AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

แม่อายุครรภ์เกินกำหนดคลอด ลูกสำลักน้ำคร่ำ เสียชีวิต !!

แม่อายุครรภ์เกินกำหนดคลอด ลูกสำลักน้ำคร่ำ เสียชีวิต เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับคุณแม่ท่านหนึ่งที่เพิ่งสูญเสียลูกไป และอยากจะมาแชร์เรื่องราวเพื่อเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ให้กับคุณแม่ที่ใกล้คลอดทุกคนค่ะ ทีมงาน Amarin Baby & Kids ได้รวบรวมนำมาให้ได้อ่านกันค่ะ

 

แม่อายุครรภ์เกินกำหนดคลอด ลูกสำลักน้ำคร่ำ เสียชีวิต !!

เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่อยากให้ทุกครอบครัวได้อ่าน แม่อายุครรภ์เกินกำหนดคลอด ลูกสำลักน้ำคร่ำ เสียชีวิต เพื่อไว้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจเห็นถึงความสำคัญของการตั้งครรภ์ครบกำหนดคลอด เรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้นจากคุณแม่ Yui Yu-iYui Wanida Rattanaphonr‎ ที่คลอดลูกได้ 6 วัน ยังไม่ทันได้ทำหน้าที่อย่างเต็มสมบูรณ์ ลูกก็มาจากไปอย่างไม่มีวันกลับ คุณแม่จึงอยากมาแชร์เรื่องที่เกิดขึ้นให้อีกหลายๆ ครอบครัวได้ทราบกันค่ะ

ขอเล่าเรื่องไว้ให้เป็นอุทาหรณ์ และเป็นประโยชน์แก่คนที่ยังไม่คลอดและไม่ได้ฝากพิเศษ ฝากแต่กับโรงพยาบาลอย่างเดียว ขอเล่าเป็นอุทาหรณ์แค่นั่น ไม่อยากให้ต้องสูญเสียแบบบ้านนี้

บทความแนะนำ คลิก >> ลูกน้อยคลอดก่อนกำหนด เพราะมีน้ำคร่ำมากไป

นี่คือเรื่องราวของสาเหตุค่ะ บ้านนี้ไม่มีน้องให้อวดแล้ว ขอเล่าเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ยังไม่คลอดแล้วรอคลอดเอง บ้านนี้กำหนดคลอด 16 พ.ค. 60 แม่บ้านนี้ก็เฝ้าตั้งตารอลูกน้อยออกมาลืมตามองโลกพอถึงวันที่ 16 พ.ค. เฝ้ารอแต่เช้าจนหมดวัน แม่ก็ไม่มีอาการเจ็บท้องแต่อย่างใด เช้าวันที่ 17 ก็ไปตามนัดที่หมอนัดหากยังไม่คลอด แม่ก็ไปตามนัดทุกครั้งที่ไปเด็กก็ปกติดีทุกครั้ง ไปครั้งนี้เมื่อเห็นว่าครบกำหนดคลอดยังไม่คลอดพยาบาลก็ตรวจสุขภาพเด็กผลออกมาเด็กปกติไม่มีอาการผิดปกติอะไรคุณหมอจึงนัดอีก 1 อาทิตย์ คือวันที่ 24 ซึ่งคุณหมอบอกว่ารอได้ถึง 42 สัปดาห์(ขณะนั้นครรภ์ 40+1 ) แม่ก็รอต่อไปจนเช้ามืดวันที่ 21 แม่มีมูกคล้ายเลือดแต่เป็นสีน้ำตาลแก่ แม่ก็รีบไปโรงพยาบาล พยาบาลตรวจบอกว่าปากมดลูกเปิด 1 เซ็นก็บอกว่ารอเร่งคลอดเลยเพราะอายุครรภ์เกินมา 4 วัน แม่ก็นอนรอตั้งแต่ตี 5 จนกระทั่งตอน 11 โมง เจอคุณหมอแม่ก็นึกว่าเขาจะตรวจเราเพิ่มแต่ไม่ตรวจบอกเพียงว่าให้ลากลับบ้านแล้วมาเร่งคลอดกับหมออีกท่านในวันพรุ่งนี้คือวันที่ 22 ให้กลับบ้านทั้งที่รู้ว่าเราครรภ์เกินด้วยความที่เป็นลูกคนแรก เราก็ไม่รู้ใครบอกไรเราก็ทำตามนั้น เราก็กับบ้าน จนคืนวันที่ 22 ตอนตี 2 เราเริ่มปวดท้องแต่ไม่มาก มาปวดมากตอน 6 โมงเช้า พอมาถึงโรงพยาบาล ตรวจปากมดลูกเปิด 4 เซ็น ก็นอนรอพบหมอ คราวนี้เป็นหมออีกท่าน มาดูท้องบอกเด็กตัวใหญ่อาจคลอดยากจะผ่าหรือคลอดเอง เราเลยบอกขอผ่าเพราะเคยขอผ่าตั้งแต่17 แต่หมอไม่ยอม หมอทานนี้ก็ถามว่าอายุครรภ์เท่าไรพอเราบอกไป เขาขอตรวจปากมดลูกดูน้ำคร่ำแล้วบอกน้ำคร่ำเขียว เลยส่งเข้าห้องผ่าตัดด่วนแต่แม่ยืนยันได้ว่าน้องยังดิ้นจนถึงห้องผ่าตัด พอผ่าเสร็จเราไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะหมอบอกน้องตัวเขียวเพราะสำลักน้ำคร่ำ และขี้เทาตัวเองเต็มปอด ต้องส่งไปอยู่ห้องNICU ด่วน!!!

