สำหรับคุณแม่หลายคน การให้นมลูกอาจเป็นเรื่องยาก เพราะมีปัญหาหลายๆ อย่าง เช่น ลูกไม่เข้าเต้า ไม่ยอมดูด นม แม่ หรือปัญหาน้ำนมน้อย และไม่มีเวลา เรื่องกังวลเหล่านี้คุณแม่สามารถพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำปรึกษาได้ หรืออ่านความรู้ดีๆ ที่ Amarin Baby & Kids เอามาฝาก
นม แม่ ดีที่สุด
น้ำนมแม่ คือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของลูก คุณแม่หลายๆ คนทราบดีอยู่แล้วว่าข้อดีของนมแม่นั้นมีอะไรบ้าง แต่ก็เลือกที่จะยอมแพ้ด้วยเหตุผลที่ว่า น้ำนมไม่มี, เวลาไม่พอ, เหนื่อย, คนรอบข้างไม่เข้าใจ, ให้นมผงเร็วและทันใจกว่า เหตุผลและความคิดเหล่านี้เป็นตัวบั่นทอนกำลังใจและความตั้งใจของคุณแม่ให้ยอมแพ้ได้ง่าย
มีข้อมูลทางวิชาการและบทความต่างๆ มากมายพูดถึงประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งต่างยืนยันว่า นมแม่นั้นมีประโยชน์ที่ช่วยปกป้อง และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูก ไม่ว่าจะทางด้านร่างกาย จิตใจ และพัฒนาการทางสมอง ซึ่งนมชนิดไหนๆ ก็ไม่สามารถนำมาเทียบเคียงได้เลย แต่เส้นทางของการให้นมแม่ นั้น ช่างดูห่างไกล บางคนท้อแท้ใจ รู้สึกเหนื่อยล้า ให้นมลูกได้เพียงแค่ 3 เดือน บางคนมีเหตุผลด้านการทำงานที่ไม่สะดวก บางคนต้องฝากลูกไว้ให้ปู่ย่าตายายเลี้ยงแล้วตัวเองต้องแยกกับลูกจึงไม่สามารถให้นมได้
แต่สำหรับใครหลายๆ คนที่สามารถให้ได้ ลูกอยู่กับตัว แต่เลิกเพราะรู้สึกเหนื่อยหรือท้อแท้ใจที่นมแม่ไม่มี หรือมีน้อย จากข้อมูลรายงานการสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย ครั้งที่ 5 ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า มีแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วนถึง 6 เดือน เพียงร้อยละ 23 ส่วนแม่ที่สามารถให้นมลูกได้ถึง 2 ปี มีเพียงร้อยละ 16 ซึ่งยังเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก เพื่อเป็นการกระตุ้นเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 1-6-2 จึงเป็นรหัสที่มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้สื่อสารถึงแม่ทั่วประเทศไทย โดยมีความหมายว่า
1 หมายถึง ให้ลูกกินนมแม่ 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด
6 หมายถึง นมแม่อย่างเดียว 6 เดือนแรก
2 หมายถึง นมแม่ต่อเนื่อง 2 ปี หรือนานกว่านั้น
อ่านต่อ “นมแม่ ให้นมลูกอย่างไรให้สำเร็จภายใน 14 วัน” คลิก หน้า 2
แพทย์หญิงยุพยง แห่งเชาวนิช รองประธานมูลนิธินมแม่แห่งประเทศไทยได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า หนทางสู่ความสำเร็จของการให้นมแม่นั้นไม่ได้มีเพียงแค่รหัส 1-6-2 เท่านั้น หากแต่ 14 วันหลังการคลอดก็นับเป็นช่วงเวลาเริ่มต้นสำคัญที่นำไปสู่การประสบความสำเร็จได้ด้วยเช่นกัน
“ระหว่างที่แม่อยู่ในโรงพยาบาลนั้นจะต้องเรียนรู้เรื่องการให้นมแม่กับลูกน้อย อุ้มลูกให้ถูกวิธี ให้ลูกดูดนมอย่างถูกต้อง ระยะเวลาในการให้นม รวมไปถึงพฤติกรรมต่างๆ ของลูกที่แสดงออกมาเพื่อสื่อสารกับแม่ ถ้าแม่ไม่ได้รับความรู้เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไม่เพียงพอในช่วง 7-14 วันหลังคลอด จะทำให้ไม่เข้าใจการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างถูกต้อง รวมไปถึงการดูแลและสังเกตพฤติกรรมลูก สิ่งเหล่านี้ทำให้เราต้องกลับมานั่งทบทวนว่า นี่คือช่องว่างของปัญหาที่เกิดขึ้น และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องต้องแก้ไขหรือไม่”
“ช่วงเวลา 14 วัน น่าจะเพียงพอในการที่แม่และลูกเรียนรู้พฤติกรรมซึ่งกันและกัน และแก้ไขปัญหาเรื่องนมแม่ที่เกิดขึ้น เช่น นมไม่พอ วิธีการให้ลูกดูดนมถูกวิธี การดูว่าลูกกินนมอิ่มหรือเพียงพอไหม ด้วยการสังเกตสีหน้าแววตา หรือการนอนหลับของลูก รวมถึงจำนวนผ้าอ้อมของลูกเป็นต้น” แพทย์หญิงยุพยง ย้ำ
นอกจากนี้กุมารแพทย์ชื่อดังระดับประเทศอย่าง แพทย์หญิงสุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ ก็ได้ออกมาแนะแนะถึงหนทางสู่การให้นมแม่ได้อย่างสำเร็จดังนี้
หนทางสู่การให้นมแม่ได้สำเร็จลุล่วง!
การให้นมแม่บางคนอาจเคยได้ยินว่า หากน้ำนมน้อย หรือหัวนมบอดก็ไม่สามารถให้นมลูกได้ หรือให้นมแม่เป็นเรื่องยาก ความจริงแล้วผู้หญิงที่เป็นแม่ทุกคนสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้หากรู้วิธีการถูกต้องด้วยการอาศัยกุญแจสำคัญ 4 ประการอันได้แก่
หนึ่ง… อย่าใช้นมผง
สอง… อย่าด่วนหมดกำลังใจ และ
สาม… ต้องกระตุ้นเต้านมบ่อยๆ และ
สี่…ตัวช่วยที่สำคัญ ผู้ให้คำแนะนำ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล ผู้ให้คำปรึกษาเรื่องนมแม่ หรือคุณแม่ที่เคยมีประสบการณ์เลี้ยงลูกด้วยนมแม่มาก่อน เป็นต้น
การให้ลูกเริ่มดูดนมเร็วที่สุดภายใน 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด การให้ลูกอยู่ร่วมห้องเดียวกับแม่ การให้ลูกได้ดูดนมบ่อยๆ เท่าที่ลูกต้องการ ยิ่งลูกได้ดูดบ่อยจะยิ่งชำนาญในการดูดมากขึ้น และแม่จะผลิตปริมาณน้ำนมเพิ่มขึ้นด้วย
อ่านต่อ “วิธีการให้นมลูกหลังคลอด สำหรับคุณแม่มือใหม่” คลิกหน้า 3
วิธีการให้นมลูกหลังคลอด สำหรับคุณแม่มือใหม่
3 สิ่งแรกหลังคลอด คือ จุดเริ่มต้นของความสำเร็จในการให้นมแม่ ได้แก่ การสัมผัสลูกน้อยตั้งแต่แรกคลอดทันที การเริ่มดูดนมทันที และการเริ่มให้นมทันที
กอดลูกน้อยให้ผิวกายของคุณแม่ แนบชิดบนหน้าอกที่ไม่มีเสื้อผ้า หลังคลอดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะช่วยให้ร่างกายของลูกน้อยคงความอบอุ่นไว้ ผ่อนคลาย ร้องไห้น้อยลง ช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจ และการหายใจคงที่ ที่สำคัญคือลูกน้อยจะเริ่มกินนมแม่ได้เร็วขึ้น
วิธีสังเกตว่าลูกต้องการกินนม
1.ลูกน้อยกรอกตาไปมาเร็วๆ
2.ดิ้นไปมาขณะนอน เอามือถูหน้าไปมา
3.ส่งเสียงอ้อแอ้
4.พลิกศีรษะไปมา
5.เลียริมฝีปาก แลบลิ้นไปมา หรือดูดมือ
6.ร้องไห้ สัญญาณนี้เกิดขึ้นหลังจากสัญญาณอื่นๆ
หากรอจนลูกร้องไห้ จะทำให้คุณแม่ให้นมยากขึ้น ดังนั้นจึงควรตอบสนองต่อสัญญาณก่อนหน้าให้เร็วที่สุด
ควรให้นมลูกน้อยบ่อยแค่ไหน?
ทารกทุกคนมีรูปแบบการกิน และการนอนไม่เหมือนกัน คอยสังเกตว่าลูกต้องการนมตอนไหน โดยในช่วง 2-3 วันแรก เด็กส่วนใหญ่ต้องการกินนมค่อนข้างถี่ บางครั้งอาจประมาณทุก 1-2 ชั่วโมง ความต้องการนมบ่อยครั้งจะช่วยเพิ่มจำนวนการผลิตนมให้คุณแม่ด้วย และอย่าลืมว่าต้องให้นมลูกถูกท่า ลูกกินนมอย่างสม่ำเสมอ
ขอบคุณที่มา: สสส. และ Breastfeeding Thai
อ่านบทความที่น่าสนใจ คลิก!!
หลัก 3 ดูด + เข้าเต้า สูตรเด็ดให้นมแม่ได้สำเร็จและยาวนาน
ลูกไม่ยอมดูดเต้า ทำไงดี?
กู้น้ำนมแม่ ในวันที่น้ำนมหดหาย ทำได้จริงถ้าใจแม่สู้!!
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่