภาณมากน้อยแค่ไหน
5. ถ้าแม่กำลังให้นมลูก หรือพยาบาลกำลังทำความสะอาด ฉีดยา หรือปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่ คุณผู้เยี่ยมก็ควรจะถอยหลังออกมา หรือรั้งรออยู่แต่ภายนอกก่อน
Must read : ท่าให้นมลูกที่ถูกต้อง ช่วยให้ลูกน้อยได้รับน้ำนมอย่างเต็มที่
6. ถ้าอยากจะแสดงน้ำใจ เพียงแต่ขอดูเด็กก็คงพอ ไม่ต้องจับต้องหรืออุ้มชู (หรือถ้าอยากจะทำจริง ๆ ก็ควรล้างไม้ลางมือเสียก่อน) ถ้าแม้เอาทองหยองติดมือไปสักเส้นสองเส้น และถ้าเด็กหลับจะเอาวางไว้บนเบาะหรือที่นอนก็ได้ไม่ต้องพยายามปลุกปล้ำผูกขอมือข้อเท้าจนเด็กตื่น
7. ไม่ควรไปอยู่นาน และไม่ควรไปพอดีหรืออยู่จนถึงเวลาอาหาร เพราะจะเป็นภาระแก่เจ้าของบ้านตามคำพังเพย “เป็นธรรมเนียมไทยแท้แต่โบราณ ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ” (ยกเว้นในรายที่สนิทสนมกันจริง ๆ)
8. ให้การสนับสนุนในการเลี้ยงลูก แต่ไม่ใช่ให้คำแนะนำ ถ้าคุณอยากแนะนำวิธีการเลี้ยงลูกไม่จำเป็นต้องเป็นผู้บอกกล่าว ควรแนะนำหนังสือ หรือการหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต เรื่องการเลี้ยงลูกให้คุณแม่ได้ศึกษาเองจะดีที่สุดค่ะ
ไม่ควรแนะนำวิธีการเลี้ยงทารกกับคุณแม่มากเกินไป เพราะคุณแม่กำลังอยู่ในช่วงพักฟื้น อาจยังไม่พร้อมจะรับคำแนะนำในการเลี้ยงเด็กทารกในเวลานั้นค่ะ
9. อย่าเพิ่งบอกว่าเด็กหน้าตาเหมือนใคร เพราะเด็กเพิ่งคลอดมาได้แค่ 2 วัน ยิ่งบอกว่าเหมือนคุณพ่อ ยิ่งไม่ต้องบอกนะคะ เพราะตอนท้องคุณแม่บางคนอาจจะแพ้ท้องเกลียดคุณพ่อมาก ๆ เลยก็ได้ใครจะไปรู้
Must read : รวม 10 เรื่องที่คุณอาจไม่รู้ว่า สืบทอดผ่านยีนของพ่อแม่ได้
10. ไม่ควรสอบถามคำถามต่าง ๆ กับคุณหมอหรือพยาบาลเรื่องสุขภาพของทารกหรือคุณแม่ หรือ สอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการคลอด ของคุณแม่ค่ะ
11. อย่าเพิ่งถามถึงเรื่องการเลี้ยงลูกในอนาคต ตอนนี้คุณแม่ยังเหนื่อยๆอยู่ ควรปล่อยให้อนาคต เป็นเรื่องของอนาคตต่อไปค่ะอย่าเพิ่งถามเรื่องการกลับไปทำงาน หรือค่าใช้จ่ายในการคลอดบุตรตอนนี้นะคะ เพราะดูจะเสียมารยาทมากๆเช่นกันค่ะ
Must read : ซึมเศร้าหลังคลอด อาการ ที่แม่หลังคลอดควรรู้ !
12. ไม่ควรไปโดยไม่บอกกล่าว จริงอยู่ที่การเซอร์ไพรส์อาจจะเป็นเรื่องสนุกและน่าตื่นเต้น แต่อาจไม่เสมอไป ยกตัวอย่างกรณีที่เราต้องการไปเยี่ยมทารกแรกเกิด บางทีเพื่อนหรือญาติของเราที่เพิ่งจะคลอดลูก อาจจะกำลังหลับพักฟื้น หรือให้นมอยู่ก็ได้ ดังนั้นการไปไม่บอกกล่าวเลยนั้นถือว่าเป็นเรื่องไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง หากเราต้องการจะไปก็ควรที่จะนัดวันและเวลาให้แน่นอนจะดีกว่า
Must read : 12 ประโยคที่รับรองว่าคุณแม่ลูกอ่อนทุกคนอยากได้ยิน
เทคนิครักษาน้ำใจคนเยี่ยมเบบี๋แรกเกิด
ขณะที่คุณตั้งท้อง เวลาใครต่อใครอยากจับเจ้าตัวเล็ก ทั้งคุณและคนจับต่างสบายใจว่าเจ้าตัวเล็กปลอดภัยเพราะสัมผัสผ่านท้องแม่ พอเขาคลอดแล้วนี่สิ คนมาเยี่ยมก็ยังอยากสัมผัสเจ้าหนูอีก แต่ปัญหาคือคราวนี้เสี่ยงมากขึ้น (และคุณก็อาจห่วงมากขึ้น) เพราะแม้เป็นเพียงเชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นหวัดหรือเชื้อไวรัสอื่นๆ ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสทั่วๆ ไปจากคนที่มาสัมผัสก็ทำให้เกิดอาการรุนแรงในทารกแรกเกิดได้ คุณก็อยากให้ลูกอยู่ห่างจากเชื้อโรค จะบอกแขกเหรื่อที่มาเยี่ยมเยือนด้วยความรักกันตรงๆ ก็กลัวจะเสียน้ำใจกัน เรามีวิธีมาฝากกันค่ะ
1. อุ้มลูกด้วยกระเป๋าจิงโจ้ (เป้อุ้มเด็ก) หรือใส่ไว้ในเปล คนส่วนใหญ่มักไม่กล้ายื่นมือเข้ามาใกล้หน้าอกของคุณเช่นเดียวกับวางลูกน้อยในเปล ถ้าลูกน้อยกำลังหลับ ควรดึงมุ้งลงมาคลุมเปลไว้ ก็ช่วยให้ใครๆ ไม่กล้ายื่นมือเข้าไปจับได้
Must read : ท่าอุ้มทารกที่ถูกต้อง มีกี่ท่า?
2. อ้างหมอ แค่บอกคนที่อยากสัมผัสหรือขออุ้มลูกน้อยว่า “ขอโทษจริงๆ นะ แต่หมอบอกว่าช่วงแรกเกิด อยากให้ระมัดระวังให้มากๆ หน่อย” ก็น่าจะเอาอยู่
3. มอบหมายหน้าที่พิทักษ์น้องให้พี่โต คุณอาจไม่สะดวกใจที่จะบอกให้คนอื่นล้างมือก่อนอุ้มเบบี๋แรกเกิด แต่เด็กสามขวบไม่มีปัญหาที่จะพูดประโยคนี้ ผู้ใหญ่ได้ฟังเด็กๆ พูดแบบนี้มักยินดีทำตาม และยังแถมว่าฟังดูน่ารักด้วยซ้ำไป
Must read : เลี้ยงลูกให้ พี่น้องรักกันคุณเองก็ทำได้!
สุดท้ายขอฝากไว้สำหรับคุณพ่อคุณแม่ ถ้าใครไม่มาเยี่ยมก็จงอย่าไปคิดน้อยอกน้อยใจ เพราะเขาอาจจะหวังดี ไม่อยากรบกวนก็ได้
อย่างไรก็แล้วแต่เรื่องมารยาทการเยี่ยมทารกแรกเกิดและคุณแม่หลังคลอดนั้น ถือเป็นเรื่องต้องใส่ใจอย่างยิ่ง คุณแม่ๆ สามารถแชร์บทความนี้ เพื่อให้ผู้ที่มาเยี่ยมได้อ่านก่อน ก็จะช่วยรักษาน้ำใจผู้เยี่ยมได้อีกทางหนึ่งนะคะ
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!
- 10 เรื่องแรกที่สามีควรทำต่อภรรยา เมื่อกลายเป็น แม่ของลูก
- 12 ประโยคที่รับรองว่าคุณแม่ลูกอ่อนทุกคนอยากได้ยิน
- after birth 8 อาการลูกแรกเกิด แม่ (ไม่ต้อง) กังวล
- การดูแลผิวพรรณหลังคลอด ให้กลับมาสวยมีน้ำมีนวล
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.childanddevelopment.com