เพราะผู้หญิงยุคใหม่มีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ร่างกายผิดปกติจนทำให้มีลูกยาก ทั้งเป็นเรื่องอายุ อาหาร การทำงาน และโรคภัยต่างๆ ด้วยเหตุนี้ เราจึงมาให้ความรู้เรื่อง เยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ ซึ่งเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้มีลูกยาก และอาจรุนแรงจนกลายเป็นมะเร็งได้อีกด้วย
เยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ มีลูกยาก เพราะอะไร
ปัจจุบันพบว่า ผู้หญิงมีภาวะผิดปกติทางร่างกายที่ส่งผลให้มีบุตรยาก เพิ่มมากขึ้นกว่าสมัยก่อน ทั้งเรื่องประจำเดือนมาไม่ปกติ เรื่องอายุ สิ่งแวดล้อม และเรื่องอาหาร ดังนั้น นอกจาก การรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงแล้ว การสังเกตความผิดปกติของตัวเอง รวมถึง การตรวจสุขภาพเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคร้าย และลดภาวะมีบุตรยากได้ ซึ่งหนึ่งในโรคที่คุณผู้หญิงควรรู้จักและเข้าใจ เพราะส่งผลต่อการมีบุตรได้นั่นคือ
โรคเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ ที่นอกจากจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีลูกยากแล้ว หากปล่อยโรคนี้ทิ้งไว้เรื้อรังไม่รักษาให้หายโดยไว อาจมีอันตรายถึงขนาดเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
เยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ คืออะไร
ตามปกติแล้วผู้หญิงมักจะมีรอบเดือนประมาณรอบละ 28-30 วัน และมีการตกไข่ช่วงกลางรอบเดือน โดยช่วงแรกก่อนการตกไข่ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) หรือฮอร์โมนเพศหญิงเป็นหลัก เพื่อให้มีการเจริญเติบโตของเยื่อบุโพรงมดลูก ส่วนช่วงหลังการตกไข่ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน(Progesterone) หรือเรียกอีกชื่อว่าฮอร์โมนของการตั้งครรภ์ ฮอร์โมนตัวนี้จะทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกสุก พร้อมรับการฝังตัวของไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิ แต่หากไม่มีการปฏิสนธิเกิดขึ้น ทั้งฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนจะค่อยๆ ลดลง และเยื่อบุโพรงมดลูกจะหลุดลอกออกมาทั่วทั้งโพรงมดลูก เป็นเลือดประจำเดือนตามปกติ ดังนั้น หากมีภาวะการตกไข่ผิดปกติ หรือไม่มีการตกไข่ จะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีการผลิตฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ที่เป็นตัวช่วยให้เกิดการสุกของเยื่อบุโพรงมดลูก การลอกตัวของเยื่อบุโพรงมดลูกตามปกติ ก็จะไม่เกิด หรือเกิดเฉพาะบางจุด ดังนั้นเยื่อบุโพรงมดลูกจะยิ่งหนาขึ้นเรื่อยๆ เป็นเหตุทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติและมีเลือดออกผิดปกติได้
เพราะเหตุใด ? ถึงเป็นโรคนี้
ปัจจัยหลักที่เป็นสาเหตุของโรคนี้คือ ความอ้วน เบาหวาน ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือกลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่ โดยโรค เยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ มักเกิดกับกลุ่มคุณแม่หรือผู้หญิงสูงอายุช่วงใกล้หมดประจำเดือนและหลังหมดประจำเดือน โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีอายุเกิน 35 ปีขึ้นไป จะมีความเสี่ยงเป็นโรคนี้มากกว่า แต่ไม่ว่าจะอายุมากหรือน้อยก็สามารถเป็นโรคนี้ได้
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ติดตาม มีลูกยาก ถ้าเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ คลิกต่อหน้า 2
อาการ เยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ ที่ควรสังเกต
- ประจำเดือนไม่มา 3-4 เดือน พอเดือนไหนประจำเดือนมาจะมีปริมาณมากผิดปกติ
- มีรอบเดือนสั้นกว่า 28 วัน
- มีอาการเลือดออกกะปริดกะปรอยทางช่องคลอด
- มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หน้ามัน เป็นสิว
- มีขนตามตัวเพิ่มมากขึ้นหน้าอกแฟบลง รวมถึงอาจมีเสียงห้าวขึ้น
- ปวดท้องประจำเดือน อาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับบางคน เพราะอาการปวดประจำเดือนนั้นมักเกิดจากการที่เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ซึ่งหากเกิดในรังไข่เรียกว่าชอคโกแลตซีสต์ได้ ถ้าเป็นที่กล้ามเนื้อมดลูกจะทำให้มดลูกหนาตัว รูปร่างเป็นทรงกลม ซึ่งภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ อาจมีอาการคล้ายคลึงกันกับโรคเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ หรือเกิดร่วมกันก็ได้ ดังนั้น ต้องพบแพทย์ เพื่อตรวจภายใน และอัลตราซาวน์ ในการช่วยแยกแยะสาเหตุ
รักษาหาย มีลูกได้ หายห่วง!
โรคเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีบุตรยาก เนื่องจากคนที่เป็นโรคนี้จะมีภาวะไข่ไม่ตก หรือ ไข่ตกไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นโอกาสปฏิสนธิจึงเกิดขึ้นได้ยาก และถึงแม้ว่ารอบเดือนนั้นมีการปฏิสนธิ ตัวเยื่อบุโพรงมดลูกก็ไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่จะรองรับการฝังตัวของตัวอ่อนได้ เพราะฉะนั้นเมื่อมีอาการผิดปกติต่างๆ ควรรีบตรวจร่างกายและรักษาให้หายก่อนจะดีที่สุด
โรคนี้ปล่อยไว้ อันตรายถึงมะเร็ง
เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ นอกจากจะทำให้มีบุตรยากแล้ว หากปล่อยทิ้งไว้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งได้ โดยเฉพาะผู้หญิงที่อยู่ในกลุ่มความเสี่ยงสูง ทั้งที่มีอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ โรคอ้วนหรือโรคเบาหวาน โดยควรไปตรวจร่างกายและดูดเซลล์ในโพรงมดลูกมาตรวจอย่างละเอียด เพราะหากพบว่าเซลล์มีการแบ่งตัวผิดปกติหรือเป็นเซลล์มะเร็งจะได้รักษาอย่างทันท่วงที
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ติดตาม มีลูกยาก ถ้าเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ คลิกต่อหน้า 3
รีบตรวจรักษา แค่ทานยาก็หายได้
ก่อนการรักษาคุณหมอจะนำเซลล์มาตรวจเพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้อง โดยใช้การดูดเนื้อเยื่อหรือขูดมดลูกเอาเซลล์มาตรวจ โดยถ้าเป็นการดูดเนื้อเยื่อก็จะใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่มีลักษณะคล้ายหลอดเล็กๆ เพื่อนำชิ้นส่วนเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกออกมา และหลังจากให้คุณหมอด้านพยาธิวิทยาตรวจดูตัวเซลล์แล้ว หากเป็นเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ คุณหมอจะใช้วิธีการลอกโดยการใช้ยาที่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน เพราะการที่ไข่ไม่ตก ทำให้ร่างกายไม่สามารถสร้างฮอร์โมนตัวนี้เพียงพอที่จะทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกสุก แล้วลอกออกมาเองได้ และเมื่อร่างกายได้รับฮอร์โมนตัวนี้แล้ว เยื่อบุโพรงมดลูกก็จะค่อยๆ ลอกออกมา หลังจากนั้น จะต้องรับประทานยาคุมกำเนิดติดต่อกัน 3-4 เดือน เพื่อปรับสมดุลของร่างกาย และทำให้ประจำเดือนมาเป็นรอบตามปกติ
สุดท้ายโรคเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติสามารถกลับมาเป็นได้อีก โดยเฉพาะ ถ้ายังไม่ออกกำลังกาย และยังมีน้ำหนักตัวที่มากเกินเกณฑ์
คุณหมอฝากถึงผู้หญิงทุกคน
“คุณผู้หญิงควรใส่ใจเรื่องของรอบเดือนเป็นพิเศษ สังเกตว่าประจำเดือนมาสม่ำเสมอดีหรือไม่ หากมาไม่ปกติรวมถึงมีภาวะอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น มีขนเพิ่มมากขึ้น เป็นสิว หน้ามัน ควรไปตรวจดูว่าเป็นกลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่หรือเปล่า เนื่องจากกลุ่มนี้มีภาวะแทรกซ้อนตามมาค่อนข้างเยอะ ทั้งเรื่องมีบุตรยาก เรื่องเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ และหากปล่อยทิ้งไว้นานๆ มีโอกาสเป็นมะเร็งได้ บางรายหลังจากรอบเดือนไม่มาหลายๆ เดือน พอรอบเดือนมาจะมีภาวะเลือดออกมากผิดปกติ ถึงขั้นตกเลือดได้”
ทั้งนี้การรีบไปพบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติจะช่วยหยุดยั้งโรคร้ายและยังเป็นการป้องกันโรคต่างๆ ได้ในอนาคต
ข้อมูลโดย: อาจารย์ นายแพทย์สกิทา ม่วงไหมทอง ภาควิชาสูติ-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ
เป็นโรค SLE (โรคเอสแอลอี) มีลูกได้ไหม ?
โรคตับในแม่ท้อง ภาวะอันตราย ทำให้ครรภ์เสี่ยงสูง
พ่อแม่รังแกฉัน ผลสำรวจค่านิยมยอดฮิตของพ่อแม่ยุคดิจิตอล
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่