ระบบหมู่เลือด (blood group) ที่สำคัญ ได้แก่ หมู่เลือด ABO และหมู่เลือด Rh ซึ่งการที่ลูกจะมี กรุ๊ปเลือด ใดนั้น ขึ้นอยู่กับกรุ๊ปเลือดของพ่อแม่ หากบางกรณีที่ลูกมีกรุ๊ปเลือดเดียวกับพ่อ ซึ่งไม่เข้ากับเลือดของแม่ ทำให้ร่างกายแม่สร้างแอนติบอดีขึ้นมาทำลายเม็ดเลือดแดงของลูก อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตลูกได้
ทำความรู้จักระบบ กรุ๊ปเลือด
คุณพ่อคุณแม่ควรทำความรู้จักระบบกรุ๊ปเลือด และอันตรายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อกรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่เข้ากัน มีโพสต์หนึ่งจากเพจ Drama-addict โพสต์ถึงเรื่องกรุ๊ปเลือด เมื่อมีคุณพ่อคนหนึ่ง inbox คุยปรึกษากับเพื่อน บอกว่าตนเองไม่สบายใจที่กรุ๊ปเลือดของลูก ไม่ใช่กรุ๊ปเลือดเดียวกับของตัวเอง เพราะเชื่อคนในหมู่บ้านที่บอกต่อๆ มา ว่าลูกจะต้องมีเลือดกรุ๊ปเดียวกับพ่อ จนคิดว่าไม่ใช่ลูกของตัวเอง
โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า คุณพ่อมีเลือดกรุ๊ป O คุณแม่มีเลือดกรุ๊ป A ลูกชายเกิดมามีเลือดกรุ๊ป A คุณพ่อกล่าวหาว่าไม่ใช่ลูกของตัวเอง แล้วจึงทิ้งไป
……เอ่อ พ่อเลือดกรุ๊ปโอ แม่เลือดกรุ๊ปเอ ลูกเลือดกรุ๊ปเอ พ่อบอก เป็นไปไม่ได้ มันไม่ใช่ลูกกรู…
Posted by Drama-addict on Friday, June 30, 2017
เมื่อกรุ๊ปเลือดไม่เป็นไปตามกฎพันธุกรรม
ข้อมูลจาก หน่วยรับบริจาคโลหิต จังหวัดอุบลราชธานี Fan Page ที่แม่น้องเล็กไปหามาเพิ่มเติม พบว่ามีกรณีความผิดปกติ หรือที่เรียกว่า มิวเทชั่น (mutation) ทำให้เกิดเหตุการณ์ประหลาดใจในพ่อแม่ที่มีเลือดกรุ๊ป O จะมีลูกที่มีเลือดกรุ๊ป A ซึ่งกรณีแบบนี้เกิดขึ้นได้ยาก เพราะโดยทั่วไปแล้ว พ่อแม่ที่มีเลือดกรุ๊ป O ลูกก็จะมีเลือดกรุ๊ป O ทุกครั้ง
แต่ในทางทฤษฎีนั้นมีความเป็นไปได้ที่พ่อแม่ที่มีกรุ๊ปเลือด O จะมีลูกที่มีกรุ๊ป A, B หรือ AB เด็กสามารถมีหมู่เลือดได้เกือบทุกหมู่ ทฤษฎีนี้เกิดขึ้นได้ 1 ใน 1 ล้าน
เราสามารถเปลี่ยนจากเลือดกรุ๊ป A เป็นกรุ๊ป B ได้หรือไม่?
กรณีนี้เป็นไปได้ แต่ต้องอาศัยมิวเทชั่นอีกประเภทหนึ่ง เรียกว่า รีคอมบิเนชั่น (recombination) ที่สามารถเปลี่ยนกรุ๊ป A เป็นกรุ๊ป B มีตัวอย่างคือ พ่อมีเลือดกรุ๊ป O แม่เลือดกรุ๊ป B แต่ลูกเกิดมามีเลือดกรุ๊ป A พ่อยืนกรานว่าไม่ใช่ลูกของตัวเองเพราะเลือดไม่ตรงกัน นักวิทยาศาสตร์จึงเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดจากตำแหน่งยีนส์ส่วนอื่นๆ ที่ไม่ใช่กรุ๊ปเลือด พบว่าเป็นลูกของคุณพ่อจริง นักวิทยาศาสตร์จึงสรุปว่าเด็กคนนี้เกิดกระบวนการ รีคอมบิเนชั่น ระหว่างเลือดกรุ๊ป O และ B (แม่น้องเล็กเคยตรวจเลือดได้กรุ๊ป O แล้วเปลี่ยนเป็นกรุ๊ป A ตอนโต)
ความผิดปกติ หรือมิวเทชั่นสามารถอธิบายเหตุการณ์ที่หายาก และดูขัดกับกฎทางพันธุกรรมทั่วไปได้ ถึงแม้ว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ยาก แต่มันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราเข้าใจการถ่ายทอดทางพันธุกรรมมากขึ้น ซึ่งการตรวจหาว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของคุณพ่อ คุณแม่หรือไม่ ควรตรวจ DNA จึงจะแน่นอนที่สุด
อ่านต่อ “การแบ่งกรุ๊ปเลือด A B O AB และ RH” คลิกหน้า 2
การแบ่งกรุ๊ปเลือด โดยทั่วไปที่ใช้มี 2 ระบบคือ ABO blood group system และ Rh blood group system
- ABO blood group system
เป็นการแบ่งกรุ๊ปเลือดตามสารแอนติเจน (Antigen) ในเลือดซึ่งมีอยู่ 2 ประเภทคือ A antigen และ B antigen โดยจะแบ่งออกได้เป็น 4 กรุ๊ป คือ
- ผู้ที่มีสาร A antigen ในเลือดจะมีเลือดกรุ๊ป A
2. ผู้ที่มีสาร B antigen ในเลือดจะมีเลือดกรุ๊ป B
3. ผู้ที่มีสาร A antigen และ B antigen ในเลือดจะมีเลือดกรุ๊ป AB
4. ผู้ที่ไม่มีสาร A antigen และ B antigen ในเลือดจะมีเลือดกรุ๊ป O
ข้อสังเกต
– ถ้าผู้ที่ไม่มีสาร B antigen ในเลือดรับเลือดที่มีสาร B antigen จะทำให้เลือดไม่สามารถเข้ากันได้ และจะทำให้ผู้รับเลือดเสียชีวิตได้
– เลือดกรุ๊ป O เป็นเลือดที่ไม่มีสาร A antigen และ B antigen จึงสามารถให้เลือดได้กับทุกกรุ๊ป แต่จะสามารถรับเลือดได้จากกรุ๊ป O เท่านั้น
– เลือดกรุ๊ป AB เป็นเลือดที่มีสาร A antigen และ B antigen จึงสามารถให้เลือดได้กับกรุ๊ป AB เท่านั้น
อ่านต่อ “กรุ๊ปเลือดพ่อแม่ต่างกัน ลูกจะได้กรุ๊ปเลือดใคร?” คลิกหน้า 3
กรุ๊ปเลือด พ่อแม่ต่างกัน ลูกจะได้กรุ๊ปเลือดใคร? พ่อแม่กรุ๊ปเลือดเหมือนกัน ลูกจะเลือดกรุ๊ปอื่นได้ไหม? มีความเป็นไปได้ ดังนี้
กรุ๊ปเลือดของพ่อ + แม่ (O + O) ลูกจะมีเลือดกรุ๊ป O
กรุ๊ปเลือดของพ่อ + แม่ (O + A) ลูกจะมีเลือดกรุ๊ป O, A
กรุ๊ปเลือดของพ่อ + แม่ (O + B) ลูกจะมีเลือดกรุ๊ป O, B
กรุ๊ปเลือดของพ่อ + แม่ (O + AB) ลูกจะมีเลือดกรุ๊ป A, B
กรุ๊ปเลือดของพ่อ + แม่ (A + A) ลูกจะมีเลือดกรุ๊ป O, A
กรุ๊ปเลือดของพ่อ + แม่ (A + B) ลูกจะมีเลือดกรุ๊ป O, A, B, AB
กรุ๊ปเลือดของพ่อ + แม่ (A + AB) ลูกจะมีเลือดกรุ๊ป A, B, AB (ได้ทุกกรุ๊ป ยกเว้น O)
กรุ๊ปเลือดของพ่อ + แม่ (B + B) ลูกจะมีเลือดกรุ๊ป O, B
กรุ๊ปเลือดของพ่อ + แม่ (B + AB) ลูกจะมีเลือดกรุ๊ป A, B, AB (ได้ทุกกรุ๊ป ยกเว้น O)
กรุ๊ปเลือดของพ่อ + แม่ (AB + AB) ลูกจะมีเลือดกรุ๊ป A, B, AB (ได้ทุกกรุ๊ป ยกเว้น O)
ข้อสังเกต
– ถ้าพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งมีเลือดกรุ๊ป AB ลูกที่เกิดมาจะไม่มีเลือดกรุ๊ป O
– ถ้าพ่อและแม่มีเลือดกรุ๊ป A และ B ลูกที่เกิดมาอาจจะมีเลือดกรุ๊ป AB หรือ O ก็ได้
– พี่น้องไม่จำเป็นต้องมีเลือดกรุ๊ปเดียวกัน
– ถ้าพ่อและแม่มีเลือดกรุ๊ป A และ B และลูกที่เกิดมามีเลือดกรุ๊ป AB พ่อและแม่สามารถให้เลือดลูกได้ แต่ลูกไม่สามารถให้เลือดพ่อแม่ได้
เลือดแม่-ลูกไม่เข้ากัน อันตรายที่แม่ต้องรู้
ความไม่เข้ากันของหมู่เลือดที่พบบ่อยและเป็นอันตราย เช่น แม่กรุ๊ป O แต่ลูกกรุ๊ป A หรือ B เนื่องจากเม็ดเลือดแดงของลูกจะมีแอนติเจน A หรือ B ซึ่งแม่ไม่มี แอนติเจนที่ลูกมีอาจเล็ดลอดเข้าสู่ร่างกายแม่ และกระตุ้นให้แม่สร้างแอนติบอดีต่อเม็ดเลือดแดงของลูก โดยแอนติบอดีที่เกิดขึ้นจะผ่านรกไปยังตัวลูกและไปจับกับเม็ดเลือดแดงของลูก และทำให้เม็ดเลือดแดงของลูกแตกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ถ้าปฏิกิริยารุนแรงมาก ทารกอาจบวม หัวใจวาย และตายในครรภ์ ในกรณีที่คลอดออกมามีชีวิต ลูกจะมีอาการตัวเหลือง ซึ่งถ้าไม่มากจะดีขึ้นและหายได้เอง
แต่ถ้าเป็นมาก สารบิลิรูบินที่ทำให้ตัวเหลืองอาจไปจับที่สมอง จำเป็นต้องรักษาด้วยการถ่ายเลือดเพื่อกำจัดสารบิลิรูบิน ถ้ารักษาไม่ทันท่วงทีอาจเกิดความพิการทางสมองได้ อย่างไรก็ตาม หากได้รับการรักษาอย่างถูกต้องจะสามารถหายเป็นปกติได้
อ่านต่อ “ระบบกรุ๊ปเลือด Rh และอันตรายที่ต้องระวัง” คลิกหน้า 4
- Rh blood group system
เป็นระบบหมู่เลือดที่สำคัญรองลงมาจากหมู่เลือด ABO โดยหมู่เลือดในระบบ Rh แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ
- Rh+ (Rh positive) จะมีแอนติเจนอยู่ในเม็ดเลือดแดง เป็นหมู่โลหิตธรรมดา คนไทยส่วนมากเกือบ 100% จะมีหมู่เลือด Rh+ ซึ่งก็คือ A+ B+ AB+ O+
- หมู่เลือด Rh- (Rh negative) ไม่มีแอนติเจนอยู่ในเม็ดเลือดแดง เป็นหมู่โลหิตหายาก หรือหมู่โลหิตพิเศษในคนไทย แต่พบมากในคนยุโรป ซึ่งก็คือ A- B- AB- O-
เลือดแม่-ลูกไม่เข้ากัน
ไม่ว่าคุณแม่ จะมีกรุ๊ปเลือด Rh+ หรือ Rh-ก็สามารถตั้งครรภ์และคลอดได้ตามปกติ ถ้าทั้งคุณพ่อและคุณแม่ เป็น Rh+ หรือ Rh- ทั้งคู่ หรือคุณแม่เป็น Rh+
ยกเว้น คุณแม่ที่มีกลุ่มเลือด Rh- แต่ลูกในครรภ์มีกลุ่มเลือด Rh+ เหมือนพ่อ อาจทำให้เกิดปัญหาเลือดแม่และลูกไม่เข้ากัน หากเลือดของลูกที่เป็น Rh+ เข้าสู่ร่างกายของแม่ ทางรก หรือสายสะดือ จากการเจาะน้ำคร่ำหรือในการคลอด จะทำให้ร่างกายคุณแม่ สร้างภูมิต้านทานขึ้นมา ทำลายเม็ดเลือดแดงของลูก เนื่องจาก ในร่างกายของแม่ที่มีหมู่เลือด Rh- ไม่รู้จักแอนติเจนในเม็ดเลือดแดง เมื่อได้รับเลือดจากหมู่เลือด Rh+ เข้าไป ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อทำลายเม็ดเลือดแดงของลูก เพราะคิดว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม
แม้ว่าในการตั้งครรภ์ครั้งแรก อาจไม่มีอาการผิดปกติใดๆ แต่เมื่อตั้งครรภ์ที่สอง ภูมิต้านทานที่ร่างกายของแม่สร้างขึ้นมาอีกรอบ จะมากพอที่จะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดแดง ภายในร่างกายของลูก ที่อยู่ในกลุ่ม Rh+ ให้แตกตัว ลูกจะมีภาวะซีด โลหิตจาง หัวใจทำงานหนัก เพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย อาจทำให้เกิดอาการบวมน้ำ ตับ-ม้ามโต หัวใจวาย หรือรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตในครรภ์ได้
การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การไปฝากครรภ์ตั้งแต่เนิ่นๆ หากตรวจพบการไม่เข้ากันของเลือดแม่และลูกในการตั้งครรภ์ครั้งแรก คุณหมอจะฉีดยาลดการสร้างภูมิต้านทานต่อเลือดของลูกให้เมื่อตั้งครรภ์ 28 สัปดาห์ หรือหลังคลอดภายใน 72 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดของแม่ไปทำลายเม็ดเลือดแดงของลูกค่ะ
อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!
กรุ๊ปเลือดบอกนิสัย ลองทายนิสัยลูกจากกรุ๊ปเลือด มีนิสัยอย่างไรบ้าง?!
ลูกน้อยป่วยหนัก เพราะข้าวโพดต้ม ข้าวโพดหวาน
แม่ท้อง …จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกในท้องสมบูรณ์ แข็งแรงดีหรือไม่?
ขอบคุณข้อมูลจาก doctor.or.th, bymomentum.blogspot.com
Save
Save