คุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคนมีความกังวลว่าลูกจะไม่แข็งแรงสมบูรณ์ หากวางแผนที่จะมีลูกแล้วต้องเตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และการดูแลตัวเองตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ อยากให้ลูกแข็งแรง ต้องไม่ดื่มสุราและสูบบุหรี่ เพราะมีผลอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโต และสุขภาพของลูกน้อยในครรภ์
อยากให้ลูกแข็งแรง พ่อแม่ต้องดูแลตัวเองก่อนตั้งครรภ์!
เมื่อไม่นานมานี้ มีบทความหนึ่งในวารสารเดอะแลนเซ็ต ซึ่งเป็นวารสารทางการแพทย์ชื่อดัง กล่าวว่า การดำรงชีวิตของพ่อแม่ สามารถส่งผลต่อสุขภาพของลูกได้ตั้งแต่ก่อนที่จะปฏิสนธิหรือตั้งครรภ์ การดื่มสุรา การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ รวมถึงความอ้วนของพ่อแม่ อาจจะส่งผลต่อการเจริญเติบโต และพัฒนาการของลูกในระยะยาวได้
ซึ่งงานวิจัยดังกล่าว เป็นการศึกษาที่รวบรวมงานวิจัยวรรณกรรมทั้งเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน พบว่า พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของพ่อส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตที่ดีของลูก ไม่ใช่เฉพาะจากแม่เท่านั้น โดย จูดิธ สตีเฟนสัน อาจารย์จากมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน และผู้นำการวิจัยกล่าวว่า
“ช่วงการตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ สุขภาพของพ่อแม่ทั้งเรื่องน้ำหนัก อัตราการเผาผลาญ และอาหารที่บริโภค สามารถสร้างความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังในเด็กได้ในอนาคต”
ตัวอย่างเช่น
- ในคุณแม่ตั้งครรภ์ ความอ้วนระหว่างตั้งครรภ์อาจเพิ่มระดับฮอร์โมนและอาการบวม ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงพัฒนาการของไข่และตัวอ่อนโดยตรง ส่งผลกระตุ้นให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่างๆ
- ในคุณพ่อ ความอ้วนก็นำไปสู่สเปิร์มที่ไร้ประสิทธิภาพ รวมถึงปัจจัยในด้านอื่นๆ ประกอบกัน
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก รศ.พญ.ชุติมา ศิริกุลชยานนท์ ภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เขียนไว้ใน กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ กล่าวไว้ว่า
“การเตรียมร่างกายช่วงก่อนตั้งครรภ์ประมาณ 3 เดือน ด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมถึงตรวจสุขภาพและโรคประจำตัวจะช่วยให้ลูกน้อยที่กำลังจะเกิดมีโอกาสเกิดมาสมบูรณ์ครบ 32 ส่วนและสมองดีได้เต็มร้อยยิ่งขึ้น”
อ่านต่อ “อยากให้ลูกแข็งแรง กินอะไรดีก่อนตั้งครรภ์” คลิกหน้า 2
อยากให้ลูกแข็งแรง กินอะไรดีก่อนตั้งครรภ์
โภชนาการเพื่อเตรียมตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณแม่ที่กำลังวางแผนมีลูก โดยเฉพาะโฟเลท หรือวิตามินบีชนิดหนึ่งที่ละลายในน้ำ ซึ่งพบได้มากในผักสดที่มีใบสีเขียวเข้ม ไข่แดง ตับ ดอกและใบกุยช่าย ส้ม ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์ เพียงคุณแม่รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในแต่ละมื้อ เน้นผักใบเขียวที่แปรรูปน้อยที่สุด เพื่อให้ได้ระดับโฟเลทที่ต้องการ คือ 400 ไมโครกรัมก่อนตั้งครรภ์ และเพิ่มขึ้นอีก 200 ไมโครกรัมขณะตั้งครรภ์
อาหารปรุงสุกที่นำกลับมาอุ่นทานที่บ้าน เป็นสิ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยง เพราะมีโฟเลทน้อยมาก โดยในแต่ละวันควรแบ่งอัตราส่วนการรับประทานเนื้อสัตว์ 15-20% ไขมันไม่เกิน 30% และคาร์โบไฮเดรต 55-60%
กินไม่ดีส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์
1.การรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา ส่งผลเสียต่อคุณแม่ก่อนตั้งครรภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมื้อเช้า ซึ่งเป็นมื้อสำคัญที่จะทำให้ร่างกายสามารถทำงานไปได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งวัน
2.การขาดไอโอดีน คุณแม่ที่ขาดไอโอดีน จะทำให้ร่างกายของลูกน้อยไม่สามารถสร้างไทรอยด์ฮอร์โมน และเกิดมาเป็นโรคเอ๋อ พูดไม่ได้ หูไม่ได้ยิน
3.การขาดโฟเลท คุณแม่ที่ขาดโฟเลท ส่งผลให้ลูกน้อยมีอวัยวะที่ไม่สมบูรณ์ มีโอกาสพิการ และเสียชีวิตได้
อ่านต่อ “อยากให้ลูกแข็งแรง ต้องดูแลตัวเองอย่างไร?” คลิกหน้า 3
อยากให้ลูกแข็งแรง ต้องดูแลตัวเองอย่างไร?
1. รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่
การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ จะช่วยซ่อมแซม บำรุง และรักษาส่วนที่สึกหรอในร่างกายให้สมบูรณ์ คุณแม่จึงควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และเลือกอาหารที่ให้พลังงาน บำรุงเลือด เสริมแคลเซียมรวมถึงแร่ธาตุต่างๆ ให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของลูก
2. ฟังเพลง
การฟังเพลงเป็นวิธีที่ง่าย และช่วยให้คุณแม่ผ่อนคลายจากความเครียด หรือเมื่อมีอารมณ์แปรปรวนจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงระหว่างตั้งครรภ์ หากได้ฟังเพลงสบายๆ ก็จะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นได้
บทความแนะนำ รวม 12 เพลงสําหรับคนท้อง ช่วยพัฒนาสมองของทารกในครรภ์ได้
3. กระตุ้นพัฒนาการลูกในท้อง
ด้วยการพูดคุยกับลูกในท้อง ลูบท้อง ร้องเพลง และเล่านิทานให้ลูกในท้องฟังทุกๆ วัน จะช่วยให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีขึ้นได้เป็นอย่างดี
4. พักผ่อนให้เพียงพอ
คุณแม่ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8-9 ชั่วโมง จะช่วยให้ร่างกายสดชื่น ระบบย่อยอาหาร ระบบหัวใจ และการไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดี ส่งผลดีต่อพัฒนาการของลูกในครรภ์ด้วย
5. งดดื่มชา กาแฟ
นอกจากสารคาเฟอีนในชา และกาแฟจะทำให้คุณแม่นอนไม่หลับแล้ว หากได้รับในปริมาณมากอาจทำให้หัวใจของลูกน้อยเต้นเร็วผิดปกติ และยังขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กที่ใช้สำหรับการเจริญเติบโตของลูกได้
6. ดื่มน้ำเยอะๆ
การดื่มน้ำจะทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี ส่งผ่านสารอาหารจากร่างกายคุณแม่ไปสู่ลูกได้อย่างมีคุณภาพ หากคุณแม่ดื่มน้ำน้อย อาจทำให้เกิดอาการท้องผูก ปากแห้ง และผิวพรรณไม่สดใสได้
7. ดูแลสุขภาพช่องปาก
ช่วงตั้งครรภ์มักเกิดปัญหาฟันผุ และเหงือกอักเสบได้จากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ควรหมั่นดูแลสุขภาพปากและฟันให้สะอาด เพราะหากมีการติดเชื้อในช่องปาก อาจส่งไปถึงลูกในท้องได้นั่นเอง
8. เดินช้าๆ เพื่อออกกำลังกาย
การเดินช้าๆ อย่างน้อยวันละ 30 นาที จะช่วยให้ปอดและหัวใจแข็งแรงมากขึ้น กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่น เลือดไหลเวียนดี และเหมาะกับคุณแม่ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายมาก่อนการตั้งครรภ์
9. คุมน้ำหนักให้พอดี
ตลอดอายุการตั้งครรภ์ คุณแม่ตั้งครรภ์ควรมีน้ำหนักขึ้นประมาณ 12-15 กิโลกรัม ไม่ควรรับประทานตามใจปาก หรือรับประทานเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าเผื่อลูกในท้อง การเลือกอาหารนั้นควรเลือกอาหารจำพวก โปรตีน หลีกเลี่ยงแป้งและไขมัน เพราะหากคุณแม่มีน้ำหนักมากเกินไป อาจเสี่ยงเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น น้ำตาลในเลือดสูง หรือความดันโลหิตสูงได้
10. เลี่ยงของหมัก ของดอง
การรับประทานของหมักดองจะทำให้คุณแม่ได้รับโซเดียมสูง มีอาการท้องอืด และอาหารไม่ย่อย จนทำให้รู้สึกอึดอัดได้
ขอบคุณที่มา: NEW18, กินเปลี่ยนโลก
อ่านเรื่องที่น่าสนใจเพิ่มเติม คลิก!!
แม่ท้องมือใหม่ ดูแลตัวเองได้เหมือนมืออาชีพ
แม่ท้องดูแลตัวเองง่ายๆ ยามเจ็บป่วย
รวมวิธีดูแลตัวเองง่ายๆ เมื่อ แม่ท้อง ไม่สบาย
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่