 

หมอบอกว่าเด็กสำลักตั้งแต่ในท้องแต่แม่ยืนยันกับหมอว่าเด็กยังดิ้นอยู่เลยตอนขึ้นเตียง หมอก็เงียบไปน้องสำลักไปเยอะมาก หมอก็ดูดออกจนหมดแต่ยังมีค้างตามรูเล็กในปอดทำให้ปอดติดเชื้อ ถ้าน้องรอดน้องก็พิการทางสมอง เพราะขาดออกซิเจน หัวใจเหมือนแตกสลายไม่ได้เห็นหน้าลูกในวันแรกมาเจอวันที่ 2 ถึงได้เจอแต่ไม่สามารถกอดอุ้มได้ น้องอยู่ได้ 6 วันจนวันที่28 ตอนเที่ยงคืนน้องจึงจากไป

ที่มาโพสต์ไม่ได้ต้องการอะไรค่ะ ไม่ได้จะฟ้องร้องหมอโจมตีหมอ แค่จะเตือนว่าถ้าอายุครรภ์ครบกำหนดขอให้คุณแม่ทั้งหลายจำเหตุการณ์ที่เกิดกับบ้านนี้ไว้แล้วขอคุณหมอผ่าทันทีเลยค่ะ อย่ารอ แม่เองก็เกือบตกเลือดด้วยค่ะ ทางหมอและพยาบาลดูแลน้องอย่างดีที่สุด ให้ยาดีที่สุดแต่น้องสู้ไม่ไหวค่ะ ตอนอยู่ในท้องกินเก่งอยู่ค่ะ เพราะแม่กินข้าวมื้อละ 7 จานแต่น้ำหนักแม่ไม่ขึ้น

น้องออกมาสมบูรณ์ทุกอย่างค่ะเป็นชายน้ำหนัก 3,250 กรัม เสียแต่สำลักน้ำคร่ำกับขี้เทาเท่านั้นค่ะ

อ่านต่อ วิธีป้องกันการตั้งครรภ์เกินกำหนด หน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

วิธีป้องกันการตั้งครรภ์เกินกำหนด

การตั้งครรภ์เกินกำหนดอาจไม่ได้มีสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดขึ้นเพราะเหตุใด แต่ก็มีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้มีการตั้งครรภ์เกินกำหนดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรมที่ได้รับมาจากตัวของแม่เอง หรืออาจมาจากทารกในครรภ์พิการ ทารกที่มีกะโหลกศีรษะและสมองส่วนบน เป็นต้น

 

บทความแนะนำ คลิก >> ฝากครรภ์ฟรี ส่งเสริมสาวไทยแก้มแดง มีลูกเพื่อชาติ

 

สำหรับการรับมือการตั้งครรภ์เกินกำหนด ควรดูแลตัวเองเบื้องต้น ดังนี้

  1. ฝากครรภ์ทันทีที่ตั้งครรภ์และไปตรวจตามนัด ไม่ควรละเลยหรือปล่อยให้ครรภ์เกินกำหนด บางคนอาจชะล่าใจ คิดว่าต้องรอให้ปวดท้องคลอดก่อนถึงไปโรงพยาบาล โดยไม่ได้สนใจว่าจะเกินกำหนดไปนานแค่ไหน เพราะมีความเชื่อว่า เมื่อเด็กครบกำหนดก็จะปวดท้องคลอดเอง ซึ่งไม่เป็นความจริง ปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เด็กทารกเสียชีวิตหลังคลอดจากการสำลักขี้เทาตนเองได้
  2. ควรตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์ในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ เพราะช่วยบอกอายุครรภ์ได้อย่างแม่นยำ
  3. โดยทั่วไป แพทย์จะตรวจเช็กว่าสามารถตั้งครรภ์เกินกำหนดได้ โดยไม่เกิดอันตรายหรือไม่ หากเกิดอันตรายมักจะนำให้นำเด็กทารกออกก่อนทารกจะเกินกำหนด

การตั้งครรภ์เกินกำหนดไม่ใช่เรื่องที่ปลอดภัยต่อสุขภาพของทารกน้อยในครรภ์ เพราะอาจเสี่ยงต่อภาวะน้ำคร่ำแห้ง ทารกเสียชีวิตตั้งแต่ในครรภ์ได้ จึงแนะนำว่าตลอดการตั้งครรภ์ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างตั้งครรภ์ค่ะ

อ่านต่อ น้ำคร่ำสำคัญอย่างไรกับทารกในครรภ์ หน้า 3

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

น้ำคร่ำน้อยอันตรายหรือไม่?

น้ำคร่ำมีความสำคัญต่อทารกน้อยในครรภ์อย่างมาก ซึ่งตลอด 40 สัปดาห์น้ำคร่ำจะต้องมีปริมาณที่เพียงพอสำหรับช่วยประคองทารกให้อยู่สบายในครรภ์คุณแม่ไปจนกว่าจะคลอด

 

บทความแนะนำ คลิก >> น้ำคร่ำอุดตันในกระแสเลือดเพชฌฆาตเงียบของแม่ท้อง

 

น้ำคร่ำ (Amniotic fluid) ที่ทางการแพทย์เรียกว่า น้ำทูนหัวทารก  น้ำคร่ำ เป็นของเหลวที่อยู่ในถุงน้ำคร่ำ ซึ่งทารกจะอาศัยอยู่ในถุงน้ำคร่ำที่เป็นเสมือนบ้านหลังแสนอบอุ่นของลูก ทารกน้อยจะลอยตัวอยู่ในถุงน้ำคร่ำ ที่เป็นเกราะป้องกันอันตรายต่างๆ ที่จะมากระทบกระเทือนต่อทารกให้รับบาดเจ็บ ยิ่งในอายุครรภ์อ่อนๆ เสี่ยงต่อการแท้งได้ง่าย

น้ำคร่ำมีประโยชน์อย่างไรกับทารกน้อยในครรภ์ ?

  1. เป็นเกราะป้องกันอันตรายให้กับทารกในครรภ์
  2. ป้องกันแรงกระแทกที่อาจได้รับจากภายนอกครรภ์
  3. ช่วยรักษาอุณหภูมิคงที่ให้ทารกน้อยในครรภ์
  4. ช่วยลดการกดทับสายสะดือจากตัวทารก
  5. ช่วยให้ทารกเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ

และจากกรณีที่คุณแม่ตั้งครรภ์เกินกำหนด และคลอดลูกออกมาเสียชีวิตลงนั้น ยังมีอีกหนึ่งสาเหตุคือสำลักขี้เทาเข้าปอด อย่างรู้ไหมคะว่าภาวะนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงพิมล  ศรีสุภาพ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้อธิบายไว้ดังนี้

“สาเหตุของการเกิดภาวะสูดสำลักขี้เทา มาจากการที่เด็กทารกที่อยู่ในครรภ์ถ่ายขี้เทาออกมาก่อนกำหนด ส่วนใหญ่เกิดจากการที่มีการขาดเลือดไปเลี้ยงทารก อาจจะเกิดจากสาเหตุของโรคประจำตัวของคุณแม่ หรือสาเหตุของตัวทารกเองหรือสาเหตุจากอะไรก็ตามที่ไปทำให้เลือดไปเลี้ยงทารกผ่านสายสะดือแม่น้อยลงแล้วก็จะมีปฏิกิริยาทางระบบประสาทกระตุ้นทำให้เด็กมีการถ่ายขี้เทาออกมา ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะนี้มีหลายสาเหตุ เช่น ในคุณแม่ที่อาจจะพบปัญหาจากการเจ็บป่วยบางอย่างที่มีผลกระทบไปยังการไหลเวียนของเลือดที่ไปที่ลูกก็จะไปกระตุ้นให้มีภาวะนี้เกิดขึ้นได้[1]

ทีมงาน Amarin Baby & Kids ขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่ Yui ในการรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง และกลับมามีลูกอีกครั้งได้อย่างราบรื่นจนคลอดลูกออกมาได้อย่างปลอดภัยค่ะ …ด้วยความห่วงใยและใส่ใจ

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก

น้ำคร่ำแตก อาการเป็นแบบไหน? และควรทำอย่างไร!!
แชร์ประสบการณ์จริง แม่เป็นมะเร็งโพรงจมูก
[เรื่องจริงจากหมอสูติฯ] คลอดเองตามธรรมชาติ หรือผ่าตัดคลอด อย่างไหนดีกว่ากัน?


ขอขอบคุณเรื่องจาก
คุณแม่ Yui Yu-iYui Wanida Rattanaphonr
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
1ผศ.พญ.พิมล  ศรีสุภาพ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล. www.si.mahidol.ac.th