ยาคุมกำเนิด 1 ในวิธีการคุมกำเนิดที่นิยมใช้กันในผู้หญิง แต่สำหรับคุณแม่หลังคลอดที่กำลังให้นมบุตรอยู่ การทานยาชนิดใดก็ตาม จะต้องดูว่ามีผลกระทบต่อน้ำนมหรือไม่
“ยาคุมกำเนิด” แม่หลังคลอดกินอย่างไรให้ปลอดภัย?
ปกติแล้วแม่ที่ให้นมบุตรจะมีการหลั่งฮอร์โมนโปรแลคตินจากต่อมใต้สมองซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการตกไข่ ดังนั้น การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จึงเป็นการคุมกำเนิดหลังคลอดวิธีหนึ่ง แต่การคุมกำเนิดวิธีนี้จะมีประสิทธิภาพดีเฉพาะ ในช่วง 6 หลังคลอด โดยมารดาต้องสามารถให้นมบุตรได้อย่างสม่ำเสมอตลอด 24 ชั่วโมง มีช่วงห่างของการให้นมแต่ละมื้อในช่วงกลางวันไม่เกิน 4 ชั่วโมง ช่วงกลางคืนไม่เกิน 6 ชั่วโมง และในช่วง 6 เดือนหลังคลอดนั้นแม่หลังคลอดจะต้องไม่มีประจำเดือน (อ่านต่อ ให้นมลูก ท้องได้ไหม? ไขข้อข้องใจกับเซ็กส์ในช่วงให้นมแม่)
ดูจากการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ ไม่เหมาะกับแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมผง หรือแม่ที่ไม่แน่ใจว่าได้ให้ลูกทานนมแม่ได้สม่ำเสมอพอที่จะทำให้ร่างกายยับยั้งการตกไข่ได้รือไม่ แม่ ๆ จึงนิยมคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย และ 1 ในวิธีคุมกำเนิดที่นิยมใช้กันคือการทาน “ยาคุมกำเนิด” เพราะสะดวกในการคุมกำเนิดที่สุด เพียงแค่ทาน ยาคุมกำเนิด วันละ 1 เม็ดเท่านั้น แต่การทานยาทุกชนิดในช่วงให้นมลูกนั้น เป็นสิ่งที่ต้องระวัง เพราะยาหรือสิ่งต่าง ๆ ที่ทานเข้าไป อาจจะมีผลกับการให้นมแม่ หรือยาอาจจะออกมากับน้ำนมแม่ได้ ดังนั้น ทีมงาน Amarin Baby & Kids จึงมีวิธีการทาน ยาคุมกำเนิด ให้ปลอดภัยมาฝากกันค่ะ
ยาคุมกำเนิด ควรเริ่มทานหลังจากคลอดเมื่อไหร่?
ในช่วงหลังคลอดประมาณ 3-5 สัปดาห์ คุณแม่ก็สามารถมีไข่ตกได้ตามปกติแล้ว และหลังจากนั้นอีกประมาณ 2 สัปดาห์ก็สามารถตั้งครรภ์ใหม่ได้ในทันที การรอให้ประจำเดือนครั้งแรกมาก่อนแล้วค่อยคุมกำเนิดจึงเป็นการตัดสินใจที่ผิดและช้าเกินไป แต่โดยทั่วไปแล้วแม่หลังคลอดมักได้รับคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ไปจนกว่าจะครบ 4-6 สัปดาห์ หรือจนกว่าจะเข้ารับการตรวจหลังคลอดโดยแพทย์ เพื่อให้มดลูกเข้าอู่ ช่องคลอดกระชับเข้าที่ น้ำคาวปลาหมดไป และแผลที่ช่องคลอดหรือแผลผ่าคลอดหายดี แม่ ๆ จึงนิยมเริ่มทานยาคุมกำเนิดในช่วงหลังคลอด 6 สัปดาห์ไปแล้ว แต่หากมีโอกาสที่จะมีเพศสัมพันธ์ก่อนหน้านั้น ก็ยังสามารถทานยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวได้ก่อนตรวจหลังคลอดได้เช่นกัน
วิธีทาน ยาคุมกำเนิด แผงแรกหลังคลอด
- น้อยกว่า 6 สัปดาห์หลังคลอด หากจำเป็น สามารถเริ่มใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวได้ หากเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว และให้ลูกดูดนมจากเต้าสม่ำเสมอ ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วยเมื่อเริ่มทานยาคุมกำเนิด
- ตั้งแต่ 6 สัปดาห์หลังคลอดขึ้นไป
