AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

จุฬาทำคลอดทายาท เด็กในหลอดแก้ว ชี้คนหลอดแก้วมีลูกได้!

เด็กในหลอดแก้ว

จากทฤษฎีที่ว่า เด็กในหลอดแก้ว เป็นมนุษย์พันธุ์ใหม่ จะมีความผิดปกติทางด้านร่างกาย สุขภาพ ความรู้สึก และ ความคิด จนอาจทำให้ไม่สามารถมีทายาทสืบสกุลได้นั้น หมอจุฬาได้ล้มทฤษฎีนี้ไปจนหมด โดยการทำคลอดทายาทจากเด็กในหลอดแก้วคนแรกของไทยได้สำเร็จ

จุฬาทำคลอดทายาท เด็กในหลอดแก้ว ชี้คนหลอดแก้วมีลูกได้!

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กังวลว่าการทำเด็กหลอดแก้ว จะมีข้อเสียว่าลูกที่คลอดออกมาแล้วจะผิดปกติ ไม่เหมือนเด็กอื่น ๆ ที่คลอดออกมาด้วยวิธีปกติ ทั้งในด้านสุขภาพร่างกาย อารมณ์ ความรู้สึก และความคิด หรือกลัวว่าลูกจะไม่สามารถมีทายาทตามธรรมชาติได้เหมือนคนอื่น ๆ นั้น ขอให้คลายกังวลได้เลยค่ะ เพราะได้มีข่าวดีแถลงจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ว่าได้มีการทำคลอดทายาทจากเด็กหลอดแก้วคนแรกของไทยแล้ว โดยลูกชายจากเด็กหลอดแก้วนั้น มีสุขภาพแข็งแรงตามปกติ ซึ่งหมายถึง ทฤษฎีที่ว่าเด็กหลอดแก้วจะมีทายาทไม่ได้นั้น ไม่เป็นความจริง เนื้อหาข่าวโดยละเอียด มีดังนี้

คณะแพทย์ จุฬาฯ แถลงข่าวดีเด็กหลอดแก้วคนแรกของไทย มีทายาทสืบสกุลแล้วหลังภรรยาคลอดลูกชายสุขภาพแข็งแรง ชี้เด็กหลอดแก้วมีทายาทได้ตามปกติ ล้มข้อความกังวลเป็นมนุษย์พันธุ์ใหม่

วันนี้ (18 ธ.ค.2561) ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ์ ผอ.รพ.จุฬาฯ พร้อมด้วย ศ.กิตติคุณ นพ.ประมวล วีรุตมเสน ที่ปรึกษาหน่วยชีววิทยาการเจริญพันธุ์ ฝ่ายสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา รพ.จุฬา และทีมแพทย์ แถลงข่าว “ทายาทเด็กหลอดแก้วคนแรกของไทย”

รศ.นพ.กำธร พฤกษานานนท์ อาจารย์ฝ่ายสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา รพ.จุฬาฯ กล่าวว่า ในอดีตคนจำนวนมากกังวลว่า เด็กที่เกิดจากหลอดแก้วอาจมีความผิดปกติ ทั้งร่างกาย สุขภาพ ความรู้สึก และความคิด จนกลายเป็นมนุษย์พันธุ์ใหม่ อย่างเด็กหลอดแก้วคนแรกของอังกฤษก็มีคนกังวลจนออกมาประท้วงต่อต้าน แต่ภายหลังพิสูจน์แล้วว่าเด็กหลอดแก้วก็มีความปกติดี

ทีมแพทย์จากจุฬาฯ ได้ทำคลอดทายาทของเด็กหลอดแก้วคนแรกของไทยได้สำเร็จ

เช่นเดียวกับกรณีนายปวรวิชญ์ ศรีสหบุรี เด็กในหลอดแก้ว รายแรกของประเทศไทยที่มีการติดตามอย่างต่อเนื่อง พบว่ามีสุขภาพแข็งแรงดี และปัจจุบันสามารถมีทายาทสืบพันธุ์ได้ และจากการตรวจติดตามลูกของนายปวรวิชญ์ก็พบว่าปกติดีทุกอย่าง

รศ.นพ.กำธร กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วโลกมีเด็กที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ 7 ล้านคน ส่วนประเทศไทยมีประมาณ 20,000 คน แต่ไม่ทราบว่ามีทายาทกันแล้วหรือไม่ เพราะไม่ได้ติดตามเหมือนของนายปวรวิชญ์ แต่ก็เป็นการพิสูจน์แล้วว่า เด็กหลอดแก้วหรือคนที่จะเกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ก็สามารถเติบโตและมีทายาทสืบสกุลได้

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ควรนำมาใช้อย่างเหมาะสมและจำเป็น ซึ่งมองว่าควรนำมาใช้ในเรื่องของการวางแผนครอบครัวและช่วยให้ผู้ที่ยังไม่พร้อมมีบุตรให้สามารถมีบุตรอย่างมีคุณภาพได้ เช่น การรับฝากไข่ และเนื้อเยื่อรังไข่ เป็นต้น

นายปวรวิชญ์ เด็กหลอดแก้วคนแรกของไทย กล่าวว่า สุขภาพร่างกายของตนแข็งแรงเป็นปกติ ส่วนตัวชอบออกกำลัง เมื่อมีครอบครัว ก็มีความห่วงกังวลเล็กน้อย ว่า จะสามารถมีบุตรตามธรรมชาติได้ตามปกติหรือไม่ แต่เมื่อภรรยาท้องก็มาตรวจครรภ์ ตามปกติ และก็คลอดโดยวิธีธรรมชาติ โดยคลอดเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นเพศชาย น้ำหนัก 3,223 กรัม ปลอดภัยแข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูก ขณะที่ในอนาคตวางแผนจะมีลูกเพิ่มอีก 1 คน

ขอบคุณข่าวจาก : news.thaipbs.or.th

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

อ่านต่อ เด็กในหลอดแก้ว คืออะไร? ใครควรทำเด็กหลอดแก้ว?

เด็กในหลอดแก้ว คืออะไร?

คนทั่วไปมักเข้าใจผิดว่าการทำ “เด็กหลอดแก้ว” หมายถึงการการก่อให้เกิดตัวอ่อนมนุษย์และเลี้ยงอยู่ภายในหลอดแก้วจนโตเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ จากนั้นจึงนำมาเลี้ยงต่อในตู้อบ จนกลายเป็นทารกที่น่ารักเหมือนกับที่คลอดออกมาตามธรรมชาติ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เด็กหลอดแก้ว หรือ IVF (In Vitro Fertilization) คือ เด็กที่เกิดจากการปฏิสนธิระหว่างสเปิร์มและเซลล์ไข่ภายนอกร่างกาย โดยทำในหลอดแก้วทดลองภายใต้สิ่งแวดล้อมอุณหภูมิคล้ายกับภายในร่างกาย เมื่อได้ “ตัวอ่อน” ที่สมบูรณ ์ในขนาดที่เหมาะสม ก็นำกลับเข้าสู่ภายในร่างกายของสตรีผู้นั้น เพื่อให้ฝังตัวและเจริญเติบโตเป็นทารกภายในโพรงมดลูกต่อไป เนื่องจากเป็นวิธีที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก จึงทำให้ผู้คนที่มีบุตรยาก นิยมหันมาพึ่งพาเทคโนโลยีด้วยการทำเด็กหลอดแก้วมากขึ้น

เด็กหลอดแก้ว คือการปฏิสนธิสเปิร์มและไข่ในหลอดแก้วทดลอง จนเจริญเติบโตเป็นตัวอ่อน จึงนำกลับเข้าไปในครรภ์

ใครควรทำเด็กหลอดแก้ว?

การทำเด็กหลอดแก้ว จะต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ด้วย ซึ่งผู้ที่จะทำเด็กหลอดแก้วจะต้องเป็นผู้ที่อยู่ในภาวะมีบุตรยากจริง ๆ และมีสุขภาพที่แข็งแรงมากพอที่จะตั้งครรภ์ได้ โดยมีปัจจัยที่ทางแพทย์จะทำการพิจารณา ดังนี้

ฝ่ายชาย

  1. ฝ่ายชายมีความผิดปกติของเชื้ออสุจิหรือคุณภาพของตัวอสุจิต่ำมาก จึงไม่สามารถมีบุตรด้วยวิธีธรรมชาติได้
  2. มีปัญหาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ จึงไม่สามารถมีบุตรได้หรือมีโอกาสที่จะมีบุตรน้อยมาก

ฝ่ายหญิง

  1. ระบบท่อนำไข่มีความผิดปกติ เช่น ท่อนำไข่อุดตัน เคยผ่าตัดมาก่อนและเคยเกิดการกระทบกระเทือนที่ทำให้ท่อนำไข่เกิดความเสียหาย เป็นต้น
  2. ฮอร์โมนเพศผิดปกติ ทำให้เกิดภาวะไม่ตกไข่เรื้อรัง
  3. พยายามจะมีบุตรมาแล้วมากกว่า 3 ปี โดยไม่ได้ป้องกันด้วยวิธีใดเลย แต่ก็ไม่ตั้งครรภ์
  4. มีความผิดปกติทางพันธุกรรม
  5. ช่วงอายุของผู้ทำเด็กหลอดแก้ว โดยช่วงอายุที่แพทย์จะแนะนำให้ทำเด็กหลอดแก้วควรมีอายุ 40 ปีขึ้นไป นอกจากว่ามีปัจจัยร้ายแรงที่ทำให้ไม่สามารถมีบุตรได้จริง ๆ เช่น รังไข่เสื่อมก่อนวัย เคยทำหมันด้วยการผูกท่อนำไข่หรือกำลังอยู่ในระหว่างเจ็บป่วยที่ส่งผลให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ เป็นต้น

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

อ่านต่อ ขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว และ ความเสี่ยงในการทำ เด็กในหลอดแก้ว

ขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว

ขั้นตอนในการทำเด็กหลอดแก้วของแต่ละโรงพยาบาลจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย คุณพ่อคุณแม่ควรสอบถามถึงขั้นตอน การเตรียมตัว และค่าใช้จ่าย กับโรงพยาบาลนั้น ๆ ก่อนเสมอ โดยแต่ละโรงพยาบาล จะมีขั้นตอนคร่าว ๆ ดังนี้

ขั้นตอนการทำ ivf และความเสี่ยงในการทำ เด็กในหลอดแก้ว

ความเสี่ยงในการทำ เด็กในหลอดแก้ว

การทำเด็กหลอดแก้วอาจมีความเสี่ยงและผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ โดยแพทย์จะคอยดูแลและติดตามผลให้เกิดความเสี่ยงและผลข้างเคียงให้น้อยที่สุด โดยความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่มักเกิดขึ้น มีดังนี้

  1. รังไข่บวม เนื่องจากได้รับฮอร์โมนกระตุ้นมากเกินไป ส่งผลให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องอืด หายใจลำบากและอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องร่วงได้
  2. ตั้งครรภ์นอกมดลูก
  3. เกิดความเครียด เนื่องจากการทำเด็กหลอดแก้วส่งผลกระทบทั้งต่อร่างกายและจิตใจหลายอย่าง ต้องอาศัยกำลังใจจากคนรอบข้างและการบำบัดเป็นหลัก
  4. ได้รับผลข้างเคียงจากยา อาจทำให้เกิดอาการปวดหัว กระสับกระส่าย ร้อนวูบวาบและอารมณ์แปรปรวนหงุดหงิดง่าย
  5. เสี่ยงต่อภาวะคลอดก่อนกำหนด ซึ่งจะทำให้ทารกมีน้ำหนักแรกเกิดน้อยมาก และอาจมีปัญหาเรื่องการหายใจ เพราะปอดยังพัฒนาไม่เต็มที่
  6. เสี่ยงภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ เกิดแผลในมดลูกและอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อกระเพาะปัสสาวะและลำไส้ได้
  7. มีโอกาสตั้งครรภ์แฝด ซึ่งหากสุขภาพของคุณแม่ไม่แข็งแรง ก็อาจทำให้คลอดก่อนกำหนดหรือทารกมีน้ำหนักตัวน้อยได้ ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับผู้ที่มีการถ่ายฝากตัวอ่อนมากกว่า 1 ตัว

ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ที่อ่านมาถึงตรงนี้ ก็คงจะคลายความกังวลใจไปได้ไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะคะ ว่าการทำเด็กหลอดแก้วนั้นไม่ได้อันตราย หรือทำให้ลูกผิดปกติอย่างที่คิด ทั้งนี้ การทำเด็กหลอดแก้วก็อาจเกิดความผิดพลาดและมีความเสี่ยงเช่นกัน ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ให้ดีก่อนทำ และทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเสมอ

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

ทำไงให้ท้อง? 12 ทางลัด ที่คนอยากมีลูกไม่ควรพลาด

อันตรายจากน้ำอัดลม เพียงวันละแก้ว ก็ลดโอกาสติดลูกถึง 33%

อยากมีลูกแต่ไม่มีสามี! วิจัยเผย อนาคตหญิงท้องได้ ไม่ง้อผู้ชาย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.honestdocs.co

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids