AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

สัญญาณร้ายบ่งบอก ทารกเสียชีวิตในครรภ์

Credit Photo : Shutterstock

ทารกเสียชีวิตในครรภ์ ถามว่ามีโอกาสเป็นไปได้ไหม? ตอบเลยว่าได้ การเสียชีวิตของทารกขณะอยู่ในครรภ์ของแม่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และเพื่อให้แม่ท้องได้รู้เท่าทันสัญญาณร้ายที่เตือนบอกถึงความวิกฤตที่กำลังจะเกิดขึ้นกับลูกน้อยในท้อง ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีวิธีสังเกตถึงความผิดปกติมาให้ได้ทราบกันค่ะ

 

ทารกเสียชีวิตในครรภ์ ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น!!

แน่นอนว่าไม่มีผู้หญิงท้องคนไหนที่อยากจะให้ ทารกเสียชีวิตในครรภ์ ยิ่งโดยเฉพาะในคู่สามีภรรยาที่มีลูกยากและตั้งใจมีลูกกันมากๆ แต่ระหว่างทางของการอุ้มท้องนั้นก็อาจไม่ได้ราบรื่นกับแม่ท้องทุกคนเสมอไป อย่างบางคนมีการคลอดก่อนกำหนด หรือที่ร้ายแรงคือมีการแท้งและลูกก็เสียชีวิตขณะที่ยังอยู่ในท้องของแม่ ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าเศร้าใจมากๆ กับหัวอกของคนกำลังจะได้เป็นพ่อแม่

 

บทความแนะนำ คลิก>> ครรภ์ไข่ปลาอุก สาเหตุเกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่?

 

สำหรับอาการอันตรายระหว่างท้องที่สามารถพบว่าเกิดขึ้นได้กับคนท้อง ที่อาจจะไม่ได้เป็นกับแม่ท้องทุกคน แต่ส่วนหนึ่งกลับต้องเผชิญกัน เช่น…

ซึ่งอาการเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อสุขภาพครรภ์ได้ หากคุณแม่ท้องไม่สามารถประคับประคองให้การตั้งครรภ์ดำเนินไปได้ตลอดจนครบกำหนดคลอด ก็เสี่ยงต่อการสูญเสียหนึ่งชีวิตน้อยๆ ไปได้อย่างน่าเสียดายค่ะ

อ่านต่อ 2 สัญญาณบอกทารกอาจเสียชีวิตในครรภ์ หน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

2 สัญญาณร้ายบ่งบอก ทารกเสียชีวิตในครรภ์

อย่างที่บอกค่ะเรื่องน่าเศร้าที่สุดของการอุ้มท้องคือ ครรภ์ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้จนครบกำหนด 9 เดือน ซึ่งสาเหตุต่างๆ ที่สามารถทำให้การตั้งครรภ์ต้องสิ้นสุดลงก่อนเวลามากได้จากหลายสาเหตุค่ะ ดังนั้นเพื่อให้แม่ท้องทุกคนได้เฝ้าระมัดระวังตระหนักถึงความปลอดภัยของตัวเองขณะเริ่มตั้งครรภ์ ผู้เขียนมีสัญญาณสุขภาพที่บอกได้ว่าคุณแม่ท้องกำลังเสี่ยงอยู่ในภาวะที่อาจทำให้ลูกเสียชีวิตขณะอยู่ในท้องได้ ดังนี้…

1. สัญญาณการแท้ง

เป็นหนึ่งในสัญญาณอันตรายทางสุขภาพที่เกิดขึ้นได้กับคนท้องเกือบจะทุกคนเลยค่ะ รศ.นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์ ได้อธิบายถึงสาเหตุการแท้งไว้ดังนี้…

สัญญาณอันตรายเสี่ยงแท้ง

แนะนำว่าหากคุณแม่เริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีอาการผิดปกติที่สังเกตได้ด่านแรกเลยคือ การที่มีเลือดออกจากช่องคลอด ถ้าพบว่ามี เลือดออกให้รีบไปพบคุณหมอที่ดูแลครรภ์คุณแม่อย่างเร่งด่วน เพราะหากมีภาวะแท้งจริง คุณหมอจะให้การรักษาใน เบื้องต้นได้อย่างทันเวลา ซึ่งก็ทำให้สามารถรักษาชีวิตลูกในท้องไว้ได้ค่ะ

2. สัญญาณลูกไม่ดิ้น

เมื่ออายุครรภ์ได้ประมาณ 5 เดือน คุณแม่ท้องจะรับรู้ได้ว่าลูกเริ่มดิ้นแล้ว แต่ถ้าลูกไม่มีการดิ้น หรือลูกเคยดิ้นแล้วจู่ๆ ไม่มี การดิ้นขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง นั่นถือเป็นสัญญาณอัยตรายที่บอกว่าลูกอาจเสียชีวิตได้  จากประสบการณ์ของคนใกล้ตัวผู้เขียนที่ลูกไม่ดิ้นตอนอายุครรภ์ 6 เดือนด้วยเพราะสายรกพันคอจนเสียชีวิต

เพื่อให้คุณแม่ท้องมั่นใจและสามารถเช็กได้ว่าลูกในท้องดิ้นอยู่หรือไม่ มีอยู่ 2 วิธีในการนับการดิ้นของลูกมาให้ดังนี้ค่ะ…

1. นับลูกดิ้นในช่วงเวลาติดๆ กัน 4 ชั่วโมง

คุณแม่ลองสังเกตและนับดูว่าลูกในท้องดิ้นได้เกิน 10 ครั้งในชั่วโมงหรือไม่ หากนับได้ 10  ครั้งใน 4 ชั่วโมงถือว่าลูกปกติ แต่หากไม่มีการดิ้นต่อเนื่องกันภายใน 4 ชั่วโมง นั่นแสดงถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับลูกในท้องแล้วค่ะ

2. การนับลูกดิ้นหลังอาหาร

วิธีนี้ให้นับลูกดิ้นหลังอาหารในแต่ละมื้อเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ซึ่ถ้าลูกดิ้นมากกว่า 4 ครั้งขึ้นไปก็ถือว่าปกติไม่มีอะไรให้น่ากังวลค่ะ

นอกจากอาการแท้ง และการดิ้นของลูกจะบอกได้ถึงสัญญาณการเสียชีวิตได้ตั้งแต่ตอนที่ลูกอยู่ในครรภ์ของแม่ ก็ยังรู้ได้จากการตรวจสุขภาพครรภ์ในช่วงเริ่มแรกของการตั้งครรภ์ นั่นคือฟังหัวใจทารก ที่คุณหมอจะรู้ได้จากการ…

จริงๆ แล้วนอกจากสัญญาณสุขภาพเหล่านี้แล้ว ก็ยังมีกลุ่มอาการที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตของทารกในครรภ์ได้อีกมาก เช่น แม่เกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ รกเกาะต่ำ การตั้งท้องลม การท้องนอกมดลูก การท้องไข่ปลาอุก เป็นต้น

อ่านต่อ วิธีลดกังวล คลายเครียดตอนท้อง หน้า 3

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

10 วิธี ลดกังวลและคลายเครียดเพื่อสุขภาพครรภ์ที่ดี

ผู้เขียนได้อ่านคำแนะนำที่มีประโยชน์นี้จากสุขใจ ได้เป็นแม่ ของกระทรวงสาธารณสุข จึงอยากนำมาแชร์ให้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ได้ลองนำไปใช้กันค่ะ

  1. แต่งหน้าให้สดใส
  2. เลือกหนังเรื่องที่สนใจ แล้วนั่งดูด้วยท่าที่สบาย พร้อมเครื่องดื่มอุ่นๆ สักแก้ว
  3. คุณพ่ออาจช่วยผ่อนคลาย โดยการนวดเบาที่บริเวณคอ หลัง ไหล่ และช่วงขา ซึ่งการนวด และการดูแลอย่างใกล้ชิดจะช่วยผ่อนคลายความเครียดและความกังวลได้มาก
  4. อาจใช้วิธีสุคันธบำบัด โดยเลือกน้ำมันหอมระเหยกลิ่นอ่อนๆ ชโลมมือคุณพ่อระหว่างการนวดหรือหยดเล็กน้อยผสมลงในน้ำที่อาบ
  5. ในเวลาที่แดดร่มลมตกควรออกไปเดินเล่นนอกบ้าน สูดอากาศที่สดชื่น พักผ่อนสายตากับธรรมชาติที่สวยงามจะทำให้จิตใจสบายขึ้น
  6. การลงแช่ หรือว่ายน้ำเอื่อยๆ ในสระน้ำจะช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายร่างกายได้ดีมาก เพราะน้ำจะช่วยพยุงรับน้ำหนัก ตัวเราไว้หากสามารถทำกายบริหารในน้ำได้ด้วยก็ยิ่งช่วยคลายกล้ามเนื้อได้ดียิ่งขึ้น
  7. ตัดหรือเปลี่ยนทรงผมใหม่ๆ บ้างจะทำให้รู้สึกเป็นคนใหม่ สดใสขึ้นทันตาเห็น
  8. หาคนมาช่วยแบ่งเบาภาระงานในบ้านลงบ้าง เพื่อจะได้มีเวลาทำอะไรตามใจชอบ
  9. ไปช้อปปิ้ง เลือกซื้อของถูกใจหรือของใช้ให้ลูกก็ช่วยทำให้มีความสุขและเพลิดเพลินได้
  10. เลือกเพลงโปรดฟังสบายๆ ในมุมสงบๆ นั่งทอดอารมณ์ปลดปล่อยความเครียดออกจากใจ

ผู้เขียนและทีมงานทุกคน ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ผู้หญิงท้องทุกคนได้มีครรภ์คุณภาพกันทุกคนค่ะ และหากพบว่าตัวเองมีอาการผิดปกติต่างๆ ไม่จะมากหรือน้อย ขอให้รีบไปโรงพยาบาลทันที อย่าชะล่าใจทิ้งอาการปล่อยไว้จนแก้ไขรักษาไม่ทันนะคะ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใย

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

อ่านต่อบทความเรื่องที่น่าสนใจคลิก

รับมือกับ 10 ความเสี่ยง ตั้งครรภ์แฝด
ท้องนอกมดลูก อันตรายไหม ?


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
รศ.นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์. คู่มือตั้งครรภ์และเตรียมคลอดสำหรับคุณแม่ยุคใหม่
หนังสือสุขใจ ได้เป็นแม่. กระทรวงสาธารณสุข