สำหรับคุณแม่ที่คลอดลูกแบบธรรมชาติ หลังจากคลอดเสร็จ คุณหมอจะทำการเย็บบริเวณทวารหนักถึงช่องคลอดหลังจากที่มีการฉีกขาดขณะเบ่งคลอดลูก หรือที่แพทย์กรีดฝีเย็บเพื่อป้องกันการฉีกขาดระหว่างคลอดกลายเป็น แผลฝีเย็บ อาจทำให้คุณแม่เจ็บบริเวณช่องคลอด การดูแลตัวเองหลังคลอดจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ฝีเย็บ คือบริเวณที่อยู่ระหว่างรูเปิดของทวารหนักกับรูเปิดของช่องคลอด องค์ประกอบหลักในฝีเย็บคือไขมันและกล้ามเนื้อซึ่งมักจะฉีกขาดเวลาคลอดลูก ซึ่งแผลเย็บจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อทารกได้คลอดออกมาแล้ว โดยจุดประสงค์หลักของการตัดฝีเย็บก็เพื่อที่จะเพิ่มความกว้างของช่องทางคลอด ช่วยลดระยะเวลาในระยะคลอด และป้องกันการฉีกขาดเองของฝีเย็บ
การตัดและเย็บฝีเย็บ
ในการคลอด แพทย์จะทำการตัดฝีเย็บเพื่อช่วยขยายทางออกของทารก ฝีเย็บมักจะถูกตัดเมื่อศีรษะทากรกโผล่ทางช่องคลอด แพทย์จะใช้กรรไกรตัดบริเวณฝีเย็บอย่างน้อย 45 องศาจากกึ่งกลาง เป็นวิธีที่นิยมใช้ทั่วไป เนื่องจากเป็นวิธีที่เพิ่มความกว้างของช่องทางคลอดได้มากที่สุดเมื่อการคลอดเสร็จสมบูรณ์แพทย์จะทำการเย็บปิดแผล
และนั่นก็แปลว่าคุณแม่ได้ทำภารกิจอันยิ่งใหญ่สำเร็จแล้ว งานต่อไปคือการดูแลให้แผลที่เย็บไว้หายเร็วขึ้นโดยการทำตามคำแนะนำต่อไปนี้ค่ะ
อ่านต่อ >> “วิธีการดูแลฝีเย็บของคุณแม่หลังคลอดด้วยตนเอง” คลิกหน้า 2
วิธีการดูแลฝีเย็บของคุณแม่หลังคลอดด้วยตนเอง
ทำความสะอาด การทำความสะอาดบริเวณแผลฝีเย็บ ให้คุณแม่ใช้สำลีชุบน้ำอุ่นทำความสะอาดโดย “เช็ดลงล่างทางเดียวทิ้ง”ความหมาย คือคุณแม่ต้องเช็ดทำความสะอาดเริ่มจากช่องคลอด แล้วเช็ดลากอย่างเบามือไปทางทวารหนัก ห้ามย้อนศรเด็ดขาด ถ้าเช็ดย้อนขึ้นเชื้อโรคจากทวารหนักอาจเข้าไปในแผล การเช็ดแผลควรทำทีเดียวแล้วทิ้งเลย ไม่ใช้ก้อนสำลีเดิมที่เช็ดแล้ว มาเช็ดวนซ้ำเรื่อยๆ แทนที่จะสะอาด กลับกลายว่านำเอาเชื้อโรคกลับเข้าไปในแผลอีก
เรื่องการอาบน้ำ เวลาอาบน้ำหากแผลโดนน้ำก็ไม่มีปัญหาค่ะ สามารถล้างด้วยน้ำเปล่าได้โดยให้น้ำรินไหลผ่าน แต่ห้ามเอาหัวฉีดล้างชำระ หรือใช้ฝักบัวล้างโดยตรง เพราะแรงดันของน้ำจะทำให้แผลเปิดแยกออกจากกันได้ แถมอาจทำให้เชื้อโรคเข้าไปสู่ส่วนลึกๆของแผลได้อีกด้วย หลังอาบน้ำเสร็จก็เช็ดให้แห้ง แล้วใส่ผ้าอนามัยไว้ให้เรียบร้อย
น้ำคาวปลา ช่วงหลังคลอดจะมีน้ำคาวปลาไหลซึมอออกมาทางช่องคลอด ซึ่งน้ำคาวปลาจะหมดภายใน 3-4 สัปดาห์ คุณแม่ควรใส่ผ้าอนามัยไว้ตลอดเพื่อป้องกันการเลอะเปื้อน และต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยให้บ่อยครั้งที่สุด ควรให้แผลแห้งอยู่ตลอดเวลา อย่าให้แผลแฉะชื้น หมักหมมจากการไม่เปลี่ยนผ้าอนามัย เพราะจะทำให้แผลอักเสบได้ง่าย
