คุณพ่อ คุณแม่หลายท่านอาจเกิดความสงสัย ถ้าเราจะผ่าคลอด (Caesarean Sections) เราควรจะเลือกวิธี ดมยาสลบ หรือบล็อกหลังดี หรือให้คุณหมอเป็นคนตัดสินใจ จากประสบการณ์ของคุณพ่อ คุณแม่หลายท่าน ก็มีคำแนะนำกันมาว่าใช้วิธีบล็อกหลัง เพราะจะได้เจอหน้าลูกทันทีเมื่อคุณหมอทำการผ่าคลอดเสร็จ
ผ่าคลอดด้วยการ “บล็อกหลัง” คืออะไร?
บล็อกหลัง หรือการบริหารยาชาเฉพาะที่ หรือ Spinal block เป็นการฉีดยาชาเข้าไปในช่องไขสันหลังระดับบั้นเอว เพื่อหยุดความรู้สึกของเส้นประสาทจะทำให้เกิดอาการชา ทำให้ไม่มีความรู้สึก ไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดตั้งแต่ชายโครงจนถึงปลายเท้า นานประมาณ 1-3 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น แล้วแต่ชนิดของยาที่เลือกให้ เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะว่าปลอดภัย
วิธีการ คือนอนตะแคง ก้มหน้า เอาคางชิดอก งอสะโพก งอเข่า เอาเข่าชิดท้อง หลังงอเหมือนกุ้ง เพื่อให้ช่องระหว่างกระดูกสันหลังเปิดกว้าง คุณหมอะฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณผิวหนัง เพื่อลดอาการเจ็บขณะที่แทงเข็มบล็อกไปในทีเดียว ไม่ฉีดยาชาก่อน เพราะเจ็บเพียงครั้งเดียวเหมือนๆ กัน เข็มที่ใช้ในการบล็อกมีขนาดเล็กมาก บางครั้งเจ็บน้อยกว่าแทงน้ำเกลือ หรือเจาะเลือด
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ข้อดี และข้อเสียของการบล็อกหลัง
ข้อดี
- กล้ามเนื้อของขาจะหย่อนตัวได้ดีกว่าการวางยาสลบ ศัลยแพทย์สามารถผ่าตัดได้สะดวกกว่า
- ความต้องการยาแก้ปวดหลังผ่าตัดน้อยกว่าการวางยาสลบ เนื่องจากระบบประสาทถูกสกัดจากยาชา
- หากกลัว หรือกังวลมาก ก็ให้ยานอนหลับ (คนละชนิดกับยาสลบ) ให้หลับ เพื่อลดความกลัว ความกังวล
- วิธีบล็อกหลังแบบ Epidural จะช่วยให้คุณแม่ไม่เจ็บปวดจากการบีบรัดตัวของมดลูก และยังสามารถขยับตัวเคลื่อนไหวร่างกายได้ คุณแม่สามารถพักผ่อนหรืองีบหลับเพื่อรอเวลาเบ่งคลอดได้
- คุณแม่ยังรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่มีความเจ็บปวด สามารถได้ยินเสียงร้อง และเห็นหน้าของลูกน้อยทันทีที่คลอด เป็นความประทับใจที่คุณแม่ทุกคนอยากจะได้รับความรู้สึกของวินาทีแรกนี้
อ่านต่อ “ผ่าคลอด ดมยาสลบหรือบล็อกหลังดี?” คลิกหน้า 2
ข้อเสีย
- หลังผ่าตัดจะขยับขาไม่ได้อยู่ประมาณ 2-4 ชม (นับจากเริ่มวางยาชา) ในบางรายอาจจะรู้สึกรำคาญ
- ปัสสาวะไม่ออก เป็นผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นในช่วง 12 ชม.แรก ซึ่งมักจะได้รับการสวนสายปัสสาวะช่วย
- อาการปวดหลัง หรือ เมื่อยหลัง อาจจะเป็นได้ในช่วงวันแรก
ผ่าคลอดด้วยการ “ดมยาสลบ” คืออะไร?
เป็นวิธีที่คุณหมอจะทำให้คุณแม่สลบ ซึ่งมีระดับที่ลึกกว่าหลับอยู่มาก เพราะจะไม่ตอบสนองต่อการเรียก และไม่รับรู้อะไรเลย โดยการฉีดยาเข้าไปในหลอดเลือดดำ และให้ยาหย่อนกล้ามเนื้อ เพื่อให้กล้ามเนื้อทั่วร่างกายเป็นอัมพาต แล้วสอดท่อช่วยหายใจผ่านปาก ผ่านกล่องเสียง และเข้าไปในหลอดลม เพื่อช่วยให้หายใจระหว่างผ่าตัด เพราะจะหายใจเองไม่ได้เนื่องจากกล้ามเนื้อทั่วร่างกายเป็นอัมพาต
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
การดมยาสลบต้องอาศัยยาหลายตัว เช่น ยานำสลบ ยาหย่อนกล้ามเนื้อ ยาแก้ปวด ยาดมสลบในรูปแบบไอระเหย หลังจากผ่าตัดเสร็จคุณหมอจะให้ยาแก้ฤทธิ์ยาหย่อนกล้ามเนื้อ และคอยให้ยาสลบหมดฤทธิ์ คุณแม่จึงค่อยๆ ฟื้นคืนสติและเริ่มหายใจเองได้ คุณหมอก็จะถอดท่อช่วยหายใจออกจากหลอดลม
อ่านต่อ “ผ่าคลอด ดมยาสลบหรือบล็อกหลังดี?” คลิกหน้า 3
ข้อดี และข้อเสียของการดมยาสลบ
ข้อดี
- สำหรับคุณแม่ที่มีคุณแม่ที่กลัวเลือดไม่ต้องรับรู้เหตุการณ์ในห้องผ่าตัด และจะได้ไม่ตื่นกลัวการผ่าตัด
- คุณหมอสามารถช่วยควบคุมการหายใจ และระบบไหลเวียนได้ เหมาะกับการผ่าตัดในช่องท้อง หรืออก
- คุณหมอสามารถลงมีดผ่าตัดได้รวดเร็วจึงมีประโยชน์มากในรายที่มีภาวะเร่งด่วนเช่นเกิดภาวะแทรกซ้อน ต่อเด็กแล้วต้องช่วยคลอดเด็กโดยทันที
- ไม่มีผลข้างเคียงของยาระงับปวด คือ คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ
ข้อเสีย
- เสี่ยงต่อการใส่ท่อช่วยหายใจไม่ได้ มีการสำลักอาหารเข้าปอดทำให้ปอดอักเสบติดเชื้อ อันตรายถึงชีวิตได้
- เสี่ยงต่อภาวะขาดออกซิเจน ซึ่งอันตรายต่อลูกด้วย
- การดมยาสลบจะต้องใช้ยาหลายชนิดฉีดร่วมด้วย ผลเสียก็คือจะมีการส่งผ่านไปยังเด็กได้
- อาการเจ็บคอ ระคายคอ หรือ เสียงแหบ ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการสอดใส่ท่อช่วยหายใจผ่านเข้าไป
- คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน มึนงง ช่วงพักฟื้นหลังผ่าตัด อันเป็นผลโดยตรงจากยาแก้ปวด และยาดมสลบ
- มีความต้องการยาแก้ปวดในช่วงหลังการผ่าตัดสูงกว่าการใช้วิธีฉีดยาชาบล็อกไขสันหลัง
- เสี่ยงสำลักเศษอาหารที่ออกมาระหว่างเริ่มดมยาสลบ ขึ้นกับว่างดอาหารมานานพอหรือไม่
เมื่อทราบข้อดีข้อเสียของวิธีการทั้งสองแบบแล้ว คุณแม่ก็ลองพิจารณาดูว่าวิธีไหนเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด
แล้วแจ้งคุณหมอว่าเราต้องการอะไร แบบไหนได้เลย
เครดิต: หมอชาวบ้าน, ตำราวิสัญญีวิทยา : การให้ยาระงับความรู้สึกเพื่อคุณภาพและความปลอดภัย,สมรัตน์ จารุลักษรานันท์ 2548
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่