AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

4 เคล็ดลับเก็บน้ำนมแม่ได้นานในตู้เย็น คุณค่าสารอาหารครบ ไม่เหม็นหืน

เคล็ดลับเก็บน้ำนมแม่ได้นานในตู้เย็น ไม่เหม็นหืนที่สำคัญคุณค่าสารอาหารยังอยู่ครบไม่ลดน้อยลงไป คุณแม่อยากรู้ไหมคะว่าต้องทำยังไงบ้าง วันนี้เรามีมาแนะนำกันค่ะ รับรองว่าคุณแม่จะมีสต๊อกนมแม่ไว้ให้ลูกทานไปได้นานเลยค่ะ

 

เคล็ดลับเก็บน้ำนมแม่ได้นานในตู้เย็น ไม่เหม็นหืน

อยากรู้กันแล้วใช่ไหมคะว่า 4 เคล็ดลับเก็บน้ำนมแม่ได้นานในตู้เย็น คุณค่าสารอาหารไม่ลดน้อยลงไป เราจะไปทำความเข้าใจกันก่อนว่าเพราะอะไร ”น้ำนมแม่” ถึงได้ “มีกลิ่นเหม็นหืน!!”

น้ำนมแม่ที่ปั๊มเก็บไว้นานๆ อาจมีกลิ่นเหม็นหืนขึ้นมาได้ค่ะ ซึ่งสาเหตุเกิดจากเอนไซน์ไลเปส (lipase) ที่อยู่ในน้ำนมแม่ หากนมแม่มีเอนไซน์ไลเปสปริมาณมากก็จะไปย่อยไขมันในนมแม่ให้แตกตัวมากกว่าปกติ การที่ไขมันในนมแม่แตกตัวมากไปก็จะกระตุ้นให้น้ำนมมีกลิ่นหืน

สำหรับเอนไซน์ไลเสปที่เกิดขึ้นในน้ำนมแม่ เป็นเอนไซน์ตามธรรมชาติที่ร่างกายผลิตขึ้นมา ซึ่งร่างกายของแต่ละคนจะมีการผลิตมากน้อยไม่เท่ากัน แต่เพื่อป้องกันการเกิดกลิ่นหืนในนมแม่ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม แนะนำว่าควรจัดการตั้งแต่เริ่มแรกในขั้นตอนกระบวนการปั๊มเก็บนมแม่ที่ต้องเก็บให้ถูกวิธี เพื่อไม่ให้น้ำนมแม่มีกลิ่นหืน และยังคงคุณค่าสารอาหารมีประโยชน์ต่อร่างกายของลูกน้อย ที่สำคัญลูกจะได้ทานนมแม่ไปนานๆ ค่ะ

ถามว่าน้ำนมแม่ที่มีกลิ่นหืนลูกยังกินได้อยู่ไหม? “ได้ค่ะ” แต่เจ้าตัวเล็กคงจะไม่รู้สึกอร่อยไปกับนมแม่อย่างแน่นอน เพราะกลิ่นหืนของน้ำนมมากวนจมูก แล้วก็อาจทำให้เจ้าตัวเล็กร้องยี้ไม่ยอมกินนมต่อค่ะ

4 เคล็ดลับเก็บนมแม่ได้นานในตู้เย็น คุณค่าสารอาหารไม่เสีย

“น้ำนมแม่” คืออาหารชนิดแรกที่ดีที่สุดสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิดเลยค่ะ เพราะอุดมไปด้วยคุณค่าสารอาหาร ครบถ้วน มีทั้งโปรตีน พลังงาน ไขมันดี น้ำ แคลเซียม สารภูมิคุ้มกัน แร่ธาตุวิตามินต่างๆ ฯลฯ ซึ่งจะดีกว่าไหมถ้าคุณแม่สามารถเก็บรักษาน้ำนมแม่ให้ยังคงคุณค่าสารอาหารไม่ให้ถูกทำลายเสียไปตั้งแต่กระบวบการปั๊มเก็บสต๊อกจนนำไปแช่ฟรีสในตู้เย็น แล้วเมื่อนำออกมาให้ลูกกินยังคงเป็นนมแม่ที่เต็มไปด้วยสารอาหารครบถ้วน ที่สำคัญไม่มีกลิ่นหืนมากวนจมูกลูกด้วยค่ะ

 

การเก็บน้ำนมแม่ถูกวิธีในตู้เย็นกลิ่นหืนก็ไม่มากวนใจ

1. ความสะอาด

เครื่องปั๊มนมควรทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคก่อนใช้ทุกครั้ง วิธีง่ายๆ คือการนำไปต้ม เสร็จแล้วก็เช็ดให้แห้งก่อนใช้งานค่ะ

2. ถุงเก็บน้ำนมต้องมีคุณภาพ

น้ำนมที่ปั๊มสต๊อกควรเก็บใส่ในถุงเก็บนมที่ได้คุณภาพ ซิปล็อกแน่นสนิท เพื่อป้องกันอากาศ และเชื้อแบคทีเรียเข้าไปทำลายคุณภาพน้ำนม

3. เก็บสต๊อกน้ำนมแช่เย็นทันที

น้ำนมที่เก็บในถุงเก็บน้ำนมแล้วนั้นให้เขียนวันเดือนปีที่เก็บไว้ด้วยนะคะ เพื่อจะได้ทราบว่าควรนำสต๊อกนมถุงไหนออกมาให้ลูกกินก่อน-หลัง จากนั้นก็ให้เก็บแช่เย็นในตู้เย็น หรือตู้แช่นมทันที

4. ไม่เก็บน้ำนมปนกับอาหารที่มีกลิ่น

คุณแม่ส่วนใหญ่เลยค่ะบอกว่าไม่มีตู้แช่นมแม่ แต่จะเก็บน้ำนมแม่ไว้ในตู้เย็นปกติได้ไหม “ได้ค่ะ” แต่เพื่อให้น้ำนมแม่ยังคงคุณค่าสารอาหาร ไม่มีกลิ่นหืน แนะนำว่าให้เก็บนมแม่ในตู้เย็นที่มีคุณสมบัติช่วยในเรื่องคงความสดให้กับอาหารแม้ต้องเก็บไว้นาน

อย่างตู้เย็น Samsung Twin Cooling Plus™ เป็นหนึ่งในตู้เย็นที่หลายครอบครัวเลือกใช้กันค่ะ โดยเฉพาะกับแม่ที่ให้นมลูกขอบอกว่า Samsung Twin Cooling Plus™ ตอบโจทย์ได้ดีมากๆ เนื่องจากมีพื้นที่ให้เก็บนมแม่ได้ในปริมาณมาก เพราะพื้นที่ภายในตู้เย็นกว้างสามารถเก็บแช่อาหารได้หลากหลายประเภท และหมดปัญหาเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์จากอาหาร แบบนี้คุณแม่สบายใจได้ว่าน้ำนมแม่ที่แช่ไว้จะยังคงคุณค่าสารอาหาร และไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่นหืนที่อาจเกิดจากอุณหภูมิที่ไม่สม่ำเสมอ หรือกลิ่นรบกวนจาก  อาหารอื่นๆ ค่ะ

ความยอดเยี่ยมคุ้มค่าของ ตู้เย็น Twin Cooling Plus™ จากซัมซุง ต้องบอกว่าแค่คุณแม่มีตู้เย็นเครื่องเดียว ก็สามารถช่วยให้คุณแม่สบายใจเรื่องเก็บสต็อกน้ำนมแม่ และเก็บอาหารสดต่างๆ ให้คงความสดคุณค่าสารอาหารไม่ถูกทำลายได้แล้วค่ะ เพราะตู้เย็นซัมซุงตอบโจทย์คุณสมบัติที่แม่อยากได้ไว้ให้แล้วค่ะ

แค่เห็นดีไซน์ด้านนอกก็น่าใช้แล้วค่ะ เพราะมาในขนาดใหญ่กำลังดี และภายในก็สามารถแช่อาหาร เครื่องดื่มได้สารพัดค่ะ ไปเปิดดูด้านในกันค่ะ

ภายในตู้เย็นกว้างขวาง และช่องเก็บอาหารก็แบ่งไว้เป็นสัดส่วน มีความจุมาก แล้วก็หยิบ-เก็บอาหารได้สะดวกด้วยค่ะ

สำหรับคุณสมบัตของตู้เย็น 2 ประตู ซัมซุง Twin Cooling Plus™

  1. ตู้เย็น 2 ประตู ช่วยรักษาระดับอุณหภูมิให้คงที่ แม้จะเปิดประตูบน หรือล่าง ก็ไม่กระทบกับอุณหภูมิความเย็นภายในทั้งหมด
  2. มีพื้นที่จัดเก็บที่สามารถปรับช่องแช่แข็งให้กลายเป็นช่องแช่เย็นได้ เพื่อเก็บรักษาอาหารสด
  3. สุดยอดเทคโนโลยีของ Twin Cooling Plus™ ที่ทำความเย็นให้กับช่องแช่เย็นและช่องแช่แข็งโดยแยกเป็นอิสระจากกัน ทำให้ช่วยรักษาระดับความชื้นสูงสุด 70% ทั่วทุกพื้นที่ในช่องแช่เย็น และป้องกันไม่ให้กลิ่นอาหารปะปนกัน
  4. ช่วยคงความสดและใหม่ให้กับอาหารทุกประเภทได้ยาวนานกว่า
  5. ภายในออกแบบแสงสว่างด้วยไฟ LED ช่วยให้ประหยัดพลังงานได้สูง
  6. ช่องแช่ของกว้างขวาง มีความจุในการแช่อาหารมาก และมีความเป็นสัดส่วน ทำให้อาหารบางประเภทไม่ถูกรบกวน จึงเหมาะที่จะฟรีสเก็บสต๊อกน้ำนมแม่
  7. ทำงานได้นานขึ้น เสียงรบกวนและการใช้พลังงานที่ลดลง ด้วยเทคโนโลยีดิจิตอลอินเวอร์เตอร์ปรับความเร็วของคอมเพรสเซอร์โดยอัตโนมัติ ตามความต้องการในการทำความเย็น 7 ระดับ จึงใช้พลังงานน้อยกว่า ลดเสียงรบกวน และลดการสึกหรอ ตู้เย็นจึงทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้ยาวนานกว่า

ตอนเห็นตู้เย็นซัมซุงรุ่นนี้ แบบว่าถูกใจมากค่ะ เพราะเป็นการลงทุนซื้อตู้เย็นที่คุ้มค่ามากๆ รุ่นนี้เป็นแบบ 2 ประตูเหมือนกัน แต่แตกต่างตรงที่ดีไซน์ให้ประตูเปิด-ปิด ทั้ง 2 ด้านอยู่ข้างหน้า คุณแม่จะเปิดแค่ด้านใดด้านหนึ่งเพื่อแชร์ หยิบ เก็บอาหารก็ได้ หรือจะเปิดสองด้านพร้อมกันได้เช่นกันค่ะ

รุ่นนี้ภายในกว้าง สามารถจุของได้เยอะ ช่องแบ่งแชร์อาหารก็เป็นสัดส่วน และมีพื้นที่แชร์แต่ละช่องเก็บอาหารขอบอกว่าใหญ่มากค่ะ  สำหรับคุณสมบัติของตู้เย็น 2 ประตู ซัมซุง Twin Cooling Plus™ รุ่นนี้ก็ดีไม่แพ้ 2 รุ่นที่แนะนำไปค่ะ

  1. ดูแลความชื้นที่เหมาะสมสำหรับอาหาร Twin Cooling Plus™ ทำความเย็นให้กับช่องแช่เย็นและช่องแช่แข็งโดยแยกออกจากกัน เครื่องระเหยและระบบทำความเย็นมอบสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ด้วยระดับความชื้นสูงและไม่มีกลิ่นเหม็นอับ ดังนั้นอาหารจึงคงความสดใหม่ยาวนานกว่า
  2. พื้นที่ภายในกว้างขวาง ด้วยความจุ 620 ลิตร มีพื้นที่มากมายสำหรับการจัดเก็บของชำที่คุณซื้อมาในแต่ละสัปดาห์ และเก็บทุกสิ่งให้เป็นระเบียบเรียบร้อยได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น คุณจึงสามารถค้นหาสิ่งที่คุณต้องการได้อย่างรวดเร็ว
  3. มีเทคโนโลยี Precise Chef Cooling ที่ช่วยเก็บรักษาอาหารให้สดใหม่ได้ยาวนานกว่า โดยจะลดความผันผวนของอุณหภูมิให้อยู่ในช่วง ±5°C* ด้วยการตรวจจับความเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง แล้วควบคุมการทำงานของคอมเพรสเซอร์

นี่เป็นเพียงคุณสมบัติส่วนหนึ่งของตู้เย็น Samsung Twin Cooling Plus™ ที่คุ้มค่ากับการใช้งานมากๆ เพราะนอกจากจะเก็บอาหารได้หลากหลายแล้ว คุณแม่ก็ยังเก็บนมแม่ให้ยังคงคุณค่าสารอาหารไว้ให้ลูกน้อยทานได้นานเท่าที่ต้องการค่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://bit.ly/2qv8ItG