AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

“อุ้ม” เผยร้องไห้เมื่อได้ยิน เสียงหัวใจทารกในครรภ์ ครั้งแรก

หลังประกาศข่าวดีให้แฟน ๆ ได้ร่วมยินดีกับชีวิตน้อย ๆ ที่กำลังจะมาเกิดในครอบครัว “อุ้ม ลักขณา และ บอล กฤษณะ อมิตรสูญ” วันนี้คุณอุ้ม ได้เผยลงใน Instagram ส่วนตัวถึงความรู้สึกสุดซึ้งและสุดประทับใจเมื่อได้ยิน เสียงหัวใจทารกในครรภ์ เป็นครั้งแรก

“อุ้ม” เผยร้องไห้เมื่อได้ยิน เสียงหัวใจทารกในครรภ์ ครั้งแรก

ในวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา คุณอุ้ม ลักขณา ซึ่งตั้งครรภ์ได้ 7 สัปดาห์ ได้แชร์วิดีโอแสดงถึงการอัลตร้าซาวน์เพื่อฟัง เสียงหัวใจทารกในครรภ์ พร้อมทั้งบรรยายความรู้สึกเมื่อได้ยินเสียงหัวใจลูกเป็นครั้งแรก ดังนี้

7weeks3day 🤰🏻 มันเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มากเลยเนอะ ที่ได้ยินเสียงหัวใจอีกดวงอยู่ในท้องของเรา น้ำตาไหลออกมาเองตอนได้ยินเสียงหัวใจลูกเต้น 😭😍 ความสุขของมนุษย์แม่สินะ #mamaaummypregnant

คุณอุ้ม ลักขณา ได้บรรยายถึงความรู้สึกเมื่อได้ยินเสียงหัวใจลูกเป็นครั้งแรก

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

อ่านต่อ ได้ยิน เสียงหัวใจทารกในครรภ์ ครั้งแรกเมื่อไร? ไม่ได้ยินเสียงหัวใจลูกทำอย่างไร?

ได้ยิน เสียงหัวใจทารกในครรภ์ ครั้งแรกเมื่อไร?

คุณแม่ทราบไหมคะว่า ลูกในท้องที่มีอายุเพียง 2 สัปดาห์ ก็เริ่มกระบวนการสร้างหัวใจแล้ว โดยหัวใจจะเริ่มก่อกำเนิดขึ้นนจากเซลล์สร้างหลอดเลือด และจะเริ่มเต้นในสัปดาห์ที่ 4-5 และในสัปดาห์ที่ 6 หัวใจของลูกในท้องจะเริ่มปรากฏให้เห็นได้ โดยจะมองเห็นและได้ยินได้จากการอัลตร้าซาวน์ และจะสามารถฟังเสียงหัวใจลูกเต้นผ่านเครื่องช่วยฟังได้ ในสัปดาห์ที่ 10 – 12 ค่ะ

การอัลตราซาวน์ นอกจากเป็นการตรวจสุขภาพของทารกในครรภ์ ยังสามารถฟังเสียงหัวใจลูกเต้นได้อีกด้วย

ไม่ได้ยินเสียงหัวใจลูก ทำอย่างไร?

ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนนะคะ ว่าการจะได้ฟัง เสียงหัวใจทารกในครรภ์ นั้นไม่สามารถฟังเองได้ แต่ต้องใช้เครื่องมือในการช่วยฟังเสียง ซึ่งสามารถทำได้ 2 วิธี คือ

  1. ผ่านทางการอัลตราซาวน์ทางหน้าท้อง และทางช่องคลอด สำหรับในกรณีที่อายุครรภ์น้อย ๆ นั้น แพทย์มักใช้วิธีอัลตร้าซาวด์ผ่านทางช่องคลอดเพื่อให้ได้ยินเสียงของหัวใจลูกค่ะ โดยวิธีนี้ จะสามารถทำได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 6 สัปดาห์ขึ้นไป
  2. ผ่านเครื่องช่วยฟังเสียงหัวใจทารก การฟังเสียงผ่านวิธีนี้จะสามารถได้ยินเมื่ออายุครรภ์ได้ 10-12 สัปดาห์ขึ้นไป

ดังนั้นการฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ ผ่านเครื่องช่วยฟังในอายุครรภ์ที่น้อยกว่า 10-12 สัปดาห์ ก็อาจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่ได้ยินเสียงหัวใจลูกได้ค่ะ นอกจากนี้ ยังเกี่ยวกับตำแหน่งของทารกที่อยู่ในครรภ์ ตำแหน่งของรก ชั้นไขมันของคุณแม่ที่หนาเกินไป และการนับวันแรกที่ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายคลาดเคลื่อน ก็อาจเป็นเหตุผลที่ไปรบกวนการได้ยินเสียงหัวใจเต้นของทารกในครรภ์ได้เช่นกันค่ะ

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

อ่านต่อ อัตราการเต้นของหัวใจทารกปกติต้องกี่ครั้ง?

อัตราการเต้นของหัวใจทารกปกติต้องกี่ครั้ง?

เมื่อลูกในท้องมีอายุได้ 5 สัปดาห์ หัวใจของลูกจะเริ่มเต้นในอัตราการเต้นที่เท่ากับอัตราการเต้นของแม่ โดยจะอยู่ที่ประมาณ 80-85 ครั้งต่อนาที และจะเริ่มเพิ่มความเร็วของการเต้นขึ้น 3 ครั้งต่อในนาที ในทุก ๆ วันของช่วงเดือนแรกค่ะ

อัตราการเต้นของหัวใจที่เพิ่มขึ้นนี้ จะเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่คงที่ จนแพทย์สามารถใช้อัตราการเต้นนของหัวใจมาช่วยในการวินิจฉัยต่าง ๆ เช่น การระบุอายุครรภ์ของทารกในครรภ์ อัตราการแท้งบุตร (ในกรณีที่อยู่ในภาวะนี้ อัตราการเต้นของหัวใจในทารกจะค่อย ๆ ลดลง) เป็นต้น และหากแพทย์ตรวจพบว่าการเต้นของหัวใจทารกหายไปมากกว่า 1 สัปดาห์ มักจะหมายถึงการแท้ง

และเมื่อทารกมีอายุได้ 9 สัปดาห์ อัตราการเต้นของหัวใจทารกจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 175 ครั้งต่อนาที หลังจากช่วงนี้ อัตราการเต้นของหัวใจทารกจะค่อย ๆ ช้าลงอย่างต่อเนื่อง จนถึงระดับปกติ ในช่วงกลางของการตั้งครรภ์ โดยอัตราการเต้นปกติของทารกในครรภ์จะอยู่ที่ประมาณ 120-180 ครั้งต่อนาที (เทียบได้ว่า อัตราการเต้นของัวใจทารกจะอยู่ที่ประมาณ 2 เท่าของอัตราการเต้นของหัวใจในผู้ใหญ่ขณะพัก) ตลอดการตั้งครรภ์ จนถึงช่วง 10 สัปดาห์ก่อนคลอด

ความเครียดส่งผลกระทบต่ออัตราการเต้นของหัวใจลูกได้

สิ่งที่กระทบต่อการเต้นของหัวใจและพัฒนาการของทารกในครรภ์

  1. โรคประจำตัวของแม่ท้อง ซึ่งหากเป็นโรคที่มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ก็จะส่งผลให้ทารกเติบโตช้า และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ สำหรับแม่ท้องที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ฯลฯ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการปฏิบัติตัวต่อไป
  2. การทานคาเฟอีน เหล้า บุหรี่ รวมถึงควันบุหรี่มือสอง ก็เป็นอีกสาเหตุให้ทารกในครรภ์หยุดการพัฒนา หัวใจเต้นช้าลงได้ นอกจากนี้ สิ่งเหล่านี้ยังมีผลต่อการพัฒนาการของสมองอีกด้วย ดังนั้น แม่ท้องจึงควรทานโฟลิกแทนการทานอาหารเหล่านี้ค่ะ
  3. ความเครียด มีผลต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ได้ ดังนั้น แม่ท้องควรทำจิตใจให้สบาย อย่ากังวลว่าการที่ไม่ได้ยินเสียงหัวใจลูก นั่นหมายถึงการแท้ง เพราะยังมีหลายปัจจัยที่ทำให้ไม่ได้ยินเสียงได้ค่ะ
  4. การนอนและการทานอาหาร ก็มีผลกระทบต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้เช่นกันนะคะ เพราะหากแม่ท้องทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ไม่ออกกำลังกาย พักผ่อนไม่เพียงพอ ก็อาจเป็นเหตุผลให้หัวใจลูกเต้นช้าลงได้เช่นกันค่ะ

คุณแม่ทุกคนมักจะจำ ความรู้สึกเมื่อได้ยินเสียงหัวใจลูกเต้นเป็นครั้งแรกได้ เพราะเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่ายังมีอีก 1 ชีวิตอยู่ในท้อง และ หนูกำลังแข็งแรงดีนะ แต่การฟังเสียงหัวใจลูกเต้น เพียงอย่างเดียว ไม่ได้บ่งบอกถึงสุขภาพที่ดีของทารกได้เสมอไป แพทย์จะคอยตรวจดูในด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น อัตราการดิ้น ขนาดของทารกในครรภ์ เป็นต้น

อ่านต่อบทความดี ๆ ได้ที่นี่

7 สัญญาณ อันตรายระหว่างตั้งครรภ์ ที่แม่ท้องต้องรีบหาหมอ

15 อาหารที่มีโฟเลตสูง ที่แม่ท้องและลูกในท้องควรทาน

แม่ตั้งครรภ์ เป็นโรคหัวใจ อันตรายกว่าที่คิด

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : honestdocs.co

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids