AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

อาการท้องไม่รู้ตัว เป็นไปได้จริงหรือ! จะรู้ได้อย่างไรว่ากำลังตั้งครรภ์?

อาการท้องไม่รู้ตัว

ผู้หญิงส่วนใหญ่โดยเฉพาะว่าที่คุณแม่ยังสาวในท้องแรกอาจมักไม่รู้ว่าตัวเองกำลังตั้งท้อง อาการท้องไม่รู้ตัว เกิดขึ้นได้ตั้งแต่ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์หรือจนกระทั่งคลอดก็ยังไม่รู้ตัวว่าท้อง เป็นไปได้จริงหรือ มาหาคำตอบกันค่ะ

อาการท้องไม่รู้ตัว เป็นไปได้จริงหรือ!

ได้มีสูตินรีแพทย์ออกมายืนยันแล้วว่า “อาการท้องไม่รู้ตัว” สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยหรือบางคนไม่มีอาการใด ๆ ทำให้ว่าที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ไม่สงสัยหรือรู้ว่าตัวเองกำลังตั้งท้องอยู่ในช่วงแรก และใช้ชีวิตประจำวันปกติ โดยจะเริ่มรู้ตัวว่าท้องเมื่อเข้าสู่ช่วงสัปดาห์ที่ 6 แล้วบางรายพบว่ากว่าจะรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ก็เมื่อมีอาการเจ็บท้องคลอดลูกแล้วได้ ทั้งนี้ ดร.ไบรอัน จิก สูตินรีแพทย์และผู้ก่อตั้งคลินิกด้านการผดุงครรภ์ Fair Oaks Women’s Health ในสหรัฐอเมริกา ได้ระบุว่าสถิติพบว่า ผู้หญิง 1 ใน 500 ราย ไม่รู้ว่าตัวเองท้องจนกระทั่งตั้งครรภ์ได้ประมาณ 5 เดือน และจำนวน 1 ใน 7,200 ราย ไม่รู้ตัวว่าท้องจนกระทั่งเจ็บท้องคลอดลูกออกมา

ท้องไม่รู้ตัวเกิดขึ้นได้ เป็นเพราะสาเหตุใด?

ศ. นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ได้เคยให้ความรู้เกี่ยวกับแม่ท้องไม่รู้ตัวผ่านทาง เดลินิวส์ออนไลน์ ไว้ว่า ท้องไม่รู้ตัวเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ หากฝ่ายหญิงไม่ใส่ใจการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย โดยสาเหตุของอาการที่คุณแม่ไม่รู้ตัวว่าตั้งครรภ์อาจเกิดขึ้นได้จากการไม่ได้สังเกตอาการเหล่านี้ เช่น

ไม่ทันได้สังเกตอาการผิดปกติของร่างกายที่เกิดขึ้นได้เมื่อตั้งครรภ์

อาการที่แสดงออกว่ากำลังท้องหรือกำลังตั้งครรภ์ของว่าที่คุณแม่แต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไป โดยในช่วงระยะสัปดาห์แรกนั้น ว่าที่คุณแม่บางคนนั้นอาจไม่มีอาการแสดงออกเลยจนไม่ได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเลยไม่รู้ตัวว่าตั้งท้อง ในบางรายอาจจะคิดไปว่าตัวเองอ้วนขึ้นจึงทำให้ไม่เกิดความสงสัยว่ากำลังตั้งท้อง นอกจากนี้ในแม่ท้องบางคนอาจไม่มีอาการแพ้ใด ๆ หรือมีอาการเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยจนทำให้คิดว่าเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น ความเครียด โรคกระเพาะ หรือว่าพักผ่อนน้อย จึงไม่ได้คิดว่าตนเองตั้งครรภ์ ซึ่งอาการแพ้ท้องต่าง ๆ นั้นจะเกิดขึ้นเพียงช่วง 3-4 เดือนแรกแล้วก็หายไป หรือในระยะอายุครรภ์ 4-5 เดือนแรก ที่คุณแม่ตั้งครรภ์จะรู้สึกได้ว่าลูกในท้องดิ้นหรือมีการขยับตัว แต่กับคุณแม่ท้องบางรายที่ไม่เคยมีลูกมาก่อนอาจไม่รู้สึกถึงอาการของลูกดิ้นในท้อง หรือเข้าใจว่าเป็นอาการผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร ปัญหาลำไส้ ยิ่งไม่มีอาการอื่นแทรกซ้อน จึงไม่คิดว่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น ทั้งนี้จึงสามารถเป็นไปได้ว่าตลอด 8-9 เดือนคุณแม่อาจจะไม่รู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ กว่าจะรู้ตัวอีกทีเมื่อมีอาการเจ็บท้องคลอดก็เป็นได้

ประจำเดือนที่ขาดไป

แม้ว่าประจำเดือนขาด ไม่มาตามรอบเดือนปกติ จะเป็นอาการเริ่มแรกที่บ่งบอกได้ว่ามีการตั้งครรภ์ แต่ประจำเดือนไม่มาก็ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการตั้งครรภ์เสมอไป อาจมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ประจำเดือนไม่มาตามปกติได้ เช่น น้ำหนักตัวที่ลดลงมากจนเกินไป ความผิดปกติของฮอร์โมน เหนื่อยล้าหรือความเครียด รวมถึงการกินยาคุมกำเนิด เป็นต้น ทั้งนี้การไม่สังเกตหรือไม่ได้ใส่ใจกับการเปลี่ยนแปลงของตัวเองว่าประจำเดือนไม่มาอาจไม่มีความผิดปกติใดใด หรือบางคนที่มีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่แล้ว เช่น มีภาวะประจำเดือนขาด ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอหรือมาช้าอยู่แล้ว จึงไม่ทันได้คิดว่าตัวเองตั้งท้อง

