กระดูกหัก
อาการปวดจากกระดูกหักนั้น ถือเป็นอาการเจ็บปวดที่แสนสาหัสที่สุด เนื่องจากกระดูกจัดเป็นเนื้อเยื่อที่ประกอบไปด้วยแคลเซียมและเซลล์กระดูก ตรงกลางกระดูกจะอ่อนกว่า เรียกว่าไขกระดูก ซึ่งทำหน้าที่ผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง กระดูกแต่ละส่วนจะประกอบกันเป็นโครงสร้างกระดูกที่รองรับร่างกาย ช่วยในการเคลื่อนไหว และปกป้องอวัยวะภายในของร่างกาย หากร่างกายได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรง จะส่งผลให้กระดูกแตกหรือหักได้ จึงไม่แปลกที่จะส่งผลให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวดและแสนทรมานได้
วิธีการสังเกตอาการ: รู้สึกปวดกระดูกหรือรอบ ๆ บริเวณที่ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง และจะปวดมากขึ้นเมื่อมีการสัมผัส กระดูกที่ได้รับบาดเจ็บเกิดอาการบวม อวัยวะมีการผิดรูป เคลื่อนไหวได้ช้า และมีกระดูกทิ่มออกมาจากผิวหนัง เป็นต้น
เป็นนิ่ว
คุณแม่บางท่านที่กล่าวว่าอาการเจ็บท้องใกล้คลอด นั้นทรมานน้อยกว่าอาการปวดจากการเป็นนิ่ว ซึ่งโรคนิ่วนั้นเกิดจาก พันธุกรรม วิถีการดำเนินชีวิต และอุปนิสัยการกินอาหารของตัวผู้ป่วยเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การดื่มน้ำในปริมาณที่น้อยจนเกินไป รวมไปถึงการรับประทานแคลเซียมเยอะเกินความจำเป็น
อาการของโรค: แน่นท้อง ท้องอืด อาหารไม่ย่อย มีลมมาก หรือปวดเป็นพัก ๆ บริเวณลิ้นปีหรือใต้ชายโครงขวาร่วมกับคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งมักจะเป็นหลังจากรับประทานอาหารมัน ๆ ส่วนในกลุ่มที่มีการอักเสบของถุงน้ำดี อาการปวดท้องจะมีความรุนแรงมากขึ้น อาจปวดทะลุหลัง มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน และตัวเหลืองตาเหลืองร่วมด้วย
ไต
อีกหนึ่งอาการปวดของโรคที่ได้รับการยืนยันจากคุณแม่หลาย ๆ ท่านที่เป็นโรคนี้อยู่นั้นพากันวิจารณ์ว่า อาการปวดจากโรคไตนั้นทุกข์ทรมานมากกว่าการเจ็บท้องใกล้คลอดเสียอีก ซึ่งโรคไตนั้นเกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างไต และระบบทางเดินปัสสาวะตั้งแต่กำเนิด เช่น ภาวะอุดกั้นของระบบทางเดินปัสสาวะ ภาวะปัสสาวะไหลย้อนจากกระเพาะปัสสาวะกลับขึ้นไปยังท่อไต บางรายมีความผิดปกติในการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะ หรือมีภาวะเนื้อไตผิดปกติแต่กำเนิดชนิดต่าง ๆ รวมไปถึงการบริโภคอาหารที่มีรสหวานจัด เค็มจัดมากเกินไป
อาการของโรคนั้นได้แก่ ตัวบวม หน้าบวม ปัสสาวะผิดปกติ มีสีแดงหรือสีน้ำล้างเนื้อ ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแสบขัด ออกกะปริบกะปรอย ออกปริมาณมากหรือน้อยกว่าปกติ ซึ่งการคลอดลูกนั้นเจ็บมากสุดก็ทีเดียว แต่การเจ็บปวดจากไตนี่สิ แค่ปัสสาวะเพียงหนึ่งครั้ง ก็เจ็บปวดแสนทรมานแล้ว