คุมกำเนิดแบบฝังเข็ม 1 ในวิธีคุมกำเนิดที่ได้ผลดี ซึ่งจะช่วยลดกระแสดราม่าของคุณแม่วัยใส ท้องก่อนวัยอันควรลงได้ และรวมไปถึงคู่รักที่ยังไม่พร้อมจะมีลูกก็สามารถเลือกวิธีนี้ได้!
ปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่า ปัญหาการท้องก่อนวัยอันควร เป็นเรื่องที่มีมายาวนาน และกำลังเป็นกระแสฮอตฮิตในโลกโซเชียลขณะนี้ ด้วย การติดแฮชแท็ก #เ_ดได้ก็เลี้ยงได้สิ ซึ่งก็เป็นคำพูดของคุณแม่วัยใส ที่ออกมาบอกให้สังคมรับรู้ว่าแม้ตนเองจะพลาดท้องในวัยเรียนแต่ก็ไม่ได้ทำบาปทำกรรมหรือทำแท้งฆ่าลูกไปโดยที่เด็กไม่รู้อะไรเลย แต่สำหรับสังคมไทยนั้นก็ยังมองว่าเรื่องนี้เป็นปัญหา เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอยู่ดี ด้วยเหตุผลหลายๆอ ย่าง โดยเฉพาะคำว่า ความพร้อม (ทั้งการเงิน และวุฒิภาวะ หรืออื่นๆ อีกมากมาย) ซึ่งแน่นอนว่าการท้องในวัยเรียนนั้นเป็นเรื่องที่ไม่พร้อมแน่นอน
คุมกำเนิดแบบฝังเข็ม กระทู้ดีจากพันทิป!
สาเหตุการตั้งครรภ์วัยรุ่น
ส่วนใหญ่เกิดจาก วัยรุ่นขาดความรู้เรื่องอนามัยเจริญพันธุ์ ขาดความรู้เรื่องการป้องกันการตั้งครรภ์ และเมื่อมีการตั้งครรภ์วัยรุ่นแล้ว ยังขาดความรู้ในการดูแลตนเอง ทั้งนี้ การตั้งครรภ์วัยรุ่นยังก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตั้งแต่การคลอดก่อนกำหนด โรคแทรกซ้อน ตลอดจนเป็นปัญหาสังคมต่างๆ ที่ตามมา จึงต้องใช้วิธีควบคุมปัญหานี้ด้วยการคุมกำเนิด
หลักการคุมกำเนิด
การคุมกำเนิด คือ การป้องกันไม่ให้อสุจิของฝ่ายชายปฏิสนธิกับเซลล์ไข่ของฝ่ายหญิง หรือหากปฏิสนธิก็เป็นการป้องกันไม่ให้ตัวอ่อนนั้นฝังตัวที่มดลูก ซึ่งมีวิธีการต่างๆ หลายวิธี การคุมกำเนิดในปัจจุบันมีมากมายหลายวิธีให้เลือกตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล เช่น การใช้ยาคุมกำเนิด การใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งปัจจุบันมีทั้งของเพศชายและเพศหญิง การใช้หมวกครอบปากมดลูก การใช้ฟองน้ำ การใช้สารฆ่าเชื้ออสุจิ การใช้ฮอร์โมนแท่งฝังใต้ผิวหนัง
หรือการคุมกำเนิดโดยวิธีธรรมชาติคือการนับวัน และการหลั่งน้ำอสุจินอกช่องคลอด ซึ่งวิธีการเหล่านี้ถือเป็น การคุมกำเนิดชั่วคราว คือถ้าหยุดคุมกำเนิดก็จะกลับมาตั้งครรภ์ได้ และอีกวิธีหนึ่งที่เรียกว่าการทำหมัน ถือเป็นการคุมกำเนิดแบบถาวร โดยการผ่าตัดท่อนำไข่ให้ขาดจากกัน หรือการทำให้ท่อนำไข่อุดตัน หรือการการทำหมันถาวรในชายโดยการตัดผูกท่อนำอสุจิ
⇒ Must read : ทำหมัน แต่อยากมีลูกอีกคน ทำอย่างไรดี?
