AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

เรื่องน่ารู้ โฟลิค กรดโฟลิก เริ่มกินตอนไหนถึงจะดี

เครดิตภาพ: Bipolar Network News และ Daily Mail

รู้จักกับ  โฟลิค และ กรดโฟลิก ให้มากขึ้น พร้อมคำแนะนำและวิธีการรับประทานที่ถูกต้อง

 

 

พูดถึง โฟลิค หรือ กรดโฟลิก ผู้หญิงน้อยคนนักจะไม่รู้จัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณแม่ท้องหรือผู้หญิงที่ต้องการจะตั้งครรภ์ บางท่านอาจจะรู้แต่จักแต่ชื่อและรู้ว่ามันดีอย่างไรกับแม่ท้อง ซึ่งวันนี้จะให้ดีละก็ เราจะมาทำความรู้จักกับเจ้ากรดโฟลิกนี้ให้มากขึ้นกันดีกว่าค่ะ

กรดโฟลิก คืออะไร?

จัดอยู่ในกลุ่มของวิตามินบี 9 ซึ่ง โฟลิก นั้นได้มากจากการที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้น ผิดกับ โฟเลต ที่ได้รับจากอาหารตามธรรมชาติ เป็นสารอาหารในกลุ่มวิตามินบี ที่ละลายน้ำ ซึ่งอาจอยู่ในรูปสารประกอบชนิดอื่น ๆ และมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป เช่น โฟเลต หรือ โฟลาซิน เป็นต้น โดยร่างกายจะไม่สามารถนำ กรดโฟลิค หรือ เตตราไฮโดรโฟเลต ไปใช้ได้ทันที แต่ต้องส่งต่อไปที่ตับเพื่อเปลี่ยนเป็นรูปของ กรดไดไฮโดรโฟลิค เสียก่อน จึงจะดูดซึมไปใช้ได้

หน้าที่สำคัญของวิตามินบี 9 คืออะไร?

ทั้ง โฟลิค และ โฟเลต นั้นมีบทบาทเหมือนกันนั่นก็คือ ช่วยร่างกายในการสร้างเม็ดเลือดแดง ควบคุมการทำงานของสมอง และยังมีบทบาทสำคัญในการสังเคราะห์โปรตีนอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงตั้งครรภ์ ผู้หญิงจะมีความต้องการของ ร่างกายเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นสตรีมีครรภ์จึงจำเป็นอย่างยิ่งในการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยกรดโฟลิก หรืออาจรับประทานกรดโฟลิกในรูปแบบยาเม็ดเสริมเข้าไปก็สามารถทำได้

กรดโฟลิกนั้นสำคัญเป็นอย่างมากกับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือคุณผู้หญิงที่แต่งงานแล้วและพร้อมที่จะมีทายาท แต่หลาย ๆ คนอาจจะกำลังสงสัยว่า แท้จริงแล้วเราควรทานกรดโฟลิกที่ว่านี้ตอนไหนกันแน่ ก่อนมีลูกหรือระหว่างที่กำลังตั้งท้อง วันนี้เรามีคำอธิบายเพิ่มเติมมาฝากกันค่ะ

กรดโฟลิกทานตอนไหนดี ?

 

 

การรับประทาน กรดโฟลิก ตอนไหนดี?

สำหรับคุณผู้หญิงที่พร้อมจะมีบุตรหรือกำลังท้องอยู่นั้น สิ่งแรกที่ควรเริ่มทำคือ วางแผนครอบครัวในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการมีบุตร ทั้งนี้เพื่อจะได้ทำการตรวจสุขภาพทั้งของสามีและของตัวคุณเองว่าปลอดภัยหรือมีโรคทางพันธุกรรมอะไรหรือไม่ เมื่อตรวจสอบแล้วว่าไม่มี และร่างกายพร้อม … ก็แนะนำให้เริ่มทาน โฟลิค ได้ล่วงหน้าก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 1 – 3 เดือนค่ะ และรับประทานต่อไปอีก 3 เดือนภายหลังจากที่ทราบว่าได้ตั้งครรภ์แล้ว

โฟลิค มีประโยชน์อะไรบ้าง ?

  1. ช่วยให้เจริญอาหารและสามารถแก้อาการอ่อนเพลีย
  2. ช่วยป้องกันแผลร้อนในได้
  3. ช่วยรักษาภาวะซีดหรือโลหิตจาง
  4. ทำงานออกฤทธิ์คล้ายกับยาแก้ปวด
  5. ช่วยบำรุงผิวพรรณและสุขภาพให้เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล
  6. ช่วยป้องกันพยาธิในลำไส้และอาการแพ้จากอาหารเป็นพิษ
  7. ช่วยป้องกันการพิการของเด็กทารกแรกเกิด
  8. ช่วยในการสร้างน้ำนมของมารดาภายหลังการคลอดบุตร
  9. ช่วยชะลอให้ผมขาวช้าลง หากรับประทานร่วมกับพาบาและวิตามินบี 5
  10. ช่วยลดระดับของกรดอะมิโนโฮโมซิสเทอีนในเลือด
  11. ช่วยลดอัตราความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้
  12. ช่วยแก้ปัญหาสีผิวที่ดูแล้วไม่สม่ำเสมอให้ดีขึ้นได้

อ่านคำแนะนำในการรับประทานกรดโฟลิก คลิก!

เครดิต: Health Fame

คำแนะนำในการรับประทาน กรดโฟลิก

ขนาดที่แนะนำให้รับประทานคือประมาณ 180 – 200 ไมโครกรัมต่อวัน ในสำหรับคุณแม่ท้องนั้นควรเพิ่มขนาดการรับประทาน โฟลิค เป็น 2 เท่า ส่วนหญิงให้นมบุตรควรรับประทาน 280 ไมโครกรัมในช่วง 6 เดือนแรก และ 260 ไมโครกรัมในช่วง 6 เดือนหลัง

ไม่อยากทานยาทานผักผลไม้แทนได้หรือไม่?

คำตอบคือ สามารถทำได้ด้วยการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยกรดโฟลิกที่ว่านี้ ยกตัวอย่างเช่น ไข่แดง ตับ ผักใบเขียวเข้ม แครอท คะน้า กะหล่ำปลี ปวยเล้ง หน่อไม้ฝรั่ง ผักกาดหอม ถั่วลันเตา บล็อกโคลี่ แคนตาลูป ฟักทอง อะโวคาโด และถั่ว เป็นต้น

ในปัจจุบันยังไม่พบว่ามีอาการที่เป็นพิษต่อร่างกายหากรับประทานในปริมาณมากติดต่อกัน แต่ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการผื่นแพ้ได้บ้าง และหากร่างกายมีกรดโฟลิกมากเกินไป อาจทำให้เป็นโรคโลหิตจางจากการขาดวิตามินบี 12 ไม่แสดงออกมา โดยศัตรูของ โฟลิค ได้แก่ น้ำ กระบวนการแปรรูปอาหารโดยเฉพาะการต้ม แสงแดด ความร้อน ยาในกลุ่มซัลฟา ฮอร์โมนเอสโตรเจน เป็นต้น

ในกรณีที่คุณแม่ต้องการรับประทานกรดโฟลิกแบบเม็ดละก็ หากมีโรคประจำตัวหรือว่า มียาประจำอะไรที่รับประทานเป็นประจำ แนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ก่อนนะคะ

เครดิต: Med Thai และ หาหมอ

อ่านเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids