สำหรับคุณพ่อ คุณแม่ที่มีบุตรยาก และอยากประสบความสำเร็จที่จะมีลูก สำหรับบทความนี้ Amarin Baby & Kids ขอนำเสนอประสบการณ์ของว่าที่คุณแม่ ในการเก็บไข่ ทำเด็กหลอดแก้ว IVF ที่โรงพยาบาลศิริราช พร้อมอัพเดตอาการ ค่าใช้จ่ายในการทำเด็กหลอดแก้ว และวิธีปฏิบัติ
ทำเด็กหลอดแก้ว IVF
กรณีศึกษา สำหรับผู้มีบุตรยาก : ผู้หญิง อายุ 28 ปี มีภาวะ PCOS ไม่รุนแรง ผู้ชายอายุ 38 ปี เชื้อปกติ
19 สิงหาคม 2559
ฉีด Gonal-F ซึ่งเป็นยากระตุ้น ทำให้ได้ไข่มากกว่าปกติ เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่กระบวนการ IVF เข็มในภาพบรรจุ 450 IU แต่คุณพยาบาลแนะนำตอนสอนวิธีฉีดว่า จริงๆ แล้วในหลอดมี 500 IU ให้ฉีดครั้งละ 150 IU ให้ครบ 3 วันแล้วอย่าเพิ่งทิ้ง
วันนี้ 19 สิงหาคม มาอัลตร้าซาวน์เพื่อติดตามผล คุณหมอนัดให้ดูว่าครั้งที่แล้ว ได้ไข่ใบเล็กๆ ขวา 12 ใบ ซ้าย 5 ใบ และผลจากการใช้ยา Gonal-F ซึ่งมีราคาแพง และการปฏิบัติตัวที่ดี พบว่าไข่โตขึ้น 9 มิลลิเมตร
คุณหมอจึงให้ยา Gonal-F มาฉีดกระตุ้นไข่ต่ออีก 5 วัน และเพิ่มเป็นวันละ 200 IU และฉีด Orgalutran เพื่อป้องกันไข่ตกอีก 3 เข็ม
- ค่าอัลตร้าซาวน์ 740 บาท
- ค่ายารวม 18,404 บาท (Gonal-F 6,649 บาท x 2 / Orgalutran 1,702 บาท x 3)
อ่านต่อ “ประสบการณ์การเก็บไข่ ทำเด็กหลอดแก้ว IVF” คลิกหน้า 2
29 สิงหาคม 2559
หลังจากฉีดยากระตุ้นไข่ Gonal-F 500 IU เป็นเวลา 3 วัน และต่อด้วยขนาด 200 IU เป็นเวลา 5 วันที่หน้าท้อง และฉีด Orgalutran ป้องกันไข่ตก 0.25 มิลลิกรัม 3 เข็มที่หน้าท้อง รวมถึงยาทำให้ไข่สุก Diphereline 0.2 มิลลิกรัม 1 เข็มที่ต้นแขนแล้ว
วันที่ 27 สิงหาคม คุณหมอก็นัดเก็บไข่ การเตรียมตัวก่อนการเก็บไข่ คือ งดอาหาร และน้ำดื่มทุกชนิด หลังเวลา 5 ทุ่ม ของวันที่ 26 สิงหาคม งดแต่งหน้า น้ำหอม เครื่องประดับ รวมถึงคอนแทคเลนส์
คุณหมอจะให้เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเข้าไปในห้องรอเก็บไข่ จากนั้นคุณพยาบาลจะเรียกเข้าไปในห้อง ขึ้นขาหยั่ง มีสายเข็มขัดรัดที่เอว คุณพยาบาลจะเริ่มทำความสะอาด แล้วใส่เครื่องมือ คุณพยาบาลอีกคนจะฉีดยาที่หลังมือ และคุณหมอจะทำการเก็บไข่ ไม่เกิน 10 นาทีเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ก่อนกลับบ้าน คุณพยาบาลแจ้งผลการเก็บไข่ และน้ำเชื้อ ได้ไข่ 39 ใบ น้ำเชื้ออยู่ในเกณฑ์ดี และเนื่องจากรังไข่ถูกกระตุ้นมาก ได้ไข่จำนวนเยอะ เกรงว่าจะมีภาวะน้ำในช่องท้อง หรือ OHSS จึงอาจจะได้ใส่ตัวอ่อนในรอบต่อไป และมีการนัดอัลตร้าซาวน์ดู OHSS ในวันอังคารที่ 30 สิงหาคม อีกครั้งหนึ่ง
คุณหมอสั่งให้ฉีดยา Orgalutran ต่ออีก 3 เข็ม และให้รับประทานไข่ขาวต้มสุก วันละ 2 ฟอง ทั้ง 3 มื้อ
รวมค่าใช้จ่าย 18,910 บาท
- ค่าแล็ป 6,200 บาท
- ค่าเตรียมน้ำเชื้อ 1,000 บาท
- ค่าเก็บไข่ 6,500 บาท
- ค่ายา Orgalutran 5,106 บาท (0.25 มิลลิกรัม x 3)
- ค่าบริการอื่นๆ 104 บาท
อ่านต่อ “ประสบการณ์การเก็บไข่ ทำเด็กหลอดแก้ว IVF” คลิกหน้า 3
3 กันยายน 2559
วันที่ 30 สิงหาคม มีการนัดอัลตร้าซาวน์ดู OHSS พบว่าไม่มีภาวะ OHSS คุณหมอแจ้ง ได้ตัวอ่อน 25 ตัว 740 บาท รอประจำเดือนมาเตรียมใส่ตัวอ่อนรอบฟรีซ (มีอาการเจ็บคัดหน้าอกมาก)
วันที่ 31 สิงหาคม มีอาการเจ็บคัดหน้าอกมาก
วันที่ 1 กันยายน ประจำเดือนมาวันแรก มีอาการเจ็บคัดหน้าอกมาก
วันที่ 2 กันยายน อัลตร้าซาวน์ พบว่ามีไข่ค้าง ข้างขวาใหญ่สุด 16.5 มิลลิเมตร ข้างซ้าย 16 มิลลิเมตร พบตัวอ่อนเพิ่ม 27 ตัว 740 บาท
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม – 2 กันยายน (ไม่รวมใส่ตัวอ่อน) 53,155 บาท กำหนดใส่ตัวอ่อนในรอบเดือนต่อไป
การบำรุงช่วยกระตุ้นไข่ ก่อนกระตุ้นไข่ รับประทานโฟลิค และน้ำมันปลา เมื่อเริ่มฉีดยา ไม่รับประทานอาหารเสริม หรือวิตามินใดๆ รับประทานอาหาร 3 มื้อตามปกติ ไม่รับประทานขนม ดื่มเฉพาะน้ำเปล่า และนมวัวจืด รับประทานไข่ขาวต้มสุก มื้อละ 2 ฟอง ในช่วงกระตุ้นไข่วันที่ 6 – 9 เน้นนอนหลับพักผ่อนมากๆ งีบตอนกลางวันทุกวัน
อ่านต่อ “ประสบการณ์การเก็บไข่ ทำเด็กหลอดแก้ว IVF” คลิกหน้า 4
10 ตุลาคม 2559
หลังจากการเก็บไข่ไปเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ได้ไข่ 39 ใบ คุณหมอจึงให้ใส่รอบฟรีซ เพราะคาดว่าอาจจะมีภาวะน้ำในช่องท้องจากการกระตุ้นไข่มากเกินไป รอบเดือนกันยายนเตรียมตัวพร้อมสำหรับใส่ตัวอ่อน แต่ปรากฏว่ายังมีไข่ค้าง คุณหมอจึงให้รับประทานยาคุม แล้วใส่ตัวอ่อนในรอบถัดไปแทน
วันที่ 28 กันยายน ประจำเดือนมา รับประทาน Estrofem ตามคำสั่งของคุณหมออย่างเคร่งครัด เสริมด้วยโฟลิควันละเม็ด น้ำมันปลาวันละ 2-3 เม็ด (รับประทานติดต่อกันมา 3 เดือนแล้ว ยกเว้นช่วงกระตุ้นไข่)
วันที่ 5 ตุลาคม อัลตร้าซาวน์ดูผนัง 10.9 คุณหมอบอกว่าใช้ได้ จึงนัดใส่ตัวอ่อน 10 ตุลาคม
การเตรียมตัวก่อนใส่ตัวอ่อน
1.รับประทานยา + สอดยาให้ตรงตามเวลาจนครบ ตามที่คุณหมอสั่ง
2.รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ไม่เน้นอย่างใดอย่างหนึ่งมากจนเกินไป
3.ก่อนไปใส่ตัวอ่อน ทำความสะอาดห้องนอน เตรียมหนังสือ และสะสางสิ่งต่างๆ ในช่วงวันหยุด
ยาที่ใช้ช่วยเตรียมผนัง
วันที่ 10 ตุลาคม วันใส่ตัวอ่อน คุณพยาบาลจะให้ไปปัสสาวะ แล้วกลั้นปัสสาวะต่ออีก 1 ชั่วโมง คุณหมอจะเตรียมตัวอ่อน แล้วแจ้งว่า ละลายตัวอ่อนแล้ว 5 ตัว จะใส่ตัวอ่อนเกรด B 1 ตัว หลังจากนั้นคุณหมอจะอัลตร้าซาวน์หน้าท้อง แล้วให้นอนหลับ 1 ชั่วโมง จากนั้นคุณพยาบาลจะฉีดยากันแท้งให้ 1 เข็ม คุณหมอนัดตรวจเลือดวันที่ 25 ตุลาคม
อ่านต่อ “ประสบการณ์การเก็บไข่ ทำเด็กหลอดแก้ว IVF” คลิกหน้า 5
วิธีปฏิบัติหลังใส่ตัวอ่อน
- หลังใส่ตัวอ่อน สามารถทำงานเอกสาร งานบ้านเบาๆ ได้ตามปกติ
- การเดินขึ้นลงบันได สามารถทำได้ตามปกติ แต่ห้ามยกของหนัก ห้ามขี่จักรยาน หรือมอเตอร์ไซค์
- รับประทานยาตามที่คุณหมอสั่ง ห้ามหยุดยาเอง และห้ามมีเพศสัมพันธ์ จนกว่าจะตรวจเลือด
ยาที่ใช้หลังใส่ตัวอ่อน
สอดยา Cyclogest เช้า-เย็น เหมือนเดิม รับประทาน Estrofem เช้า-เย็น เหมือนเดิม และมีเพิ่มยา คือรับประทานยา Dufhation เช้า-กลางวัน-เย็น 1 เม็ด และยาฉีด Prolution Depot ฉีดวันที่ 17 ตุลา (ตัวเดียวกับที่คุณพยาบาลฉีดให้ในวันใส่ตัวอ่อน) โดยการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
การบำรุงช่วงกระตุ้นไข่ ก่อนการกระตุ้นไข่มีการรับประทานวิตามินเท่าที่จำเป็น 3-4 เดือน มีทั้ง Ovaboost โฟลิค น้ำมันปลา แต่หลังจากเริ่มฉีดยา ก็ไม่ได้รับประทานอาหารเสริม หรือวิตามินใดๆ เลย
28 กันยา ประจำเดือนมาวันแรก
29 กันยา เริ่มรับประทานยา Estrofem เช้า-เย็น ครั้งละ 1 เม็ด
5 ตุลา อัลตร้าซาวน์ดูผนัง 10.9 ราคา 740 บาท เริ่มสอดยา Cyclogest 756 บาท
10 ตุลา ใส่ตัวอ่อน เกรด B 1 ตัว ละลายตัวอ่อนแล้ว 5 ตัว จาก 27 ตัว
อัพเดตค่าใช้จ่ายทั้งหมด
- ค่ายา 3,233 บาท
- ค่าอุปกรณ์ 1,350 บาท
- ค่าเพาะเลี้ยงตัวอ่อน 4,800 บาท
- ค่าแช่แข็งตัวอ่อน / 8 ตัว 2,000 บาท
- ค่าแช่แข็งตัวอ่อนส่วนเกิน 4,000 บาท
- ค่าอุ่นตัวอ่อน 1,200 บาท
- ค่าใส่ตัวอ่อน 4,000 บาท
- ค่าบริการ 40 บาท
รวมค่าใช้จ่ายในรอบใส่ตัวอ่อน 22,119 บาท + รวมค่าใช้จ่ายในรอบกระตุ้นไข่ 53,155 บาท
= รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 75,274 บาท
อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก
ฝากไข่ ไว้มีลูกในอนาคต …เรื่องฮิตที่ผู้หญิงยุคใหม่ควรรู้
เครดิต: http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=olcecenter&month=10-10-2016&group=35&gblog=39
Save
Save