- ยังไม่มีประจำเดือน เริ่มทานยาคุมกำเนิดวันใดก็ได้
- ในกรณีที่ทานยาคุมกำเนิดเมื่อคลอดแล้ว 6 เดือน และเลี้ยงลูกด้วย
- อย่างเดียวและให้ลูกดูดนมจากเต้าสม่ำเสมอ ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นเพิ่ม
- แต่หากไม่ได้ให้นมแม่อย่างเดียวหรือสม่ำเสมอ หรือคลอดเกิน 6 เดือนแล้ว เมื่อเริ่มทานยาคุมกำเนิด ภายใน 2 วันหลังจากเริ่มทานยาคุมกำเนิด ต้องคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย
- มีประจำเดือนแล้ว
- หากเริ่มใช้ภายใน 5 วันแรกที่มีประจำเดือน สามารถคุมกำเนิดได้เลย
- หากเริ่มใช้หลังจากนั้น ภายใน 2 วันหลังเริ่มทานยาคุมกำเนิด ต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วย
- ยังไม่มีประจำเดือน เริ่มทานยาคุมกำเนิดวันใดก็ได้
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ ยาคุมกำเนิดมีกี่แบบ? แม่หลังคลอดที่ให้นมบุตร ควรทานยาคุมกำเนิดแบบไหน?
ยาเม็ดคุมกำเนิดมีกี่แบบ?
ยาเม็ดคุมกำเนิด เป็นการคุมกำเนิดโดยใช้ฮอร์โมนสังเคราะห์ที่ทำเลียนแบบฮอร์โมนในร่างกายของผู้หญิง คือ เอสโตรเจนและโปรเจสโตเจน บางชนิดอาจจะต้องใช้ฮอร์โมนทั้งสองอย่าง แต่บางชนิดก็มีฮอร์โมนเพียงชนิดเดียว การเลือกทานยาเม็ดคุมกำเนิดนั้นมีข้อดีคือ ให้ผลในการป้องกันสูง แต่ก็มีข้อเสียหรือผลข้างเคียงบ้างเล็กน้อย โดยยาเม็ดคุมกำเนิดนั้น แบ่งออกเป็น 3 ชนิด ดังนี้
- ยาเม็ดคุมกำเนิด (Contraception pill)
- ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (Combined oral contraceptive pill) ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสติน ทำหน้าที่ยับยั้งการตกไข่ ทำให้มูกช่องคลอดข้นขึ้น ป้องกันอสุจิเคลื่อนตัวผ่านปากมดลูก และทำให้ผนังมดลูกไม่เหมาะกับการฝังตัว
- ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว (Progestogen only pill) จะมีโปรเจสตินเพียงอย่างเดียว เป็นยาคุมกำเนิดที่ทำออกมาเพื่อลดอาการข้างเคียงจากฮอร์โมนเอสโตรเจน มีกลไกการออกฤทธิ์ทำให้มูกบริเวณปากมดลูกเหนียวข้นมากขึ้น (อสุจิผ่านเข้าไปผสมกับไข่ได้ยาก) เยื่อบุโพรงมดลูกบางลงและฝ่อไปจนไม่เหมาะกับการฝังตัว ช่วยลดการเคลื่อนที่ของไข่ตามท่อนำไข่ และยับยั้งไม่ให้ไข่ตกโดยการควบคุมแบบย้อนกลับ
- ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน (Emergency contraception pill) เป็นวิธีป้องกันการตั้งครรภ์หลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน รวมถึงเมื่อเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น ถุงยางรั่ว ถูกข่มขืน หรือลืมรับประทานยาคุมกำเนิดตามปกติ เป็นต้น แม้จะเป็นการคุมกำเนิดรูปแบบหนึ่ง แต่อาจมีประสิทธิภาพไม่เท่ากับวิธีการอื่น ๆ โดยยาคุมฉุกเฉินมี 2 ชนิด คือ ลีโวนอร์เจสเตรล 1.5 มิลลิกรัม และอัลลิพริสตัล อซิเตท 30 มิลลิกรัม ซึ่งอาจป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยการยับยั้งการตกไข่ชั่วคราว ป้องกันการปฏิสนธิ หรือไม่ให้ไข่ที่ปฏิสนธิแล้วฝังตัวในมดลูก
แม่หลังคลอดที่ให้นมบุตร ควรทาน ยาคุมกำเนิด แบบไหน?
สำหรับคุณแม่ที่ให้นมลูกต้องเลือกยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดที่มีโปรเจสตินอย่างเดียว เพราะยาคุมกำเนิดชนิดนี้จะไม่ลดปริมาณของน้ำนมแม่ จึงเหมาะกับผู้ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ใช้แล้วไม่ค่อยเป็นสิวเป็นฝ้า แต่จะมีข้อเสียในเรื่องประจำเดือนผิดปกติมากกว่าชนิดฮอร์โมนรวม ทำให้คนทั่วไปที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ไม่นิยมใช้กัน แต่มักจะใช้เฉพาะหลังคลอดไม่กี่เดือน เมื่อไม่ให้ลูกกินนมแม่แล้วก็จะเปลี่ยนไปใช้ยาเม็ดชนิดฮอร์โมนรวม
คำแนะนำในการคุมกำเนิดหลังคลอด
- ยาฉีดและยาฝังคุมกำเนิดก็เป็นวิธีที่ดีและมีประสิทธิภาพสูงเช่นกัน อีกทั้งยังช่วยให้น้ำนมแม่มีมากขึ้นอีกด้วย
- ถ้าคุณแม่ไม่อยากใช้ฮอร์โมนในการคุมกำเนิดก็สามารถเลือกที่จะใช้ห่วงคุมกำเนิดหรือให้คุณพ่อใช้ถุงยางอนามัยก็ได้
- ในกรณีที่คุณแม่มีลูกพอแล้วหลายคนและไม่ต้องการตั้งครรภ์อีกต่อไป การทำหมันจะเป็นวิธีที่ดีและสะดวกมากที่สุด
- คุณแม่ที่มีข้อห้ามในการใช้ฮอร์โมน เช่น เป็นโรคครรภ์เป็นพิษ โรคความดันโลหิตสูง โรคตับอักเสบ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีด และยาฝังคุมกำเนิด โดยการใส่ห่วงอนามัยแทน แต่ห่วงอนามัยที่เลือกใช้ไม่ควรเป็นห่วงคุมกำเนิดชนิดที่เคลือบฮอร์โมน เพราะอาจจะมีผลเสียต่อความดันโลหิตได้
- คุณแม่ที่ไม่สะดวกที่จะใช้วิธีคุมกำเนิดด้วยเหตุผลว่าเป็นข้อห้ามทางศาสนา ก็สามารถเลือกใช้วิธีการคุมกำเนิดตามธรรมชาติด้วยการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะการให้ลูกดูดนมอย่างสม่ำเสมอในระยะ 6 เดือนหลังคลอดจะสามารถคุมกำเนิดได้ผลดีเช่นเดียวกับการกินยาคุมกำเนิดหรือการใส่ห่วงอนามัย
โดยทั่วไปแล้วคุณแม่ควรเว้นระยะการตั้งครรภ์ในครั้งต่อไปประมาณ 2 ปี เพื่อให้ร่างกายของคุณแม่ได้ฟื้นฟูสภาพให้แข็งแรง และให้ลูกคนก่อนโตพอที่จะช่วยเหลือตัวเองได้บ้างแล้ว คุณแม่จะได้มีเวลาเลี้ยงลูกคนต่อไปได้อย่างมีคุณภาพ
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
13 อาหารบำรุงน้ำนม เพิ่มน้ำนม ปลอดภัยจากธรรมชาติ
วิธีรับมือ ผมร่วง หลังคลอด ด้วย 15 สูตรสมุนไพรแก้ผมร่วง
12 อาหารบำรุงแม่หลังคลอด ทำอย่างไรให้น้ำนมมีคุณภาพ
white dot คืออะไร ความเจ็บปวดที่แม่ให้นมต้องรู้! พร้อมวิธีรักษาแสนง่าย
ขอบคุณข้อมูลจาก : medthai.com, www.honestdocs.co, pobpad.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่