AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ความรู้เกี่ยวกับสเปิร์ม ที่พ่อแม่ควรรู้ 10 เรื่อง

มีเกร็ด ความรู้เกี่ยวกับสเปิร์ม มากมายที่คุณพ่อ คุณแม่ยังไม่รู้ สำหรับบทความนี้ Amarin Baby & Kids ขอยกตัวอย่างเรื่องน่ารู้มาให้คุณพ่อ คุณแม่ได้ทราบกัน 10 ข้อ เพื่อให้เข้าใจสเปิร์ม หรืออสุจิมากขึ้นด้วย

1.รสชาติของสเปิร์มเป็นอย่างไร?

หลายคนอาจจะบอกว่ามีรสชาติหวานบ้าง คาวบ้าง ความจริงแล้วนักวิทยาศาสตร์หลายๆ คน วิเคราะห์กันออกมาว่าสเปิร์มนั้นมีรสชาติหวาน มีกลูโคสซึ่งเป็นอาหารของอสุจิ แต่ก็มีรสชาติที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับอาหารและเครื่องดื่มที่รับประทานเข้าไป

2.สเปิร์มไม่ได้หลั่งออกมาทั้งหมด

คนส่วนใหญ่คิดว่าผู้ชายจะหลั่งสเปิร์มออกมาทั้งหมด แต่ความจริงแล้วเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น เพราะยังมีสเปิร์มนับไม่ถ้วนในถุง และท่ออัณฑะ ฉะนั้นถ้าจะมีเพศสัมพันธ์หลังจากหลั่งสเปิร์มออกมาแล้วรอบหนึ่ง อาจจะทำให้มีโอกาสท้องสูงกว่าการมีเพศสัมพันธ์ในครั้งแรก

3.สเปิร์มชอบอากาศเย็น

สาเหตุที่ผู้ชายมีถุงอัณฑะอยู่ภายนอกร่างกาย เพราะสเปิร์มสามารถมีชีวิตอยู่ได้ในอุณหภูมิต่ำกว่าอุณหภูมิร่างกาย ประมาณ 34 องศา ถ้าอากาศเย็นเกินไป ถุงอัณฑะจะหดไปอยู่ในร่างกายแทน เพื่อปรับให้มีอุณหภูมิที่เหมาะสมในการมีชีวิตอยู่ และทำงานได้เต็มที่

4.สเปิร์มอาจทำให้แพ้ได้

ส่วนใหญ่มักพบในผู้หญิง ซึ่งสามารถมีอาการแพ้สเปิร์มได้ เพราะโปรตีนในน้ำอสุจิทำให้ผิวหนังของผู้หญิง เกิดอาการแพ้ เป็นผื่นคัน

5.สเปิร์มบังคับทิศทางไม่ได้

จากการศึกษาของมหาวิทยาลัย Warwick และมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม พบว่า การเดินทางของอสุจิไม่ง่าย เพราะเชื้ออสุจิส่วนใหญ่จะว่ายหลงทาง วิ่งชนกันเอง วิ่งชนผนังช่องคลอด มดลูก และท่อนำไข่ จนต้องคลานไปตามผนังแทน

อ่านต่อ “ความรู้เกี่ยวกับสเปิร์ม ที่พ่อแม่ควรรู้ 10 เรื่อง” คลิกหน้า 2

6.สเปิร์มอยู่ได้นานกว่าที่คิด

สเปิร์มสามารถอยู่ในร่างกายได้เพียง 48 ชั่วโมง แต่ถ้าอยู่ในสภาวะที่เหมาะสมภายในมดลูก หรือท่อนำไข่ สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานกว่าปกติ ซึ่งเสเปิร์มที่มีความแข็งแรงสมบูรณ์ จะอยู่ได้นานถึง 5-6 วัน

7.แข็งแรงมาก ไม่ได้หมายความว่าสเปิร์มก็แข็งแรง

ถึงแม้ว่าผู้ชายจะมีกล้ามโต มีอารมร์ทางเพศมากแค่ไหน ก็ไม่ได้แปลว่าสามารถผลิตสเปิร์มที่แข็งแรงกว่าคนทั่วไป เพราะยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่าสเปิร์มที่แข็งแรงนั้น จริงๆ แล้วเกิดจากอะไร อาจจะเป็นเพราะการรับประทานอาหารที่ดี มีสุขภาพที่ดี ได้รับการออกกำลังกาย แต่ผู้ชายทุกคนมีโอกาสผลิตสเปิร์มออกมาได้เหมือนๆ กัน

8.ร่างกายคิดว่าสเปิร์มคือเชื้อโรค

ในผู้ชายร่างกายจะเริ่มผลิตสเปิร์มเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ทำให้ร่างกายไม่รู้จักสิ่งนี้มาก่อน ถ้าหลุดเข้าไปในระบบอื่นของร่างกาย เม็ดเลือดจะทำการกำจัดทันที จึงสามารถอยู่ได้แค่ในถุงอัณฑะเท่านั้น

9.มนุษย์เพิ่งรู้จักสเปิร์มเมื่อปี 1677

ถึงแม้สเปิร์มจะอยู่มาตั้งแต่สิ่งมีชีวิตถือกำเนิด แต่มนุษย์เพิ่งจะทำความรู้จักกับสเปิร์มเมื่อปี 1677 โดยมีการใช้กล้องจุลทรรศน์ พบว่ามีอะไรบางอย่างว่ายอยู่ในน้ำอสุจิ

10.สเปิร์มที่ไม่ได้ใช้ หายไปไหน?

ผู้ชายไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ หรือช่วยตัวเองทุกวัน ขณะที่ร่างกายผลิตอสุจิเป็นกิจวัตร ถ้าไม่ได้ใช้ ส่วนใหญ่ร่างกายจะดึงกลับไปเป็นสารอาหารให้ร่างกาย

เครดิต: https://www.yaklai.com/lifestyle/special-article/10-facts-about-sperms/

Save

Save

Save

Save