รู้สึกตึงแผล อย่ากังวลหากคุณแม่หลังคลอดรู้สึกว่าแผลบริเวณที่เย็บนั้นตึง นั่นเป็นเพราะว่าแพทย์ทำการเย็บแผลได้กระชับดี ทั้งนี้เมื่อรู้สึกตึงที่แผล ควรขยับตัวด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์หลังคลอด ควรรอให้น้ำคาวปลาหรือเลือดคล้ายประจำเดือนที่ออกมาหลังคลอดหมดเสียก่อน โดยทั่วไปแล้วจะหมดและหายไปประมาณ 3-4 สัปดาห์หลังคลอด ในช่วงนี้มดลูกยังคงมีบาดแผลจากการคลอดรก หากคุณมีเพศสัมพันธ์ก่อนที่น้ำคาวปลาจะหมด ก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ หรือแผลฝีเย็บฉีกขาดได้
ท่าทางเดินของคุณแม่หลังคลอด แนะนำให้คุณแม่เดินขาแยกออกจากกันเล็กน้อย เพราะแผลจะอยู่ตรงกลางระหว่างขาพอดี ถ้าเดินหนีบๆ แผลจะเสียดสีกันได้ เวลาเดินต้องค่อยๆ ลงน้ำหนักเท้าและเดินด้วยความระมัดระวัง หลังจาก 7 วันแผลก็จะค่อยๆ หายสามารถกลับมาเดินท่าปกติได้ค่ะ ท่องให้ขึ้นใจค่ะว่าการเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ เป็นการขยับตัวของกล้ามเนื้อจะทำให้แผลและฝีเย็บหายได้เร็วขึ้น ไม่ต้องกลัวแผลปริแยก
ระยะเวลารักษาแผล ปกติแผลฝีเย็บจะหายเจ็บค่อนข้างเร็ว คุณแม่อย่ากังวลใจไปนะคะ ความเจ็บถ้าวัดกันเป็นตัวเลขได้ก็จะเจ็บน้อยลงวันละ 30%วันแรกคุณแม่อาจเจ็บ 100% วันที่สองลดลง 70% วันที่สามดีมาหน่อยเจ็บ 40% วันที่สี่ความเจ็บลดน้อยลงเหลือเพียง 10% วันต่อมาความเจ็บก็จะหายไปเอง แต่ถ้าหากเวลาผ่านไปนานหลายวันแล้วคุณแม่ยังเจ็บแผล และแผลนั้นเพิ่มความเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นแสดงว่าเกิดการผิดปกติบางอย่างกับแผลของคุณแม่แล้วนะคะ อย่าชะล่าใจ ควรรีบไปพบแพทย์ค่ะ
ทำอย่างไรให้แผลสมานตัวเร็วขึ้นหลังคลอดลูก?
- อย่าทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากนัก ขยับตัวลุกนั่ง เดินด้วยความระมัดระวัง
- หมั่นขมิบช่องคลอดบ่อยๆ เพื่อช่วยให้เลือดไหลไปเลี้ยงในบริเวณนั้นมากขึ้นและกระตุ้นการสมานแผล
- รักษาความสะอาดและคอยดูแลให้แผลแห้งอยู่สม่ำเสมอ
- เลือกใช้ผ้าอนามัยที่มีผิวสัมผัสแบบนุ่ม ระวังอย่าให้ผ้าอนามัยที่ใช้เสีียดสีกับแผลจนเกินไป ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ เพื่อลดความเปียก และอับชื้นของแผล
- เวลาเจ็บแผลมากๆ คุณแม่สามารถทานยาพาราเซตามอลได้ แต่ถ้าทานยาแล้วไม่ดีขึ้น ให้คุณแม่ใช้เจลประคบเย็น หรือผ้าห่อน้ำแข็งประคบไว้บริเวณแผลได้ แต่ต้องไม่เกินครั้งละ 2-3 นาที ความเย็นจะช่วยลดอาการบวม แต่หากนานเกินไปก็จะทำให้เลือดมาเลี้ยงบริเวณแผลน้อยลง
- คุณแม่ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างสม่ำเสมอ เน้นอาหารที่มีกากใยสูงและดื่มน้ำมากๆ เพื่อไม่ให้ท้องผูก
แนะนำเพิ่มเติม
หลังคลอด การสังเกตแผลฝีเย็บเป็นเรื่องที่แม่ ๆ ควรใส่ใจ หากแผลฝีเย็บมีอาการบวมแดง แผลแยกออกจากกัน มีเลือดไหล หรือรู้สึกตึงปวดและมีอาการไข้ร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณว่า แผลเกิดการอักเสบ ควรไปรีบพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาทันทีค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.medicine.cmu.ac.th , www.iammomsociety.com/