มีลูกตอนแก่ แม่อายุมากกว่า 35 ปีเสี่ยงทารกในครรภ์พิการ และมีโอกาสแท้งหรือไม่ มาดูกัน
คุณผู้หญิงหรือคุณแม่หลาย ๆ ท่านคงจะสงสัยและอยากรู้ว่า ถ้าหากอยากมีลูกตอนแรก หรือบังเอิ๊ญบังเอิญมาท้องตอนมีอายุเข้า ทารกในครรภ์จะเสี่ยงเป็นพิการ หรือเป็นอันตรายหรือไม่ ที่สำคัญจะเสี่ยงแท้งหรือเปล่า วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจนั้นไปพร้อม ๆ กันค่ะ
ริชาร์ด พอลสัน นายแพทย์จากแผนกสูตินรีเวชประจำประเทศสหรัฐอเมริกาได้กล่าวว่า จริง ๆ แล้วการท้องตอนที่คุณแม่มีอายุเกินกว่า 35 ปีนั้น ถือว่าเสี่ยงในระดับหนึ่ง แต่สมัยนี้ผู้หญิงเริ่มท้องกันตอนมีอายุมากโดยเฉลี่ยแล้วอายุที่ยังพบได้อยู่คือ 40 ปีก็มี เรียกได้ว่าผู้หญิงสมัยใหม่เริ่มมีความสามารถที่มากขึ้น เวลาที่มีก็เริ่มที่จะลดน้อยลง เพราะสนใจแต่งานมากกว่านั่นเอง ถามว่าโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นนั้นมีตามมาแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น ทารกในครรภ์เสี่ยงต่อการเป็นดาวน์ซินโดรม และอาจจะต้องดูแลตัวเองให้ดีมากกว่าผู้หญิงที่มีอายุน้อยกว่า
การมีลูกเมื่ออายุมากขึ้น อาจส่งผลต่อความแข็งแรงของทารกในครรภ์ได้ เนื่องจากการทำงานของรังไข่จะลดลงเมื่อผู้หญิงมีอายุเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วง 35 ปีขึ้นไป มีความเสี่ยงสูงกว่าปกติที่ลูกจะเกิดความผิดปกติของจำนวนโครโมโซมจนนำไปสู่กลุ่มอาการดาวน์ได้ ซึ่งเวลาที่ต้องการจะตรวจ หรือถึงเวลาที่คุณแม่จะต้องตรวจนั้น จำเป็นจะต้องปรึกษาคุณหมอก่อนว่า ควรจะเจาะน้ำคร่ำหรือไม่ ถ้าจำเป็นต้องเจาะควรขอคำแนะนำ และข้อมูลใ รวมถึงหารือร่วมกันถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นต่อทารกให้มากที่สุด
นอกจากนี้ การตั้งครรภ์ตอนอายุมาก ยังทำให้เกิดปัญหารกเกาะต่ำ รกลอกก่อนกำหนด หรือบางคนอาจมีโรคที่เกิดขึ้นตามมากับอายุ ซึ่งอาจเกิดความผิดปกติของหลอดเลือดไปเลี้ยงที่รก และตัวเด็กได้ โอกาสที่เด็กจะตัวเล็ก และมีภาวะโตช้าในครรภ์ย่อมเกิดขึ้นสูง หรือบางท่านเป็นเบาหวาน เด็กจะตัวโตมากกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดปัญหาในการคลอดยากตามมา
“หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ มีลูกตอนแก่ หรือตั้งครรภ์ตอนอายุมาก หรือมีอายุเกิน 35 ปีขึ้นไป ควรดูแลตัวเองเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณแม่ที่เป็นโรคเบาหวานต้องควบคุมน้ำตาล และตรวจระดับน้ำตาลกับคุณหมอเป็นระยะ ๆ เพราะไม่เช่นนั้นเด็กอาจมีความผิดปกติตั้งแต่กำเนิดได้ เช่น โรคหัวใจ เป็นต้น” สูติ-นรีแพทย์ให้คำแนะนำ
ดังนั้น คุณแม่ที่ มีลูกตอนแก่ หรือว่าท้องตอนอายุมากแล้วนั้น จะต้องดูแลตัวเองให้เป็นอย่างดี และจะต้องมากกว่าคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ในช่วงอายุที่น้อยกว่า ยกตัวอย่างเช่น
- พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับให้เต็มอิ่มประมาณ 8-10 ชั่วโมง
- หาเวลานอนพักในตอนบ่ายอีกอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
- ควรหลีกเลี่ยงการทำงานหักโหม
- หลีกเลี่ยงหรือลดจำนวนเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน เช่น กาแฟ น้ำอัดลมให้น้อยที่สุด
- รับประทานอาหารที่มีวิตามินโฟลิก เพราะช่วยในการจัดสร้างโครงสร้างของสมองทารกให้สมบูรณ์ ลดความพิการทางสมองได้ดี ซึ่งมีอยู่ในผักใบเขียวทั่วไป เช่น ผักโขม บล็อกโคลี่ รวมไปถึงเห็ด ตับ ถั่วที่มีสีเขียว ข้าวซ้อมมือ ผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง นม ไข่ โยเกิร์ต เป็นต้น
อย่างไรก็ดี นายแพทย์ริชาร์ด ได้แนะนำว่า หากคุณยังไม่มีลูก แต่อยากที่จะมีลูกแต่ก็ไม่อยากให้ทารกในครรภ์ต้องอยู่ในภาวะที่เสี่ยงละก็ สิ่งที่ดีที่สุดที่อยากจะแนะนำก็คือ การฝากไข่ นั่นเอง ซึ่งอายุที่เหมาะกับการฝากไข่นั้นควรมีอายุระหว่าง 20 – 35 ปี เนื่องจากคุณภาพของไข่นั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและแข็งแรง
อยาก มีลูกตอนแก่ แนะนำให้ฝากไข่
การฝากไข่ คือการที่ผู้หญิงสามารถเก็บเซลล์สืบพันธุ์หรือที่เรียกว่า “ไข่” ฝากหรือแช่แข็งเอาไว้ในอุณหภูมิที่เย็นจัด ต่ำกว่า -150 องศาเซลเซียส ก่อนที่จะนำมาละลายแล้วใช้ผสมกับสเปิร์ม เพาะเลี้ยงจนเกิดเป็นตัวอ่อนภายนอกร่างกาย ก่อนที่จะย้ายกลับเข้าไปฝังตัวในโพรงมดลูก เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ เมื่อถึงเวลาที่พร้อมจะมีลูกแล้วในอนาคต
และเนื่องจากเหตุผลว่า ความสมบูรณ์ของเซลล์สืบพันธุ์ในผู้หญิงหรือ ไข่ จะลดลงไปตามอายุที่มากขึ้น พูดง่าย ๆ คือ ร่างกายผู้หญิงจะผลิตไข่ที่มีความสมบูรณ์และมีจำนวนสม่ำเสมอในทุกเดือนไปเรื่อย ๆ แต่เมื่ออายุมากขึ้นความสมบูรณ์ของไข่และจำนวนของไข่ในร่างกายจะลดลงมากนั่นเอง
ข้อดีข้อเสียของการฝากไข่
ข้อดี: ถือเป็นการเตรียมตัวเพื่อคุณภาพของไข่และตัวอ่อนที่ดีขึ้น น่าจะช่วยเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์ และอาจลดความเสี่ยงต่อโรคทางพันธุกรรมที่ผิดปกติของตัวอ่อน โดยเฉพาะผู้ที่มีเนื้องอกหรือถุงน้ำที่รังไข่โดยเฉพาะช็อคโกแลตซีสต์ ซึ่งรังไข่อาจถูกทำลายจนด้อยคุณภาพในการผลิตไข่ที่ดี เมื่อโรคลุกลามขึ้นในอนาคต ยิ่งถ้าเกิดเป็นมะเร็งรังไข่ อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเอารังไข่ทั้งสองข้างออก ฉายรังสี หรือใช้เคมีบำบัด ซึ่งล้วนแล้วแต่อาจเป็นการทำลายรังไข่โดยสิ้นเชิง การมีไข่เก็บไว้ก่อนย่อมช่วยให้ผู้ป่วยมีลูกได้ด้วยพันธุกรรมของตนเองในแง่นี้ถือว่าคุ้มค่ามาก
ข้อเสีย: อาจหมายถึงความไม่คุ้มค่า เนื่องจากเป็นวิธีการที่มีค่าใช้จ่ายสูง ต้องเสี่ยงต่อผลข้างเคียงของยากระตุ้นไข่และการดมยาโดยไม่จำเป็น ส่วนไข่ที่ยังแช่แข็งไว้ก็ยังมีการยืนยันว่าหลังจากละลายออกมาใช้ในอนาคตแล้วจะยังมีคุณภาพเท่าเดิมหรือไม่ ยิ่งถ้าในอนาคตเกิดไม่ได้แต่งงานขึ้นมา หรือคู่สมรสมีปัญหาเรื่องคุณภาพอสุจิที่ไม่ดีด้วย ก็อาจส่งผลกระทบให้ไม่ได้ตัวอ่อนที่ดีพอที่จะตั้งครรภ์สำเร็จก็เป็นได้ และแน่นอนการนำไข่มาผสมนั้น จะต้องพึ่งพาเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ซึ่งก็ต้องมีค่าใช้จ่ายอีกจำนวนหนึ่งตามมาอีกด้วย
ทีนี้คุณแม่หรือคุณผู้หญิงที่อยาก มีลูกตอนแก่ ก็ไม่ต้องคิดมากนะคะ หากเรารู้จักดูแลตัวเองให้ดี หลังที่ค้นพบว่าตัวเองตั้งครรภ์ ทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด การ มีลูกตอนแก่ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลอีกต่อไป แต่ถ้าหากยังไม่ได้ท้องและสังโสดอยู่ การฝากไข่ ตั้งแต่อายุยังน้อย ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลยใช่ไหมละคะ
ขอบคุณที่มา: Baby Center
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกตามที่