เราเคยรู้อยู่แล้วว่านมแม่เป็นอาหารอันวิเศษของลูก ซึ่งดีต่อสุขภาพทั้งกายและใจของเขา แต่การให้นมแม่ ดีต่อสุขภาพของแม่อย่างไรบ้างนั้น เรามีคำอธิบาย ประโยชน์ของนมแม่ มาฝากกันค่ะ
ประโยชน์ของนมแม่ ข้อดีต่อทั้งแม่และลูก
เพราะการให้นมแม่ แก่เด็กทารก เป็นสิ่งที่ดีทั้งต่อสุขภาพแม่และลูก จึงมีนโยบายของรัฐบาลและความพยายามจากหน่วยงานนานาชาติในการส่งเสริมและสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเลี้ยงทารกในช่วงขวบปีแรก หรือ นานกว่านั้น โดยองค์การอนามัยโลกและกุมารแพทย์ของอเมริกา (American Academy of Pediatrics) ก็มีนโยบายสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เช่นเดียวกัน
ประโยชน์ของนมแม่ ที่มีต่อทารก
- ทารกที่กินนมแม่จะลดอัตราเสี่ยงการเป็นโรคไหลตายในเด็ก (Sudden Infant Death Syndrome หรือ SIDS)
- ทารกจะได้รับภูมิคุ้มกันโรคหลายชนิด
- การดูดที่อกแม่ช่วยกระตุ้นให้เกิดพัฒนาการของฟันและอวัยวะในการออกเสียงอย่างเหมาะสม
- การให้ลูกดูดนมจากเต้ายังช่วยให้ลูกน้อยได้ใกล้ชิดกับแม่สร้างความผูกพัน อบอุ่นใจ และ ทำให้ลูกรู้สึกปลอดภัยอีกด้วย
ประโยชน์ของนมแม่ ที่มีต่อแม่
- การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ช่วยกระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนออกซิโทซิน และโพรแล็กติน ซึ่งทำให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลาย และเกิดความรักใคร่ทะนุถนอมในตัวลูก
- นอกจากนี้การให้ลูกกินนมแม่ทันทีหลังคลอดยังช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนออกซิโทซินในร่างกายทำให้มดลูกเข้าอู่ได้เร็ว
- แถมลดอาการตกเลือดได้อีกด้วย
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ติดตาม เรื่องควรรู้เกี่ยวกับ นมแม่ คลิกต่อหน้า 2
เรื่องควรรู้เกี่ยวกับ นมแม่
1.การเติบโตของเด็กกินนมแม่จะแตกต่าง จากเด็กกินนมผสม ทั้งนี้เด็กที่ได้กินนมแม่อย่างเหมาะสมจะเติบโตเร็วในช่วงแรกโดยเฉลี่ยประมาณ 6 เดือน
2.แม่ทุกคนมีปริมาณน้ำนมมากพอที่จะเลี้ยงลูก ฉะนั้นอย่ากังวลหากบีบน้ำนมแม่ไม่ออกในช่วง 2-3 วันแรกหลังคลอด เพราะน้ำนมแม่ยังมีปริมาณไม่มากนัก
ขอเพียงคุณแม่ตั้งใจจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เชื่อมั่นว่าตนเองมีน้ำนมพอ อย่าเครียด และพยายามทําตัวเองให้ผ่อนคลายเข้าไว้ เพราะต้องมีเรื่องให้ต้องอดทนอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น
– อดทนต่อความเหนื่อยที่ให้ลูกดูดนมทุก 2-3 ชั่วโมง
– อดทนต่อการเจ็บ หรือเสียวมดลูกขณะลูกกําลังดูดนม เป็นผลมาจาก ฮอร์โมนออกซิโทซินที่ช่วยเพิ่มสัญชาตญาณความเป็นแม่ส่งผลทําให้มดลูกหดตัว
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
3. เทคนิคสำคัญ สู่ความสำเร็จของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ให้ลูกดูดเร็วๆ โดยให้ดูดนมทันทีในห้องคลอด และดูดบ่อยๆทุก 2-3 ชั่วโมง ซึ่งการดูดที่ถูกวิธี คือ ปากลูกงับให้ถึงลานนม
บทความแนะนำ หลัก 3 ดูด + เข้าเต้า สูตรเด็ดให้นมแม่ได้สำเร็จและยาวนาน
4.เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนแรก ไม่ต้องกินน้ำ หรือ อาหารอื่นๆ เหล่านี้ถือเป็นข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลกร่วมกับ องค์การยูนิเซฟ
บทความแนะนำ ทารกแรกเกิด-6 เดือน ต้องกินน้ำหรือไม่ ?
ติดตาม นมแม่ คือ อาหารทิพย์ดีต่อทั้งแม่ และ ลูก คลิกต่อหน้า 3
5.ไม่จำเป็นต้องเช็ดถูทำความสะอาดหัวนมก่อนให้ลูกดูดนมแม่ แต่ควรจะดูว่า หัวนมตัวเองนั้นมีขนาดสั้นยาว หรือใหญ่ โดยดูขณะตั้งครรภ์ ทั้งนี้หากหัวนมแม่ มีความยาวหรือสั้นกว่าปกติจะได้แก้ไขในขณะที่ตั้งครรภ์ (ทั้งการใช้มือดึงหัวนม และอุปกรณ์ สำหรับวิธีการดึงทางโรงพยาบาลสามารถแนะนำให้กับคุณแม่ได้) เพื่อให้ลูกดูดนมแม่ได้ง่ายหลังคลอด (ความยาวหัวนมปกติคือ 0.5-0.6เซนติเมตร)
6.แม่ที่ติดเชื้อเอชไอวีไม่ควรให้ลูกกินนมแม่เพื่อลดโอกาสการผ่านเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูก
7.การใช้มือบีบน้ำนมเก็บไว้ให้ลูกดีกว่าใช้เครื่องปั๊มนม เพราะนอกจากจะสะดวกและประหยัดแล้ว ยังได้ปริมาณน้ำนมที่มากกว่าการใช้เครื่องปั๊ม
8.แม่ที่ให้ลูกดูดนมแม่ รูปร่างและ น้ำหนักจะกลับมาเป็นปกติเหมือนตอนก่อนท้อง เมื่อลูกอายุประมาณ 6 เดือน ดังนั้นแม่ จึงไม่จำเป็นต้องลดปริมาณอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนัก แต่หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่จะทําให้อ้วนก็พอ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
วิถีนมแม่ ในแบบฉบับคนญี่ปุ่น
ถ้าพูดถึงชนชาติที่เลี้ยงลูกด้วยตัวเองอย่างเห็นได้ชัดที่สุด หนึ่งในนั้น ก็คือ ประเทศญี่ปุ่น คุณแม่ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เมื่อแต่งงานแล้วจะลาออกจากงานมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว ซึ่งแน่นอนต้องเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง และเลี้ยงด้วยนมแม่ เพราะคุณแม่ญี่ปุ่น ทราบดีว่า นมแม่เป็นแหล่งอาหารสำคัญของลูก ช่วยสร้างทั้งภูมิ และเสริมความแข็งแรงให้เด็กมีพัฒนาการดี
จึงไม่น่าแปลกใจว่าอัตราการเสียชีวิตของทารกก่อนขวบจึงน้อยมากจนติดอันดับโลก เคล็ดลับของการสร้างน้ำนมของคุณแม่ชาวญี่ปุ่นคือ การรับประทานอาหาร ที่ทำมาจากถั่วเหลือง เน้นเนื้อปลา ผัก เช่น แครอท หัวไช้เท้า เหล่านี้ช่วยให้น้ำนมไหลดี และหลีกเลี่ยง อาหาร หรือ ขนมรสหวานจัด รวมถึงคาเฟอีน ที่ส่งผลกระทบทำให้น้ำนมลดน้อยลง
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ
ไขข้อข้องใจ! “ผ่าคลอด น้ำนมไหลช้า” จริงหรือ? พร้อมเทคนิคนวดเปิดท่อน้ำนม (มีคลิป)
หวัดแดด โรคหน้าร้อน ที่ต้องระวังในเด็กเล็ก
3 โรคที่แม่ป่วย ต้องระวัง อยู่กับลูกอย่างไรไม่ให้ลูกติดเชื้อ