การแก้ปัญหาตั้งครรภ์วัยรุ่นให้สำเร็จ
ทั้งนี้ปัญหาหลักใหญ่ ๆ คือ ต้องให้วัยรุ่นได้เข้าถึงการคุมกำเนิดอย่างมีคุณภาพและทั่วถึง ยิ่งหากมีบริการฟรีจากรัฐกับนวัตกรรมคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ ปัญหานี้น่าจะลดลงได้ไม่มากก็น้อย โดยทางกทม.ได้เปิดให้บริการฝังยาคุมกำเนิดฟรีสำหรับวัยรุ่น เป็นลักษณะฝังยาคุมกำเนิดกึ่งถาวร ด้วยการฝังหลอดบรรจุฮอร์โมนเข้าไปใต้ผิวหนัง อีกทั้งยังมีช่องทางที่สามารถให้วัยรุ่นปรึกษาเรื่องเพศได้ มีทั้งทีมบริการของเยาวชนที่ให้ความรู้ด้านสุขภาพทางเพศในโรงเรียน และให้บริการทางคลินิกออนไลน์ เช่น www.lovecarestation.com www.teenpath.net หรือสายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม 1663 เพื่อช่วยเหลือวัยรุ่นที่กำลังมีปัญหา หรือเกิดพลาดพลั้งตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม
อ่านต่อ >> “คุมกำเนิดแบบฝังเข็ม 1 ในวิธีคุมกำเนิดที่ได้ผลที่ดีสุด” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
แม้ว่า การฝังยาคุมกำเนิด จะเป็นวิธีที่ดี แต่สำหรับการที่จะเลือกใช้วิธีใดให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของผู้ขอรับบริการ ซึ่งควรจะต้องตอบคำถามเหล่านี้ก่อน
- ลักษณะสม่ำเสมอของรอบเดือนเป็นอย่างไร
- ความถี่ห่างของการมีเพศสัมพันธ์เป็นอย่างไร
- ลักษณะงานของท่านที่จะทำให้ท่านสามารถทานยาได้ตรงเวลาหรือไม่
- การตั้งครรภ์ที่อาจจะเกิดขึ้น จะมีอันตรายต่อสุขภาพมากน้อยเพียงไร
- ยังต้องการมีบุตรอีกหรือไม่
- มีความเสี่ยงต่อการใช้ฮอร์โมนบ้างหรือไม่ เช่นกรณีที่ท่านสูบบุหรี่ อายุเกิน 35 ปี มีโรคความดันโลหิตสูง เบาหวานหรือไม่
คำถามข้างต้นนั้นถือเป็นข้อที่จำเป็นที่สุดคือที่ต้องขอคำแนะนำจากแพทย์ก่อน เพื่อเลือกวิธีการคุมกำเนิดที่เหมาะสมกับตัวเองด้วย
การเลือกวิธีคุมกำเนิด
- การเลือกวิธีคุมกำเนิดขึ้นกับปัจจัยหลาย ๆ อย่างเช่น สุขภาพ ความถี่ของการมีเพศสัมพันธ์ จำนวนของคู่นอน ความต้องการมีบุตรในอนาคต
- วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการตั้งครรภ์ และปลอดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์คือการไม่มีเพศสัมพันธ์
- ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอควรจะใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีด ใส่ห่วง
- ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ไม่บ่อย ให้ใช้ถุงยางอนามัย
- ผู้ที่มีคู่นอนหลายคนหรือต้องการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้ใช้ถุงยางอนามัย
- ถ้าไม่แน่ใจว่าแฟนมีโรคติดต่อ หรือไม่ไม่ควรที่จะมีเพศสัมพันธ์ด้วย
- ผู้มีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการวางแผน เช่น ถูกข่มขืนควรใช้ยาคุมชนิดหลังร่วมเพศ
- นอกจากปัจจัยดังกล่าวยังต้องพิจารณาถึงประสิทธิภาพของการคุมกำเนิดด้วยตารางแสดงประสิทธิภาพของการคุมกำเนิด
แต่กระนั้นแล้ว ในเมื่อวิธีการฝังยาคุม เป็น 1 ในวิธีการคุมกำเนิดที่ดีมีประสิทธิภาพสูง ทางทีมงาน Amarin Baby & Kids จึงได้ไปเสาะแสวงหาข้อมูล และวิธีการฝังยาคุมกำเนิดมาแนะนำให้คุณแม่ๆ และคู่รักที่ยังไม่พร้อมจะมีลูกได้ทราบถึงขั้นตอนการคุมกำเนิดนี้ยังชัดแจ้ง จากรีวิวกระทู้ดีๆ กระทู้หนึ่งในพันทิป โดยมีสมาชิกที่ใช้ชื่อว่า A life devote to Husband ได้มาทำการรีวิวให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการฝังยาคุมแบบละเอียดยิบ เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่สนใจจะคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้
แต่ก่อนที่เราจะไปดูการรีวิวขั้นตอนการคุมกำเนิดด้วยการฝังยาคุม นั้นเรามาดูกันก่อนค่ะว่ายาคุมกำเนิดชนิดฝังใต้ผิวหนังเป็นอย่างไร
ยาฝังคุมกำเนิดสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างไร?
ยาฝังคุมกำเนิด มีลักษณะเป็นแท่งซิลิโคนเล็ก ๆ ขนาดเท่าไม้ขีดไฟ บรรจุตัวยาซึ่งจะประกอบด้วย ฮอร์โมนเพศหญิงโปรเจสตินเพียงชนิดเดียว จึงไม่มีผลข้างเคียงของฮอร์โมนเอสโตรเจน เหมือนในยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรวม
- ในยาฝังคุมกำเนิดที่ชื่อ Implanon® จะเป็นฮอร์โมน Etonogestrel 68 มก. (มิลลิกรัม) แล้วค่อย ๆ ปล่อยฮอร์โมนออกมาวันละ 70-60 ไมโครกรัม
- ส่วน Jadelle® จะเป็นฮอร์โมน Levonorgestrel 75 มก. ปล่อยฮอร์โมนออกมาวันละ 100-40 ไมโครกรัม (ระดับฮอร์โมนจะสูงในช่วงแรก และค่อย ๆ ลดลงจนคงที่ในระยะเวลาต่อมา)
กลไกการป้องกันการคุมกำเนิด คือ ฮอร์โมนที่ปล่อยออกมาจากแท่งยาฝัง จะไปมีผลทำให้ฟองไข่ไม่พัฒนา จึงไม่สามารถโตต่อไปจนตกไข่ได้ ทำให้ไม่มีไข่ที่จะรอผสมกับเชื้ออสุจิ จึงไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ นอกจากนี้ ฮอร์โมนนี้ยังทำให้มูกที่ปากมดลูกเหนียวข้น ทำให้เชื้ออสุจิว่ายผ่านเข้าไปได้ยาก จึงช่วยลดโอกาสเกิดการผสมกับไข่
ยาฝังคุมกำเนิด มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดดีมาก โอกาสการตั้งครรภ์น้อยกว่า 1 ใน 100 ของผู้หญิงที่ใช้ยาฝังคุมกำเนิด
ข้อดีของยาฝังคุมกำเนิด
- สะดวกสบาย เมื่อไปรับการคุมกำเนิดวิธีนี้ สามารถคุมกำเนิดได้นาน 3-5 ปี แล้วแต่ชนิดของยา
- ไม่ต้องรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดทุกวัน ลดโอกาสลืมกินยา หรือต้องไปฉีดยาคุม กำเนิดทุก 3 เดือน ลดโอกาสฉีดยาคลาดเคลื่อนไม่ตรงกำหนด
- ไม่มีผลข้างเคียงของฮอร์โมนเอสโตรเจน เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เป็นฝ้า
- เป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงดังที่ได้กล่าวไว้แล้วก่อนหน้านี้
- ลดอาการปวดประจำเดือน
- ป้องกันการหนาตัวของเยื่อบุโพรงมดลูก ทำให้ลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
- ลดโอกาสเกิดอาการซีดจากการมีประจำเดือนมามากผิดปกติ จากมีการหนาตัวมากของเยื่อบุโพรงมดลูก
ข้อเสียของยาฝังคุมกำเนิด
ซึ่งอาจมีผลข้างเคียงจากยาได้ โดยผลข้างเคียงที่อาจพบได้ คือ
- มีประจำเดือนกะปริบกะปรอย
- ไม่มีประจำเดือน หรือเกิดภาวะขาดประจำเดือน
- อาจมีน้ำหนักตัวขึ้น
- ปวดแขนบริเวณที่ฝังแท่งยาคุมกำเนิด
- แผลที่ฝังยาเกิดการอักเสบ หรือมีรอยแผลเป็น
- อารมณ์แปรปรวน
- ปวด/เจ็บเต้านม
- มีโอกาสตั้งครรภ์นอกมดลูก (ท้องนอกมดลูก) หากเกิดการตั้งครรภ์ขึ้น
- อาจเกิดภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ
ซึ่งหากคุณผู้หญิงต้องการมีลูกหรือเมื่อฝังยาคุมกำเนิดมาครบตามจำนวนเวลาที่ระบุแล้ว (3 หรือ 5 ปี) สามารถไปถอดยาฝังได้ตามโรงพยาบาลทั่วไป โดยแผลที่เกิดจากการถอดหลอดยา จะใหญ่กว่าตอนใส่เล็กน้อย และอาจได้รับการเย็บด้วยไหม 1 เข็ม ซึ่งก็มีการฉีดยาชาก่อนเสมอ ทั้งนี้การถอดยาฝังใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที และทำได้ที่ห้องตรวจผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องอยู่โรงพยาบาลเช่นเดียวกับตอนใส่หลอดยาเช่นกัน และเมื่อถอดยาออก ภาวะในการเจริญพันธุ์ก็สามารถกลับมาเป็นปกติได้ภายในระยะเวลาประมาณ 1-12 เดือนขึ้นกับความแข็งแรงและอายุของคุณผู้หญิงนั้น รวมทั้งระยะเวลาที่ใช้ในการคุม กำเนิดก่อนหน้านี้ด้วย
อ่านต่อ >> “กระทู้ดีจากพันทิป! รีวิวการ คุมกำเนิดแบบฝังเข็ม 1 ในวิธีคุมกำเนิดที่ได้ผลที่ดีสุด” คลิกหน้า 3
ขอบคุณข้อมูลเรื่อง : ยาฝังคุมกำเนิด จาก รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง ประนอม บุพศิริ สูตินรีแพทย์ haamor.com , www.bangkokhealth.com , www.thaihealth.or.th
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
เมื่อทราบถึงข้อมูลเกี่ยวกับการคุมกำเนิดด้วยวิธีฝังยาคุมไปแล้ว ซึ่งนับว่าเป็น 1 ในวิธีที่มีประสิทธิภาพสูง เราลองไปดูกันค่ะว่าขั้นตอนการ คุมกำเนิดแบบฝังเข็ม นี้จะมีวิธีอย่างไรบ้าง โดยคุณสมาชิกผู้ใช้เว็บไซต์พันทิปซึ่งมีชื่อว่า คุณ A life devote to Husband ได้มาทำการรีวิวให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการฝังยาคุม ไว้แบบละเอียดยิบ ดังนี้
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวการฝังยาคุมกำเนิดนะคะ จขกท.ได้ฝังแบบ 5 ปี (สองแท่งยา ไม่รู้เรียกถูกหรือเปล่า)
ก่อนอื่นขอเล่าประวัติก่อนนะคะ คือจขกท.และสามี เราสองคนเนี่ยวางแผนกันไว้แล้วค่ะว่าจะไม่มีลูก(เลยหาทางที่จะคุมกำเนิดที่จะคุมระยะยาวเลยค่ะ) เนื่องจากหลายปัจจัย แต่ปัจจัยหลักคือ เรื่องฐานะทางการเงินค่ะ (จขกทเลข2 และแฟนเลข3ค่ะ ยังไม่มั่นคง) เรามองว่าหากอยากเลี้ยงใครสักคนให้เติบโตขึ้นมาก็อยากเลี้ยงเค้าให้ดีที่สุด ซึ่งหมายความว่าต้องใช้เงินพอสมควร ทางสามีเจ้าของกระทู้อยากอยู่กันสองคนมากกว่า และไม่ค่อยชอบเด็กเท่าไหร่ค่ะ เจอเด็กซนๆมาเยอะเลยเข็ดค่ะ ส่วนจขกท ก็อยากรู้สึกว่าเราเป็นที่หนึ่งของกันและกันไปนานๆค่ะ และเห็นตัวอย่างลูกของคนใกล้ตัว เค้ามีลูกโดยไม่พร้อม ค่อนข้างลำบากในการเลี้ยงดู เลยกลัวการมีลูกโดยไม่พร้อมค่ะ
เรามาเริ่มกันเลยค่ะ
เนื่องจากจขกทมีสิทธิบัตรทองของรพ. จุฬา และ เคยมารักษาอยู่แล้วเลยมารักษาที่นี่ค่ะ รพ. นี้เลยเป็นตัวเลือกแรกในการฝังยาคุมกำเนิดค่ะ
เพื่อนสามารถเช็คสถานที่ รพ.ต่างๆที่มีบริการ ฝังยาคุมกำเนิดในลิงก์นี้นะคะ www.lovecarestation.com
ก่อนอื่นเลยเรามารู้จักยาคุมกำเนิดก่อนนะคะ เท่าที่จขกทอ่าน ศึกษาและเคยใช้แบ่งได้ดังนี้ เรื่องถุงยาง จขกท.ขอข้ามนะคะ
1.ยาคุมกำเนิดแบบทาน จขกทเคยกิน Yaz 28 เม็ดค่ะ(ราคาประมาณ 435 บาทซื้อที่บูสท์พารากอนนะคะ แต่จขกทบางทีก็ซื้อ ยาแบบเดียวกันไม่แน่ใจว่าชื่อ ซินโฟน่า ประมารนี้ค่ะ ซื้อประมาณไม่เกิน 350 ค่ะ) ก่อนหน้าที่จะคบกับสามีรักษาฮอร์โมนมาสองปีได้ค่ะเนื่องจาก ประจำเดือนมาเดือนละ 2 ครั้ง
2.ยาคุมกำเนิดแบบฉีด จขกทเคยไปฉีดยาคุมกำเนิดแบบ 1 เดือนที่ รพ.กรุงเทพคริสเตียนค่ะ คุณหมอน่ารักใจดีมาก รวดเร็ว พยาบาลโทรมาตามนัดด้วย และราคาสมเหตุสมผลค่ะไม่แพง แต่หลังจากฉีดจขกทมีอาการเลือดออกกระปิดกระปอย คือเมนส์มาทุกวัน1เดือนเต็มค่ะ(ปอยเยอะไปมาก…555) อีกทั้งช่วงนั้นยุ่งๆเลยไม่ได้ไปฉีดต่อค่ะเลยกลับมากิน Yaz 28 เม็ดแทนค่ะ
3.ยาคุมแบบฝังตัวยาลงใต้ท้องแขน มีแบบ 3 ปีกับ 5 ปี ราคาอยู่ที่ประมาณ 3,000-5,000 บาทค่ะ
4.ยาคุมกำเนิดแบบห่วงค่ะ ตอนไปหาคุณหมอที่รพ.กรุงเทพคริสเตียนเคยจะขอใส่ห่วงค่ะ คุณหมอแนะนำเป็นแบบฉีดมากกว่าเพราะจขกท.ยังไม่เคยมีบุตรค่ะ
5.ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน จขกท.เคยกินตอนที่สามีเผลอปี๊ดอ่ะค่ะ แล้วช่วงนั้นลืมทานยาคุมเพราะจขกท.ขี้ลืมมาดูอัตราการคุมกำเนิดกันนะคะ
พอดูตารางนี้เลยตัดสินใจเลยค่ะ ฝังแน่นอนนนนน 5555
มาเริ่มกันเลยนะคะที่รพจุฬาค่ะ
คำแนะนำคนไข้ใหม่ควรไปแต่เช้านะคะเพราะมีขั้นตอนการทำบัตร ส่วนคนไข้เก่าก็เช้านิดนึงก็ดีค่ะเพราะพอเรามาโดยไม่ได้นัดต้องรอแฟ้มประวัติเราขึ้นไปส่งที่ชั้นประมาณชม.ครึ่งค่ะ เพราะคนมาใช้บริการเยอะมาก เค้านำแฟ้มมาแจกทุกชั้นใครไปก็ใจเย็นนิดนึงนะคะ แฟ้มไม่มาก็ลงไปซื้อของกินชั้น2-6 ที่มีบันไดเลื่อนกก่อนก็ได้ค่ะ ของกินถูกและอร่อยเพียบเลยค่ะ
จะมีวิธีการดำเนินการก่อนรักษาที่บอกไว้ตรงประตูทางเข้าค่ะ
ตู้เหลืองบัตรทองจุฬาของจขกท.
ตู้น้ำเงินผู้ป่วยทั่วไป
กดบัตรคิว มีน้องๆอาสายุวกาชาดมาช่วยด้วย น่ารักมากเลยค่ะ 😊
จขกทคนไข้เก่าเขียนกระดาษเหลือง คนไข้ใหม่เขียนกระดาษเขียวค่ะเขียนที่รอบเสากรอกข้อมูล
เสร็จแล้วก็ไปคัดกรอกอาการกับพี่ๆพยาบาลค่ะ
ถ้าเรามีสิทธิต่าง ๆ ก็ทำการเปิดสิทธิค่ะ แต่วางแผนครอบครัวจขกท.เพิ่งทราบว่าไม่ครอบคลุมนะคะ เสร็จแล้วเค้าก็จะบอกให้เราขึ้นไปตามชั้นที่เราจะตรวจค่ะ
รอขึ้นลิฟต์ค่ะ รวดเร็วและจุคนได้เยอะมากค่ะ
มาถึงชั้น 7 สุตินารีเวช และ วางแผนครอบครัว แผนกวางแผนครอบครัวอยู่ทางว้าย สูตินรีเวชอยู่ทางขวานะคะ เอาบัตรไปยื่นตรงกลางค่ะ พี่เค้าจะเอาใบของเราหนีบกับลำดับที่มายื่นรอแฟ้มประวัติมาก็รักษาได้เลยค่ะ แฟ้มมาก็ได้รักษาพอดีค่ะ 555 รออย่างใจเย็นมาก จขกท.มาจนเชี่ยวค่ะมาบ่อย ขนของมานั่งกินรอค่ะ ชิลล์
พอเราได้คิวเราก็เข้าไปคุยกับพี่พยาบาลใจดีห้อง 757 ค่ะ พี่เค้าถามเรื่องเคยคุมกำเนิดแบบไหน รุ้จักยาคุมกำเนิดไหม เคยท้องไหม เคยตรวจ pap smear หรือยังเสร็จแล้วก็ให้เข้าไปในห้องที่นั่งรอแผนกวางแผนครอบครัวค่ะพี่พยาบาลแผนกนี้ใจดีมากกก คอนเฟิร์ม
ตอนแรกเค้าจะตรวจว่าตั้งท้องไหมก่อนฝังยาคุม เค้าจะให้เราไปฉี่ใส่แก้วเล็ก ๆ มาค่ะ เสร็จแล้วก็มาตรวจภายในดูเรื่องมะเร็งปากมดลูกค่ะ มีผ้าถุงให้ใส่เพื่อถอดกางเกงในค่ะ ขึ้นขาหยั่งไม่ต้องเกร็งนะคะเดี๋ยวเจ็บ แปบเดียวเสร็จค่ะ
คือถ้ามีใบจ่ายยาก็ไปยื่นภายในชั้นและก็จ่ายเงินชั้นนี้เลยค่ะ สะดวกรวดเร็วมากๆ
เสร็จแล้วก็มาขั้นตอนการฝังยาคุมแล้วนะคะ พี่พยาบาลให้นอนและเอาของวางไว้ จขกท.เลือกแขนด้านที่ไม่ถนัดค่ะ เลยเลือกข้างซ้ายนอนบนเตียงค่ะ วันนี้มีนิสิตแพทย์มาทำให้ค่ะ 1คน ฉีดยาชา ฝังยาคุม และนิสิตแพทย์อีกคนนึงเป็นผู้ช่วยหยิบอุปกรณ์และแปะพลาสเตอร์ที่แผลให้ค่ะ โดยมีแพทย์ประจำบ้านคอยควบคุมดูแลใกล้ชิดค่ะ จขกท.ก็นอนมองที่เค้าเจาะเลยค่ะ จขกท.ผ่าตัดจนชิน นิสิตแพทย์ก็ถามค่ะหันหน้าไปอีกทางไหม หรือ ปิดตาไหม จขกท.ก็ยังยืนยันค่ะว่าอยากมอง 5555 คือจขกท.ชอบดูค่ะว่าเค้าทำอะไรกับร่างกายบ้างจะได้เปรียบเทียบว่าเหมือนที่ไปดูในยูทูปมาว่าเหมือนกันไหม 55555 ตอนแรกก็เสียวท้องนะคะ เพราะอีกเตียงนึงที่แขนเค้าเลือดออกเยอะค่ะ จขกท.ถามคือเค้ามาเอายาฝังออกค่ะ จะยากกว่าใส่เลยโล่งใจไปค่ะ 5555 ขออนุญาตนิสิตแพทย์ถ่ายคลิปแล้วค่ะ พี่เค้าบอกว่าดูในยูทูปก็ได้นะคะ เค้าคงกลัวจขกท.ดิ้นแน่เลย ก็ขั้นแรกเท่าที่จขกท.มองนะคะ แพทย์ประจำบ้านก็บอกว่าฝังควรเป็นระหว่างกล้ามเนื้อจะเป็นบุ๋มๆลงไป เค้าก็ลองจับดูค่ะ พอได้ตำแหน่ง เค้าฉีดยาชาบริเวณผิวหนังค่ะ พอชาแล้วก็ฉีดยาชาเข้าไปบริเวณใต้ผิวหนังที่จะฝังยาค่ะ ก่อนเค้าฝังเค้าจะเอาที่หนีบมาจิ้มๆแล้วถามว่าเจ็บไหมคะ เค้าจิ้มจขกทยังรู้สึกจี๊ดๆ เค้าเลยฉีดยาชาให้เพิ่มค่ะ ถ้าแทงเข็มแล้วเจ็บคงทรมานหนัก 555 ขั้นตอนต่อมานิสิตแพทย์เอาเข็มขนาดใหญ่ไส้จะเป็นรูเอาไว้เป็นทางลำเลียงของยาฝังเข้าใต้ผิวหนังค่ะ แทงเข้าไปบริเวณที่ฉีดยาไว้แล้วก็ดันยาเข้าไปค่ะ(อันเท่าไส้ปากกาลูกลื่นค่ะเล็กนิดเดียว) ไม่ต้องกลัวว่าสองแท่งจะต้องเจาะอีกรอบนะคะเพราะเจาะที่แขนรูเดียวค่ะแต่ใส่ยาสองทาง พอเค้าวางยาเสร็จในตำแหน่งที่ต้องการพี่เค้าก็กด stop bleed ห้ามเลือด และก็เอาสติ๊กเกอร์บอกตำแหน่งยามาแปะแล้วก็เอาผ้ากอซมาทับแล้วก็เอาพลาสเตอร์ใสกันน้ำมาแปะให้อีกทีคะ การปฏิบัติก็คืออาบน้ำยกแขน อาจจะมีฟกช้ำบ้าง และเอาผ้าพันให้ค่ะ ผ้าพันเอาออกวันที่3 แผ่นใสเอาออกได้วันที่7 ค่ะ วันที่7มาตรวจดูแผลการฝังอีกทีว่าเรียบร้อยไหม
เสร็จแล้วก็ออกมาหาพี่พยาบาลหน้าห้องค่ะ พี่พยาบาลน่ารักใจดีวัดความดันทำใบนัดให้ค่ะ เสร้จแล้วพี่เค้าก็จะอธิบายเรื่องสมุดประจำตัวการฝังยาคุม
เย้ เป็นอันกลับบ้านได้ค่า เรียบร้อยปลอดภัย หายกังวลไปอีก 5 ปีค่าา ระยะเวลาไปตั้งแต่เกือบ 9 โมงค่ะ เสร็จบ่ายโมงค่า
สรุปค่าใช้จ่ายนะคะ
ประมาณ 3,300 ค่ะ
ค่ายาฝัง 2,274 บาท
ค่าเวชภัณฑ์ไม่ใช่ยา 18 บาท คิดว่าค่าเข็ม
ค่าทำหัตถการและวิสัญญี 200 บาท คิดว่าค่ายาชาค่ะ
ค่าตรวจวินิจฉัยทางเทคนิคการแพทย์และพยาธิวิทยา 220 บาท คิดว่าค่าตรวจภายในค่ะ
ค่าบริการทางพยาบาล 150 บาท คิดว่าค่าตรวจฉี่ค่ะ
ค่าฝังยาคุมกำเนิด 300 บาท
ค่าอุปกรณ์ตรวจภายใน + ค่าตรวจ pap smear คิดว่าน่าจะบิล220+150
ได้ใบมาหลายใบเกินอ่ะค่ะ งงๆ งั้นรวมคร่าวๆกลมๆประมาณ 3,300 ค่ะ ขอโทษที่ไม่ทราบแน่ชัดนะคะ จขกท. เดินไปจ่ายเงินหลายรอบมาก มึนค่ะ 😵
โดยเจ้าของกระทู้ยังได้บอกอีกว่า สำหรับเด็กๆ ที่อายุไม่เกิน20ปีสามารถไปฝังยาคุมกำเนิดได้ฟรีเลยนะคะตามโครงการที่ออกมาเพื่อสนับสนุน พรบ.แม่วัยรุ่น
เพราะเลี้ยงเด็กตอนไม่มีเงินพี่ว่ามันลำบากมากเลยค่ะ ถ้าจะมีเพศสัมพันธ์ก็ป้องกันไม่เสี่ยงมีภาระตั้งแต่อายุยังน้อยค่ะ ที่พี่บอกภาระเพราะไม่ได้ตั้งใจจะมีเนาะ เช่น เผลอไปรูดบัตรเครดิตเกินวงเงินช็อปเพลินแล้วต้องใช้หนี้แบบไม่เต็มใจก็คือภาระแบบเดียวกันค่ะ ถ้าตั้งใจจะมีไว้เป็นเพื่อนตอนแก่นี่เรียกว่าลงทุนค่ะ พี่เปรียบเทียบให้เห็นภาพเนาะ >> สนใจอ่านกระทู้ฉบับเต็มได้ที่ ⇒ https://pantip.com/topic/35717531
อ่านต่อ “บทความอื่นน่าสนใจ” คลิก!
- คุมกำเนิด ที่ดีที่สุด ไม่มีในโลก จึงมีทารกน้อยเกิดมาพร้อม “ที่คุมกำเนิด” โอกาสเกิดขึ้น เพียงแค่ 0.01%
- วิธีคุมกำเนิด แบบไหนมีสิทธิภาพและปลอดภัย ถ้าแม่ยังไม่พร้อมมีลูกคนที่ 2
- นักวิจัยค้นพบ! ยาฉีดคุมกำเนิดสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ ไม่ต้องทำหมัน ประสิทธิภาพสูงเกือบ 100%
- แพทย์จุฬาชี้ วิธีใช้ “ยาคุมกำเนิด” ให้ปลอดภัย ช่วยป้องกัน “โรคมะเร็ง” บางชนิดได้
ขอขอบคุณกระทู้พันทิปดีๆ มีประโยชน์จาก คุณ A life devote to Husband