AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ภัยร้าย ไข้เลือดออก ขณะตั้งครรภ์

ไข้เลือดออก ไม่ใช่แค่ทำอันตรายกับคนทุกเพศทุกวัย เพราะหากคุณแม่ท้องติดเชื้อนี้ก็ส่งผลอันตรายทั้งต่อตัวคุณแม่เองและลูกน้อยจนทำให้ถึงกับแท้งหรือตกเลือดได้ทั้งตอนตั้งครรภ์และขณะคลอด เราจึงชวนคุณแม่มาทำความรู้จักกับ ภัยร้าย ไข้เลือดออก ขณะตั้งครรภ์ กันค่ะ

ภัยร้าย ไข้เลือดออก ขณะตั้งครรภ์

อันตราย ไข้เลือดออก ขณะตั้งครรภ์ ทำแม่ท้องแท้ง ตกเลือด

ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็นแหล่งระบาดอย่างมากของไข้เลือดออก ซึ่งแต่เดิมส่วนใหญ่ผู้ป่วยไข้เลือดออกมักจะเป็นเด็ก แต่ปัจจุบันก็มีผู้ใหญ่ป่วยเป็นไข้เลือดออกเพิ่มสูงขึ้น สำหรับรายงานไข้เลือดออกในแม่ท้องในประเทศไทยนั้นพบได้น้อย ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีรายงานการเสียชีวิตที่แน่ชัด แต่หากคุณแม่ตั้งครรภ์ป่วยก็ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ลูกและแม่จึงรอดชีวิตค่ะ

ไข้เลือดออกจึงเป็นโรคที่แม่ท้องไม่อาจมองข้าม และควรทำความรู้จักและป้องกันโรคนี้ในขณะตั้งครรภ์อย่างดีอีกด้วย เรามาทำความรู้จักไข้เลือดออกในแม่ท้องกันค่ะ

ไข้เลือดออก คืออะไร

ไข้เลือดออก คือ โรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue) ที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค ประเทศไทยพบไข้เลือดออกได้ตลอดปี แต่มักระบาดในฤดูฝน หลังยุงกัด 3-15 วัน (เฉลี่ย 5-6 วัน) จึงจะมีอาการ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ร้อยละ 90 ติดเชื้อเดงกีแต่ไม่มีอาการใดๆเลย สำหรับผู้ที่มีอาการรวมถึงแม่ท้อง อาการทางคลินิกแบ่งเป็น 3 แบบด้วยกันคือ

  1. มีไข้สูง อาจจะมีผื่นเป็นปื้นและจุดแดงๆ คล้ายหัดตามตัว มักจะเป็นในเด็กเล็ก
  2. มีไข้สูง ปวดรอบศีรษะ ปวดกระบอกตา ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระดูก อาการปวดกระดูกจะรุนแรงมากเหมือนกระดูกจะแตก (Break bone fever) มีผื่นและจุดเลือดออกตามผิวหนัง เจาะเลือดพบเม็ดเลือดขาวต่ำ เกล็ดเลือดต่ำ การทดสอบโดยการรัดแขนให้ผลบวกคือพบจุดเลือดออกเกิน 10 ต่อตารางนิ้ว อาการในกลุ่มนี้เรียก ไข้เดงกี พบในเด็กโตหรือผู้ใหญ่ อาการมักไม่รุนแรง
  1. มีไข้สูง ปวดท้อง เบื่ออาหาร อาเจียน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ตับโตกดเจ็บ มีจุดเลือดออกตามผิวหนังมีเลือดออกตามอวัยวะต่างๆ เช่น มีเลือดกำเดาไหล หรืออาเจียนเป็นเลือด เลือดออกในตับ ไต สมอง ฯลฯ มีการรั่วของน้ำเหลืองพลาสม่า ทำให้ความดันโลหิตต่ำและช็อก เรียกว่า กลุ่มอาการไข้เลือดออกช็อก (Dengue shock syndrome) ซึ่งอาจเกิดอันตรายถึงชีวิต

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

ติดตาม การตั้งครรภ์ไตรมาสต่างๆ กับไข้เลือดออก คลิกต่อหน้า 2

ไข้เลือดออก ขณะตั้งครรภ์ไตรมาสต่างๆ 

ในแม่ท้อง การตั้งครรภ์ไม่ได้ทำให้โรคไข้เลือดออกเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นอาการ การรักษา และผลการรักษา แต่มีผลกับการตั้งครรภ์ ดังนี้

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

สังเกตง่ายๆ แม่ท้องเป็นไข้เลือดออกหรือไม่

มีไข้สูง กินยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล แล้วไข้ไม่ลง ไม่มีอาการไอหรือมีน้ำมูก อาจมีอาการเจ็บคอ ร่วมกับอาการข้อใดข้อหนึ่งในต่อไปนี้

หากมีอาการเหล่านี้ควรไปพบแพทย์ทันที

การวินิจฉัยไข้เลือดออก ขณะตั้งครรภ์

แพทย์วินิจฉัยโดยอาศัยอาการทางคลินิก คือ มีไข้สูงและมีอาการอื่นๆ ที่น่าสงสัย การทดสอบโดยการรัดแขนให้ผลบวก การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ได้แก่ การตรวจหาความเข้มข้นของเลือด การนับเม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด ซึ่งจะพบว่า เลือดข้น เม็ดเลือดขาวต่ำ เกล็ดเลือดต่ำ ในรายที่มีภาวะแทรกซ้อน อาจต้องเอ็กซเรย์ปอด ตรวจค่าการทำงานของตับ ฯลฯ นอกจากนั้นยังใช้การตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการอาศัยการตรวจหาตัวเชื้อ และ ภูมิคุ้มกันจำเพาะต่อเชื้อไวรัสเดงกี เพื่อช่วยในการวินิจฉัย

ติดตาม การรักษาไข้เลือดออก ภาวะแทรกซ้อน และการป้องกัน คลิกต่อหน้า 3

การรักษาไข้เลือดออก ขณะตั้งครรภ์

สำหรับแม่ท้องแล้วการรักษาไม่ได้แตกต่างจากคนทั่วไป คือรักษาตามอาการ ไม่มียาเฉพาะเจาะจงที่ใช้กับโรคไข้เลือดออก การรักษามุ่งเน้นแก้ภาวะขาดน้ำ และภาวะช็อก โดยการให้สารน้ำ หากมีไข้สูงห้ามให้แอสไพรินหรือยาจำพวกเอ็นเสด (N-SAID=Non-steroid antiinflammatory drugs) เช่น ไอบูโปรเฟน (Ibuprofen) ไดโคลฟีแนค (Diclofenac) มีลอกซิแคม (Meloxicam) ฯลฯ แต่ควรใช้ยาลดไข้พาราเซตามอลแทน ซึ่งปกติสามารถให้ได้ในคนท้อง ข้อควรระวังคือ หากไม่จำเป็นไม่ควรจะผ่าตัดคลอดเพราะอาจเสียเลือดมากจากเกล็ดเลือดต่ำ กรณีที่ต้องทำ แพทย์จะต้องทำด้วยความระมัดระวัง พร้อมเตรียมเลือด น้ำเหลืองพลาสม่า และเกล็ดเลือดให้พร้อม

ภาวะแทรกซ้อนของไข้เลือดออก

อาจเกิดเลือดออกรุนแรงจากระบบทางเดินอาหาร ปอดอักเสบ ไส้ติ่งอักเสบ ตับอ่อนอักเสบ ถุงน้ำดีอักเสบ ตับวาย ไตวาย ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ป่วยได้

การป้องกันโรค

นอกจากการปราบปรามยุงลายแล้ว การป้องกันไม่ให้ยุงกัดเป็นวิธีที่ดีที่สุด ยุงลายที่นำเชื้อไข้เลือดออกมักกัดตอนกลางวัน คุณแม่ตั้งครรภ์จึงควรอยู่ในห้องที่มีมุ้งลวด หากต้องทำกิจกรรมในห้องตอนกลางวัน การใช้ยากันยุงแบบโลชั่น ครีมหรือแบบสเปรย์ ที่ทำจากสมุนไพรธรรมชาติ เช่น ตะไคร้หอมก็เป็นวิธีที่สะดวก และปลอดภัยสำหรับคุณแม่ท้องค่ะ


ข้อมูลโดย : พญ. ชัญวลี ศรีสุโข สูตินรีแพทย์ระดับชำนาญการ โรงพยาบาลพิจิตร

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ

หวัดแดด โรคหน้าร้อน ที่ต้องระวังในเด็กเล็ก

โรคประจำตัว ที่ควรเฝ้าระวัง ขณะตั้งครรภ์

กิจกรรมเล่นกับลูก 7 อย่างต้องห้าม เสี่ยงกระทบสมอง อันตรายถึงชีวิต

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids