ความดันต่ำขณะตั้งครรภ์ เป็นภาวะที่แม่ท้องหลายคนต้องเผชิญ ภาวะนี้หากไม่เฝ้าระวังอาการผิดปกติต่าง ๆ อาจเกิดอันตรายที่รุนแรงต่อแม่ท้องและลูกในท้องได้
ความดันต่ำขณะตั้งครรภ์ ภาวะที่แม่ท้องต้องระวัง
ภาวะความดันโลหิตต่ำคืออะไร?
ในขณะตั้งครรภ์ ร่างกายของแม่ท้องจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก ภาวะความดันโลหิตต่ำ ก็เป็นอีกหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในขณะตั้งครรภ์ โดยทั่วไปแล้วภาวะนี้มักไม่รุนแรง แต่หากไม่มีการรับมือที่ถูกวิธีและการเฝ้าระวัง ก็อาจทำให้เกิดอันตรายได้ นี่จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่แม่ท้องจะต้องตรวจวัดความดันทุกครั้งที่ไปตรวจครรภ์ โดยค่าที่แพทย์จะวินิจฉัยว่ามีภาวะนี้ จะต้องมีความดันโลหิตตัวบนต่ำกว่า 90 มิลลิเมตรปรอท และความดันโลหิตตัวล่างต่ำกว่า 60 มิลลิเมตรปรอท
ความดันต่ำขณะตั้งครรภ์ เกิดขึ้นได้อย่างไร?
ภาวะความดันต่ำโดยทั่วไปแล้ว เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การสูญเสียเลือด ภาวะขาดน้ำ ภาวะโลหิตจาง โรคเกี่ยวกับหัวใจ การติดเชื้อ รวมถึงการตั้งครรภ์ด้วย เพราะการตั้งครรภ์ส่งผลโดยตรงต่อระดับความดันโลหิตของผู้หญิงจากสาเหตุ ต่อไปนี้
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนขณะตั้งครรภ์ ในขณะตั้งครรภ์ ร่างกายจะสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนมากขึ้น ซึ่งฮอร์โมนดังกล่าวจะทำให้ผนังหลอดเลือดคลายตัวลง
- การสูญเสียเลือดจากการตั้งครรภ์นอกมดลูก
- ภาวะขาดน้ำขณะตั้งครรภ์
- ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ มักเกิดกับผู้หญิงที่เป็นเบาหวาน
- การยืนนาน ๆ และลุกจากท่านั่งหรือท่านอนเร็วเกินไป
นอกจากนี้ ระดับความดันโลหิตของคุณแม่ยังบ่งบอกถึงสุขภาพของตัวเองและลูกในท้อง โดยระดับความดันโลหิตที่สูงเกินไปอาจเป็นสัญญาณของภาวะครรภ์เป็นพิษ ส่วนความดันโลหิตที่ต่ำเกินไปก็อาจเป็นสัญญาณของการท้องนอกมดลูก ซึ่งอันตรายต่อทั้งแม่และเด็ก ในรายที่มีความดันโลหิตผิดปกติอย่างรุนแรงอาจทำให้แม่และเด็กเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้
ความดันต่ำขณะตั้งครรภ์ มีอาการอย่างไร?
คุณแม่ที่มีภาวะความดันโลหิตต่ำ มักจะมีอาการต่อไปนี้
- วิงเวียนศีรษะ โดยเฉพาะเวลาลุกหรือนั่ง
- เป็นลมบ่อย
- ไม่มีสมาธิ
- รู้สึกเหนื่อย
- คลื่นไส้
- มองเห็นไม่ชัด
- กระหายน้ำผิดปกติ
- หายใจเร็ว หรือหายใจตื้น
- ผิวหนังซีดเย็น
สำหรับคุณแม่ที่มีภาวะความดันโลหิตต่ำรุนแรง มักจะทำให้วิงเวียนบ่อยและเสี่ยงหกล้ม ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อทารก รวมทั้งอาจส่งผลให้อวัยวะในร่างกายเกิดความเสียหาย มีอาการช็อก และเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ ความดันต่ำขณะตั้งครรภ์อันตรายแค่ไหน?
ความดันต่ำขณะตั้งครรภ์ อันตรายแค่ไหน?
นอกจากความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในการหกล้มเนื่องจากการวิงเวียนและเป็นลมบ่อย ๆ แล้ว ภาวะความดันโลหิตต่ำขณะตั้งครรภ์ก็ยังก่อให้เกิดภาวะเสี่ยงอื่น ๆ ที่อันตรายต่อชีวิตของแม่ท้องและลูกในท้องได้ โดยแม่ท้องอาจเสี่ยงให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด ทารกอยู่ในภาวะคับขันที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตในท้องแม่
นอกจากความเสี่ยงที่อาจจะเกิดกับแม่ท้องแล้ว มีงานวิจัยระบุว่าแม่ท้องที่มีภาวะความดันต่ำขณะตั้งครรภ์ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของลูกในท้องได้ เช่น น้ำหนักตัวแรกเกิดต่ำกว่าเกณฑ์ เป็นต้น
เมื่อไรควรไปพบแพทย์ ?
ภาวะความดันโลหิตต่ำเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย คุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการของตนเองอยู่เสมอ หากเกิดอาการวิงเวียนศีรษะหรือเป็นลม ร่วมกับมีอาการอื่น ๆ ที่รุนแรงดัง ต่อไปนี้
- ปวดศีรษะอย่างรุนแรง
- การมองเห็นผิดปกติ
- แน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม
- มีเลือดออกทางช่องคลอด
- ร่างกายซีกใดซีกหนึ่งอ่อนแรงหรือชา
ควรรีบไปพบแพทย์หรือขอความช่วยเหลือจากหน่วยแพทย์ฉุกเฉินทันที เพราะหากปล่อยไว้อาจเป็นอันตรายต่อทั้งตัวเองและทารกในครรภ์จนถึงขั้นเสียชีวิตได้
วิธีการดูแลตนเองเมื่อมีภาวะความดันโลหิตต่ำ
ส่วนใหญ่แล้ว แม่ท้องที่มีภาวะนี้ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษา เนื่องจากความดันโลหิตจะค่อย ๆ เพิ่มสูงขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ และกลับเข้าสู่ระดับปกติหลังจากการคลอดบุตร อีกทั้งแพทย์ไม่แนะนำให้ใช้ยาในการรักษาภาวะใด ๆ ก็ตามในระหว่างตั้งครรภ์โดยไม่จำเป็น เพราะตัวยาอาจส่งผลกับทารกได้ ดังนั้น เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากภาวะความดันต่ำขณะตั้งครรภ์ จึงมีวิธีดูแลตนเองและบรรเทาอาการของภาวะนี้ ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการลุกขึ้นยืนหรือการเปลี่ยนท่าอย่างกระทันหัน
- ไม่ควรยืนนาน ๆ
- ดื่มน้ำให้มาก ๆ
- สวมเสื้อผ้าที่ใส่แล้วรู้สึกสบาย ไม่รัดแน่นจนเกินไป และไม่ควรใส่ผ้าที่หนาจนรู้สึกร้อน
- ทานอาหารในปริมาณน้อย ๆ แต่บ่อย ๆ เพื่อคงปริมาณน้ำตาลในเลือดให้คงที่
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะ บีทรูท ถั่วเปลือกแข็ง และ ธัญพืช แม้ว่าอาหารประเภทนี้เป็นอาหารที่แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการลดความดันในเลือด แต่อาหารเหล่านี้มีสารอาหารที่จำเป็นต่อหญิงตั้งครรภ์
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
วิธีการป้องกันและดูแลตัวเองที่ดีที่สุดหากแม่ท้องเกิดภาวะนี้ คือ การระมัดระวังตนเอง ไม่ให้เหนื่อยหรือร้อนจนเกินไป พยายามอย่าหักโหมทำงานหนักจนเกินไป และควรระมัดระวังการหกล้ม หากรู้สึกคล้ายจะเป็นลมควรนั่งหรือนอนลงจนกว่าอาการจะดีขึ้น แต่หากภาวะนี้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันมากจนเกินไป ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์ประเมินอาการต่อไป
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
โรคความดันโลหิตสูงกับการตั้งครรภ์ ภัยเงียบของแม่ท้อง
แม่แชร์ ! เป็นเบาหวานตอนท้อง และวิธีคุมน้ำตาลแบบง่ายและได้ผลดี
คนท้องต้องรู้! กินน้ำตาล ตรวจเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ทำอย่างไร?
แม่ท้องนอนไม่พอ กระทบลูกในท้องอย่างไร?
ขอบคุณข้อมูลจาก : Mom Junction, Pobpad
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่