ขนาดท้องที่เล็กมาก

ว่าที่คุณแม่บางรายเมื่อตั้งท้องแล้วมีขนาดของท้องที่โตขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่มีอาการหน้าท้องขยายเหมือนคนท้อง จึงดูไม่ออกหรือคิดว่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น หรือคิดไปว่าเป็นเพราะกินมากไปจนทำให้น้ำหนักขึ้น อ้วนขึ้น  หรือบางรายเป็นคนอ้วนอยู่แล้วจึงทำให้ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังท้องก็เป็นได้

ใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์แต่ไม่พบว่าท้อง

เมื่อรู้สึกว่ามีอาการแปลก ๆ หรือสัญญาณผิดปกติของร่างกายที่เปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การตั้งครรภ์ การเช็กว่าท้องด้วยตนเองจากชุดทดสอบการตั้งครรภ์ก็จะทำให้รู้ได้แน่ชัดขึ้นกว่าเดิมว่าท้องหรือไม่ท้อง ซึ่งวิธีนี้จะมีความแม่นยำมากถึง 90% แต่ในบางกรณีก็อาจตรวจพบค่าที่แสดงผลลบ คือขึ้น 1 ขีดที่ขีด C เพียงอย่างเดียว หมายความว่าไม่มีการตั้งครรภ์ หรือมีการตั้งครรภ์แล้วแต่ตรวจไม่พบก็อาจเป็นไปได้เหมือนกัน ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ทำการทดสอบครรภ์ที่เร็วเกินไป การทิ้งชุดตรวจครรภ์ไว้นานทำให้ประสิทธิภาพในการตรวจลดลง การดื่มน้ำเยอะทำให้ระดับฮอร์โมน hCG ในปัสสาวะลดลงมีผลต่อการตรวจคลาดเคลื่อนได้ หรือมีความเครียดจัด เป็นต้น ในกรณีที่ไม่มีขีดใดขึ้นเลย แสดงว่าที่ตรวจครรภ์เสีย หมดอายุ หรือเกิดข้อผิดพลาดในขั้นตอนการเก็บปัสสาวะ และไม่ได้ตรวจซ้ำอีกหลังจากนั้น จึงอาจเข้าใจได้ว่าไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นนั่นเอง

จะรู้ตัวได้อย่างไรว่ากำลังตั้งครรภ์?

มีสัญญาณการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายรวมไปถึงอารมณ์หลายอย่างที่บ่งบอกว่ากำลังตั้งครรภ์ หากว่าที่คุณแม่ได้สังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเมื่อเริ่มตั้งครรภ์ อาทิเช่น

อาการที่กล่าวมาเรียกได้ว่าเป็นอาการที่สามารถพบได้ในระยะแรกของการเริ่มตั้งครรภ์ ว่าที่คุณแม่แต่ละคนจะมีอาการที่แสดงออกมาแตกต่างกัน บางคนอาจพบได้ทุกอาการที่กล่าวมา หรือบางคนอาจจะมีอาการเพียงแค่ 1 หรือ 2 อาการก็ได้ ซึ่งในบางอาการก็อาจทำให้ไม่รู้ตัวว่ากำลังตั้งครรภ์ “อาการท้องไม่รู้ตัว” สำหรับว่าที่คุณแม่จึงอาจเกิดขึ้นได้ รวมถึงการตั้งครรภ์ในแต่ละครั้งก็อาจจะมีการแสดงอาการที่ไม่เหมือนกันเช่นกัน ดังนั้นเพื่อป้องเหตุการณ์ที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังท้อง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ทั้งคุณแม่และลูกน้อย ในกรณีที่วางแผนมีลูกและมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ว่าที่คุณแม่ควรหมั่นสังเกตว่าพบการเปลี่ยนแปลงหรือความผิดปกติของร่างกายที่เปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่ หากมีอาการคล้ายคนท้องแต่ไม่แน่ใจก็สามารถตรวจเช็กด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์หรือไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายเพื่อความชัดเจน

ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงของคุณแม่ท้องแรกทั้งทางร่างกายและอารมณ์อาจทำให้คุณแม่ต้องเกิดการปรับตัวเองและดูแลใส่ใจตัวเองให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อส่งผลดีต่อทารกน้อยในครรภ์ เมื่อรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ควรรีบทำการฝากครรภ์แต่เนิ่น ๆ ซึ่งหากพบว่าอาการที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจเกินจนรับมือไม่ไหว ควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาหรือรับการรักษาวิธีในการบรรเทาอาการต่าง ๆ ลงได้นะคะ

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.zazana.comwww.somanao.com

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก :

วัคซีนสำหรับคนท้อง จำเป็นต้องฉีดวัคซีนอะไรบ้าง ?

เป็นไมเกรนตอนท้อง รับมืออย่างไร ?

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids