การรู้สึกว่าลูกในท้องดิ้นเป็นครั้งแรก เป็นวินาทีสุดมหัศจรรย์ที่แม่ท้องทุกคนต่างเฝ้ารอ เพราะนั่นหมายถึงว่ามีชีวิตน้อย ๆ อยู่ในท้องของเรา และลูกกำลังบอกเราว่ากำลังมีความสุขดีและจะออกมาลืมตาดูโลกเมื่อพร้อมนะ ลูกดิ้นตอนกี่เดือน คำถามสุดฮิตที่แม่ท้องสงสัย ทำไมแม่ท้องคนอื่นถึงรับรู้ได้แล้วว่าลูกดิ้น ทำไมลูกต้องดิ้น ต้องการจะบอกอะไร ลูกดิ้นเบาหรือลูกไม่ดิ้น น่ากังวลไหม จริง ๆ แล้ว ลูกดิ้นตอนกี่เดือน และแม่ท้องรับรู้ว่า ลูกดิ้นตอนกี่เดือน ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีคำตอบค่ะ
ลูกดิ้นตอนกี่เดือน ลูกดิ้น สัญญาณสำคัญที่แม่ท้องต้องรู้
ลูกดิ้นตอนกี่เดือน และมีอาการเป็นอย่างไร?
แล้ว ลูกดิ้นตอนกี่เดือน กันล่ะ? ในความเป็นจริงแล้ว ลูกเริ่มดิ้นตั้งแต่คุณแม่มีอายุครรภ์ประมาณ 6-7 สัปดาห์แล้วล่ะค่ะ แต่แม่ท้องจะยังไม่รู้สึกหรือรับรู้ว่าลูกดิ้นหรอกค่ะ นั่นเป็นเพราะขนาดมดลูกยังเล็กอยู่ ปริมาณน้ำคร่ำยังมีน้อย และแรงดิ้นของลูกยังเบาเกินไปจนไม่สามารถส่งผ่านไปยังผนังหน้าท้องให้คุณแม่รู้สึกได้ หรือเพราะลูกยังตัวเล็กอยู่ และในโพรงมดลูกของแม่ก็ยังมีช่องว่างมากพอที่จะให้เขากลับตัวไปมาได้อย่างสบาย ๆ โดยไม่กระทบกับผนังมดลูกก็เป็นไปได้เช่นกัน คุณแม่จึงไม่ได้รับรู้ถึงการดิ้นของลูกในท้องในช่วงนี้
เมื่อเข้าสู่การตั้งครรภ์ในสัปดาห์ที่ 16-20 ของการตั้งครรภ์ คุณแม่จะเริ่มรู้สึกว่ามีอะไรมาตอดที่ท้อง แต่การรับรู้ว่าลูกในท้องดิ้นของแม่ท้องแต่ละคน อาจจะไม่ตรงกันนะคะ ในแม่ท้องบางคนอาจจะรับรู้ได้ก่อน 16 สัปดาห์ และแม่ท้องบางคนรับรู้ว่าลูกดิ้นในสัปดาห์ที่ 20 ซึ่งสาเหตุที่แม่ท้องเริ่มรู้สึกว่าลูกดิ้นไม่ตรงกัน เป็นเพราะสาเหตุต่อไปนี้ค่ะ
ปัจจัยที่ทำให้แม่ท้องรับรู้การดิ้นครั้งแรกของลูกเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับ
- ท้องแรกหรือท้องหลัง หากเป็นแม่ท้องแรกจะรับรู้การดิ้นครั้งแรกของลูกได้ได้ช้ากว่าท้องหลัง นั่นเป็นเพราะประสบการณ์นั่นเองค่ะ ในแม่ท้องหลัง จะรู้ว่าสัญญาณใดคือลูกดิ้น สัญญาณใดคือการเคลื่อนตัวของลมในท้องเท่านั้น
- ตำแหน่งของรก ถ้าตำแหน่งของรกอยู่ด้านหน้าของมดลูก จะทำให้มีชั้นที่กั้นระหว่างท้องของแม่กับลูกในท้องเยอะ จึงต้องใช้เวลามากขึ้นในการรับรู้ว่าลูกดิ้น หรือจนกว่าลูกจะเจริญเติบโตขึ้นแล้วมีแรงดิ้นมากขึ้นนั่นเอง
- ปริมาณน้ำคร่ำที่อยู่รอบตัวลูก ถ้าลูกมีปริมาณน้ำคร่ำน้อย แม่ท้องก็จะไม่ค่อยรู้สึกว่าลูกดิ้นมากนัก
- ผนังหน้าท้อง สำหรับแม่ท้องที่มีผนังหน้าท้องหนา ก็จะรับรู้การดิ้นครั้งแรกของลูกได้ช้ากว่าแม่ท้องที่ผนังหน้าท้องบาง
สำหรับแม่ที่ท้องในช่วงสัปดาห์ที่ 16-20 เราจะยังไม่ทราบชัดเจนว่า การที่ยังไม่รับรู้การดิ้นครั้งแรกของลูกนั้น เป็นเพราะปัจจัยที่เกิดจากแม่หรือลูกกันแน่ จึงไม่ควรฟันธงว่าลูกผิดปกติจึงไม่ดิ้น ด้วยสาเหตุนี้ จึงควรดูก่อนค่ะ ว่าลักษณะการดิ้นของลูกในแต่ละสัปดาห์มีลักษณะใดบ้าง
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ ลูกดิ้นตอนกี่เดือน ลักษณะการดิ้นของลูกแต่ละช่วงวัยเป็นอย่างไรบ้าง
ลักษณะการดิ้นของทารกในครรภ์แต่ละช่วงสัปดาห์
- สัปดาห์ที่ 16-19 การรับรู้การดิ้นของลูกจะยังไม่ชัดเจน เพราะแม่ท้องจะยังแยกไม่ค่อยออกว่าเป็นเพราะลมในกระเพาะหรือเป็นเพราะลูกดิ้น (สำหรับแม่ท้องสองขึ้นไปนั้น จะมีประสบการณ์ในการแยกแยะแล้วว่าลักษณะไหนเป็นการดิ้นของลูก จึงรับรู้การดิ้นครั้งแรกของลูกได้เร็วกว่า)
- ในสัปดาห์ที่ 20-23 การดิ้นของลูกในท้องจะเริ่มชัดเจนขึ้น แม่ท้องจะเริ่มรับรู้การเคลี่ยนไหวเบา ๆ ภายในท้อง ซึ่งอาจจะเกิดจากการสะอึก เตะ หมุนตัว ตีลังกา แม่ท้องจะรู้สึกว่าลูกดิ้นบ่อยและแรงในช่วงที่คุณแม่กำลังผ่อนคลายหรือหลังจากการทานอาหาร (นั่นหมายถึงลูกกำลังมีความสุขอยู่นั่นเองค่ะ)
- สัปดาห์ที่ 24-28 ในช่วงวัยของทารกในท้องช่วงนี้ จะมีของเหลวในถุงน้ำคร่ำเพิ่มขึ้น ทำให้ลูกในท้องมีพื้นที่ที่จะซนมากขึ้น ทำให้แม่ท้องรู้สึกได้ว่าทำไมในช่วงนี้ลูกถึงดิ้นบ่อยขึ้น
- ช่วงสัปดาห์ที่ 29-31 การดิ้นของลูกในช่วงนี้จะสม่ำเสมอและคงที่ ชัดเจนและแรงมากขึ้น สำหรับเจ้าหนูนักสู้ ก็จะเริ่ม เตะและต่อยแรงขึ้น ในช่วงอายุครรภ์ช่วงนี้เป็นต้นไป คุณหมอจะเริ่มให้คุณแม่เริ่มนับจำนวนครั้งที่ลูกดิ้นแล้ว ซึ่งการนับลูกดิ้นในช่วงอายุครรภ์ช่วงนี้ มีประโยชน์เป็นอย่างมากสำหรับการประเมินสุขภาพของลูกในท้อง
- สัปดาห์ที่ 32-35 เป็นช่วงเวลาสนุกของแม่ท้องเลยล่ะค่ะ เพราะลูกจะดิ้นบ่อยที่สุดในช่วงนี้
- สัปดาห์ที่ 36-40 ช่วงนี้เป็นช่วงใกล้คลอดแล้ว ลูกจะเริ่มเอาหัวลงกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานของแม่เพื่อเตรียมพร้อมที่จะคลอดแล้ว และลูกก็จะมีขนาดใหญ่มากขึ้น ทำให้มีพื้นที่ในการดิ้นแคบลง ดังนั้นลูกจึงดิ้นน้อยลงในช่วงนี้ แต่ทุกครั้งที่ดิ้น แม่ท้องจะรับรู้ได้อย่างชัดเจน และในบางครั้งด้วยขนาดตัวที่ใหญ่ การดิ้นของลูกในช่วงนี้อาจจะทำให้คุณแม่รู้สึกไม่สบายตัวหรือเจ็บได้
ลูกดิ้นกี่ครั้งต่อวัน
โดยปกติแล้วลูกจะดิ้นประมาณ 200 ครั้งต่อวัน เมื่แม่ท้องมีอายุครรภ์ประมาณ 20 สัปดาห์ และลูกจะดิ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมีการพัฒนาระบบประสาทและกล้ามเนื้ออย่างต่อเนื่อง จนลูกสามารถดิ้นได้สูงสุดเมื่อแม่ท้องมีอายุครรภ์ประมาณ 30-32 สัปดาห์ ซึ่งอัตราการดิ้นอาจสูงถึง 375-700 ครั้งต่อวัน แต่หลังจากนั้นลูกจะดิ้นน้อยลง เนื่องจากลูกตัวโตขึ้นจนเต็มโพรงมดลูก ทำให้มีพื้นที่ในการดิ้นน้อยลง
6 วิธีดี๊ดีในการนับลูกดิ้น
การจดบันทึกว่าลูกดิ้นไปกี่ครั้งแล้วใน 1 วันเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการนับลูกดิ้น แต่ในความเป็นจริง จะให้แม่ท้องมาจดบันทึกตลอดเวลานั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะหากแม่ท้องที่ต้องทำงาน ในช่วงเวลาที่กำลังตั้งใจทำงานอยู่นั้นอาจจะไม่ทันรู้สึกว่าลูกกำลังดิ้นอยู่ ดังนั้นคุณหมอจึงมีหลักในการจดบันทึกลูกดิ้นอยู่ 6 วิธีด้วยกัน ดังนี้
- จดบันทึกจำนวนครั้งที่ลูกดิ้นตลอด 24 ชั่วโมง หรือจดบันทึกจำนวนครั้งที่ลูกดิ้นในช่วงที่คุณแม่ตื่น คือ ช่วง 9 โมงเช้า จนถึงบ่าย 3 โมงเย็น วิธีนี้ในทางปฏิบัติ คุณแม่มักจะไม่ค่อยสะดวกมากนัก
- จดบันทึกจำนวนครั้งที่ลูกดิ้นหลังแม่ท้องทานอาหารอิ่มใหม่ ๆ ซึ่งในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่แม่ท้องจะมีน้ำตาลในเลือดสูง จึงทำให้ลูกได้รับพลังงานมากขึ้นและดิ้นบ่อยเป็นพิเศษ โดยภายใน 1 ชั่วโมง หลังมื้ออาหารลูกควรดิ้นไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง เมื่อรวมกัน 3 มื้อใน 1 วัน ลูกจึงควรดิ้นรวมกันต้องมากกว่า 10 ครั้งต่อวัน หากหลังมื้ออาหารใดมื้ออาหารหนึ่ง ลูกดิ้นน้อยกว่า 3 ครั้งใน 1 ชั่วโมง ให้นับต่ออีก 1 ชั่วโมง และหากยังน้อยกว่า 3 ครั้งอีก ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน วิธีนี้เป็นวิธีที่คุณหมอนิยมใช้ เพราะช่วงเวลาหลังมื้ออาหาร แม่ท้องจะได้พักผ่อนและผ่อนคลาย ทำให้สะดวกในการสังเกตุลูกดิ้น
- ให้นับลูกดิ้นหลังมื้ออาหารเช่นกัน แต่จะต้องดิ้นอย่างน้อย 4 ครั้งต่อมื้อ (ไม่น้อยกว่า 12 ครั้งต่อวัน) หากลูกดิ้นน้อยกว่า 4 ครั้งใน 1 ชั่วโมงหลังมื้ออาหารมื้อใด ให้นับต่อไปจนครบ 6 ชั่วโมง หากยังน้อยกว่า 4 ครั้งใน 6 ชั่วโมงอีก หรือรวมแล้วลูกดิ้นน้อยกว่า 12 ครั้งต่อวัน ให้รีบมาพบแพทย์โดยด่วนเช่นกัน
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ ลูกดิ้นตอนกี่เดือน 6 วิธีดี๊ดีในการนับลูกดิ้น
4. นับลูกดิ้นในช่วงเวลาว่างของคุณแม่ ถ้าใน 1 ชั่วโมงลูกดิ้นเกิน 3 ครั้งถึอว่าปกติดี
5. ใช้เวลา 10-12 ชั่วโมงในการนับว่าลูกดิ้นมากกว่า 10 ครั้งหรือเปล่า หากเกิน 10 ครั้งก็ยังถือว่าปกติดี โดยวิธีการนับแบบนี้ควรนับในช่วงเช้าถึงเย็น
6. นับว่าภายใน 2 ชั่วโมง ลูกดิ้นมากกว่า 10 ครั้งหรือไม่ ถ้าเกินก็ถือว่าปกติ
ลูกดิ้นมาก
หากลูกดิ้นมากมาตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ถือว่าผิดปกติหรือเป็นอันตรายค่ะ แต่ถ้าหากลูกในท้องซึ่งปกติแล้วไม่ได้ดิ้นบ่อยขนาดนี้ อยู่ ๆ ก็ดิ้นแรงมากอยู่ช่วงหนึ่งแล้วก็หยุดดิ้นไปเลย ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วนที่สุดเลยนะคะ แต่ลักษณะการดิ้นแบบนี้ ไม่ใช่อยู่ ๆ ก็เป็นขึ้นมานะคะ ปกติแล้วจะมีสาเหตุที่แสดงออกมาก่อนที่ลูกจะดิ้นผิดปกติ เช่น แม่ท้องมีโรคหรือความผิดปกติอื่น ๆ ที่กำลังรักษาอยู่ เป็นต้น
ลูกดิ้นน้อย
เกณฑ์ในการนับว่าลูกดิ้นน้อยลง คือหากยังดิ้นเกิน 10-12 ครั้งต่อวัน ก็ยังถือว่าปกติ หรือสาเหตุที่ลูกดิ้นน้อยลงไม่ได้มีความอันตรายใด ๆ เช่น การดิ้นของลูกในท้องที่อยู่ในช่วง 36-40 สัปดาห์ ซึ่งมีพื้นที่ให้ดิ้นแคบลงจึงดิ้นน้อยลง หรือ ลูกกำลังหลับอยู่ เป็นต้น แต่ถ้าลูกดิ้นน้อยกว่านี้ ให้รีบไปพบคุณหมอทันทีค่ะ ไม่จำเป็นต้องรอให้ลูกหยุดดิ้น เพราะอาจจะสายเกินไปค่ะ
สาเหตุของสัญญาณอันตรายหากลูกดิ้นน้อย(กว่า 10 ครั้งต่อวัน) หรือหยุดดิ้น
อย่างที่กล่าวไว้ว่าการนับลูกดิ้นเป็นส่วนช่วยในการประเมินว่าลูกในท้องยังปกติดีอยู่หรือไม่ หากแม่ท้องพบว่าลูกหยุดดิ้นหรือดิ้นน้อยกว่า 10 ครั้งต่อวัน นั้นถือว่าเป็นสัญญาณที่อันตรายแล้วค่ะ เรามาดูสาเหตุที่ทำให้ลูกหยุดดิ้นหรือดิ้นน้อยลงมากกันดีกว่าค่ะ เพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงตัวการที่อาจจะทำให้ลูกหยุดดิ้นได้ค่ะ
- แม่ท้องเครียดมากเกินไป อารมณ์ของแม่ท้องนั้นมีความสัมพันธ์กับลูกในท้อง หากแม่เครียดมากจนเกินไป ก็อาจทำให้ลูกดิ้นน้อยลงได้
- แม่ท้องไม่ได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ สารอาหารที่แม่ท้องควรได้รับในแต่ละวันนั้นส่งผลต่อการเจริญเติบโตของลูกในท้องเป็นอย่างมาก หากแม่ท้องได้รับสารอาหารไม่เพียงพอก็จะส่งผลต่อสมองและระบบประสาทของลูกในท้อง ทำให้ลูกดิ้นได้น้อยลง
- รกเสื่อม รกเป็นอวัยะสำคัญของลูกในท้องในการรับสารอาหาร เลือด และ ออกซิเจน หากรกเสื่อม ก็จะทำให้ลูกได้รับสิ่งเหล่านี้ได้น้อยลง ส่งผลให้ลูกในท้องหยุดการเจริญเติบโต ทำให้ลูกหยุดดิ้นหรือดิ้นน้อยลง
- ถุงน้ำคร่ำรั่วหรือแตกก่อนกำหนดคลอด การที่น้ำคร่ำน้อยลงหรือหมดลง ส่งผลให้ลูกได้รับออกซิเจนได้น้อยลง จึงทำให้ลูกเครียดและดิ้นน้อยลงหรือหยุดดิ้นได้
- รกพันคอหรือรกถูกมัดเป็นปมจนผิดรูป จึงทำให้ออกซิเจนถูกส่งไปที่ลูกในท้องได้น้อยลง
การดิ้นของลูก ไม่เพียงแต่เป็นการทำให้ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ตื้นเต้นและเชื่อมปฏิสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวเท่านั้น แต่ประโยชน์ของการดิ้นในทางการแพทย์ นั่นหมายถึงสุขภาพที่แข็งแรงของลูกในท้อง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ทุกคนจึงควรให้ความสำคัญกับการนับลูกดิ้นด้วยนะคะ
อ่านบทความที่น่าสนใจต่อได้ที่นี่
คนท้องอารมณ์อ่อนไหว มีผลกับลูกในท้องอย่างไร
น้ำเดิน หรือ น้ำคร่ำแตก อาการเป็นแบบไหน? และควรทำอย่างไร!!
10 วิธีกระตุ้นให้ลูกดิ้น ต้องเล่นกับลูกในท้อง
10 อาหารที่คนท้องควรกิน พร้อมเมนูอร่อยสำหรับแม่และลูก
ขอบคุณข้อมูลจาก : pobpad, medthai, Mom Junction
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่