AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

คุมกำเนิด ที่ดีที่สุด ไม่มีในโลก จึงมีทารกน้อยเกิดมาพร้อม “ที่คุมกำเนิด” โอกาสเกิดขึ้น เพียงแค่ 0.01%

คุมกำเนิด เป็นเรื่องของการวางแผนครอบครัวอย่างหนึ่ง โดยมีเป้าหมายเพื่อจำกัดจำนวนการมีลูก ซึ่งหากคู่สามีภรรยาที่ยังไม่พร้อมจะมีลูก การเลือกหาวิธี คุมกำเนิด ที่ดีที่สุด ก็เพื่อใช้ในการป้องกันการตั้งครรภ์หรือขัดขวางการตั้งครรภ์ ในเวลาที่ยังไม่พร้อมนั่นเอง

แล้วทำไมจึงท้องได้ทั้งๆ ที่ยังคุมกำเนิด?

สาเหตุที่ท้องได้ แม่จะยังคุมกำเนิดอยู่ นั้นก็เพราะว่า ไม่มีวิธีการ คุมกำเนิด ที่ดีที่สุด ใดๆ ในโลกนี้ที่คุมได้ 100% เต็ม หรือจะมีเต็มที่ก็แค่ระดับ 99.99% ซึ่งนั้นก็ทำให้มีโอกาส 0.01% ที่ทารกก็สามารถถือกำเนิดได้ เช่นเดียวกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งนับว่าเป็นอีกเหตุการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมากๆ กับการที่เด็กทารกตัวน้อยจะออกมาลืมตาดูโลก พร้อมกับเครื่องมือคุมกำเนิดของคุณแม่ไว้ออกมาด้วย!

ทารกน้อยเกิดมาพร้อม “ที่คุมกำเนิด” เพราะ
คุมกำเนิด ที่ดีที่สุด ไม่มีในโลก

หลายคนอาจไม่เคยเห็นเครื่องมือชนิดนี้มาก่อน ซึ่งมันเป็นเครื่องมือที่จะใส่ลงไปช่องคลอด ของผู้หญิง เพื่อใช้ในการคุมกำเนิด

ในทางการแพทย์นั้นไม่มีอะไรชัวร์แบบเต็มที่ (แม้กระทั่งการทำหมัน) ส่วนเครื่องนี้จะช่วยเรื่องการคุมกำเนิดได้ในระดับ 99.99% และเมื่อความแน่นอนของการคุมกำเนิด ไม่ 100 % จึงทำให้เกิดเรื่องราวสุดเซอร์ไพรส์ เมื่อครอบครัวของ Lucy Hellein ในประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากหญิงที่มีชื่อว่า Lucy ได้ปฏิบัติการฝังเครื่องคุมกำเนิดไว้ในมดลูกเรียบร้อย แต่เธอก็ยังสามารถให้กำเนิดลูกน้อยได้ ทั้งยังบอกว่า “รู้สึกเหมือนว่าได้รับของขวัญอันแสนวิเศษจากพระเจ้า”

โดยเว็บไซต์ unilad ได้รายงานข่าวเรื่องราวสุดเซอร์ไพรส์ของครอบครัว Lucy Hellein จากรัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า… ได้ให้กำเนิดลูกน้อยชื่อ Dexter หลังจากที่ Lucy ได้ฝังเครื่องคุมกำเนิดไว้ในมดลูกแล้ว ซึ่งโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ มีแค่ 0.01% เท่านั้น

ซึ่งทางการแพทย์ได้บอกว่าการฝังเครื่องคุมกำเนิดนั้นจะได้ผลดีที่สุดหลังจาก 4 เดือนไปแล้ว แต่หนูน้อย Dexter ก็เกิดจากการปฏิสนธิหลังฝังเครื่องมือได้ไม่กี่วันเท่านั้น

ก็ถือเป็นเรื่องที่จะเกิดได้ยากมากที่จะเกิดการปฏิสนธิหลังจากฝังเครื่องมือคุมกำเนิดไปแล้ว หลังจากที่หนูน้อย Dexter เกิดมา ก็มีน้ำหนักตัว 4 กิโลกรัม ซึ่งถือเป็นเด็กที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง

Lucy ผู้เป็นแม่ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “มันเป็นเรื่องไม่คาดฝันมากที่ Dexter จะปฏิสนธิได้หลังจากที่ฝังเครื่องคุมกำเนิดไปแล้ว แต่ดิฉันก็ไม่เสียใจหรอกค่ะ เพราะตัวฉันเอง และครอบครัวต่างก็รู้สึกเหมือนว่าได้รับของขวัญอันแสนวิเศษจากพระเจ้าซะมากกว่า”

นับว่าเป็นอีกหนึ่งกรณีที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ยากมากๆ แม้ทั้งสองจะไม่อยากมีลูก แต่เมื่อมีแล้วก็พร้อมจะดูแลให้ดีที่สุดนั้นก็น่ายกย่อง

แต่อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เกิดขึ้นนับว่าเกิดจากการที่คุณแม่ไม่ได้ระมัดระวังเพียงพอหลังจากที่สวมใส่ห่วงอนามัยไปแล้ว Amarin Baby & Kids จึงขอนำเสนอข้อควรระวัง 5 ข้อสำหรับผู้ที่สวมใส่ห่วงอนามัย ต้องจำไว้ให้ดี! คือ…

อ่านต่อ >> ข้อควรระวัง สำหรับคุณผู้หญิงที่สวมใส่ห่วงอนามัยคุมกำเนิด คลิกหน้า 2


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : www.unilad.co.uk

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

ข้อควรระวัง สำหรับคุณผู้หญิงที่สวมใส่ห่วงอนามัยคุมกำเนิด

  1. ห้ามมีเพศสัมพันธ์ในระยะเวลาที่กำหนดไว้: ผู้หญิงห้ามมีเพศสัมพันธ์ ก่อนสวมใส่ห่วงอนามัย 3 วัน และหลังสวมใส่ 2 สัปดาห์
  2. ถึงแม้จะใส่ห่วงอนามัยแล้ว ก็ต้องคอยให้แพทย์ตรวจตามเวลาที่กำหนด: ควรพบแพทย์เพื่อตรวจสอบห่วงอนามัยอีกครั้งในเดือนที่ 1, 3, 6 แรกหลังจากที่ใส่ห่วงอนามัยแล้ว และหลังจากนั้นให้ตรวจสอบเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
  3. หมั่นตรวจสอบว่าห่วงอนามัยได้หลุดออกหรือไม่: สำหรับบางคนที่มีเลือดออกมากในช่วงเป็นประจำเดือน อาจทำให้ห่วงอนามัยหลุดออกได้ หากเกิดการหลุดขึ้นมักมีอาหารปวดบวมตรงบริเวณท้องน้อย ดังนั้นในช่วงประจำเดือนควรหมั่นตรวจสอบอย่างละเอียดว่าห่วงอนามัยได้หลุดออกมาพร้อมกับเลือดประจำเดือนหรือไม่ ห่วงอนามัยที่หลุดแล้วสามารถนำกลับมาใส่ได้อีกครั้ง แต่ถ้าหลุดบ่อยเกินไปก็ต้องเปลี่ยนไปใช้วิธีคุมกำเนิดรูปแบบอื่นแทน
  4. ระมัดระวังเสมอว่าประจำเดือนมาตรงเวลาหรือไม่: ถ้าหากประจำเดือนไม่มาเป็นระยะเวลา 1-2 เดือน ก็อาจหมายความว่าตั้งครรภ์ ให้พบแพทย์ให้เร็วที่สุดเพื่อทำการตรวจสอบ
  5. หากพบว่าตั้งครรภ์ในช่วงใส่ห่วงอนามัย ให้รีบพบแพทย์โดยด่วน: หากเกิดการตั้งครรภ์ในช่วงที่สวมใส่ห่วงอนามัย ควรพบแพทย์โดยด่วนที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายของสุขภาพแม่ได้ดีที่สุด
-ขอบคุณข้อมูลจาก : newsupdate.sayhibeauty.com

อย่างที่กล่าวมาข้างต้น เพราะในบรรดาวิธีคุมกำเนิดที่โลกยอมรับ ไม่มีวิธีไหนปลอดภัย 100 % ซึ่งทุกวิธีก็ล้วนแล้วมีข้อดี ข้อด้อย และข้อควรระวัง แตกต่างกันออกไปการตัดสินใจว่าวิธีไหนดีที่สุดนั้น เพราะสุดท้ายแล้วในการคุมกำเนิดก็ต้องใช้ดุลพินิจอย่างรอบคอบรอบด้าน เพื่อเลือกวิธีการที่ยอมรับได้ร่วมกันของทั้งฝ่ายหญิงและชาย

ข้อพิจารณาว่าจะเลือกวิธีไหนดี มีหลายปัจจัย ตั้งแต่รูปแบบความสัมพันธ์ ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ความสะดวกในการซื้อหา สนนราคา ทุนทรัพย์ ตลอดจนผลข้างเคียงต่อสุขภาพ เพราะบางวิธีก็ไม่เหมาะกับคนที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง บางวิธีใช้ได้เอง บางวิธีต้องไปหาหมอ จะเลือกแบบถาวร หรือกึ่งถาวรดี เป็นต้น ดังนั้น การตัดสินใจจึงเป็นเรื่องของการหาข้อมูลการคุมกำเนิดแต่ละแบบ เพื่อนำมาพิจารณาร่วมกับเงื่อนไขในชีวิตของสองฝ่าย

ที่สำคัญยิ่งกว่าอีก คือ อย่าอาย ที่จะพูดคุยสื่อสารเรื่องนี้ ..ถึงอายก็ต้องอดทน พูดแล้วก็จะชินไปเอง บอกตัวเองว่านี่เป็นเรื่องจำเป็น อย่าปล่อยให้ความอายกลายเป็นอุปสรรคต่อสวัสดิภาพและความสุขในชีวิตทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า แล้ววิธีการคุมกำเนิดที่สามารถเลือกทำได้ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันคะ

วิธีการคุมกำเนิดแบบต่างๆ

ยาเม็ดคุมกำเนิด

สำหรับคุณแม่ท่านใดที่ต้องการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดก็ควรปรึกษาหรือสอบถามแพทย์ หรือทางเภสัชกรให้จัดยาที่ไม่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือมีปริมาณฮอร์โมนดังกล่าวน้อยที่สุด เพราะฮอร์โมนชนิดนี้จะทำให้การสร้างน้ำนมลดน้อยลงนั่นเองค่ะ การกินยาเม็ดคุมกำเนิด เป็นวิธีคุมกำเนิดที่ใช้กันมาก มีความปลอดภัยสูง มีภาวะแทรกซ้อนต่ำ หาซื้อง่าย มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดดี หากกินอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ มี 2 แบบ คือ

แบบที่ 1 : โปรเจสเตอโรนอย่างเดียว (Exluton, Cerazette) เหมาะสำหรับการใช้ใน 6 เดือนแรก เพราะไม่มีฤทธิ์กดการหลั่งน้ำนม และไม่ทำให้คุณภาพของน้ำนมเปลี่ยนแปลง แต่ทั้งนี้คุณแม่จะต้องให้นมลูกเต็มที่ด้วย

ข้อพึงระวัง ยาตัวนี้ออกฤทธิ์ทำให้มูกที่ปากมดลูกข้นเหนียว ทำให้เชื้ออสุจิว่ายเข้าไปในโพรงมดลูกไม่ได้ ไม่กดการตกไข่ จึงต้องกินยาทุกวันและตรงเวลา หากผิดเวลาเกิน 3 ชั่วโมง จะต้องใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วยจึงได้ผล

แบบที่ 2 : ฮอร์โมนรวม (เอสโตรเจน+โปรเจสเตอโรน) ยาคุมกำเนิดชนิดนี้ควรเริ่มกินเมื่อน้ำนมแม่สร้างเต็มที่แล้ว คือ หลังคลอด 6 สัปดาห์ แต่บางรายพบว่า การสร้างน้ำนมลดลง หากมีอาการเช่นนี้ควรหยุดใช้ยาทันที และปรึกษาคุณหมอเพื่อเปลี่ยนวิธีคุมกำเนิด จึงแนะนำให้ใช้ยาคุมกำเนิดชนิดนี้หลังคลอด 6 เดือนไปแล้ว

ข้อพึงระวัง อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เลือดออกกะปริบกะปรอย คุณแม่ที่มีโรคประจำตัว เช่น ไมเกรน โรคตับ เนื้องอกของเต้านม เนื้องอกของระบบสืบพันธุ์ ก็ไม่ควรกินยาคุม เพราะฮอร์โมนจากยาอาจทำให้เนื้องอกโตขึ้นได้

สิ่งสำคัญคือ หากคุณแม่ที่กินยาคุมอาจมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ ซึ่งมักเกิดจากลืมกินยาบ้าง กิน ๆ หยุด ๆ บ้าง กินไม่ตรงเวลาบ้าง

♥ Must read : คุมกำเนิดหลังคลอด ปลอดภัยสำหรับคุณแม่ให้นม

อ่านต่อ >> “วิธีการคุมกำเนิดแบบต่างๆ” คลิกหน้า 3

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

ยาคุมกำเนิดชนิดฝัง

หลอดยาชนิดฝังจะมีขนาดเล็กประมาณเท่าก้านไม้ขีด ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร ตัวยาที่บรรจุข้างในเป็นยาชนิดเดียวกับยาคุมกำเนิดแบบฉีด โดยจะฝังไว้ใต้ท้องแขนท่อนบน ตัวยาจะค่อย ๆ ปล่อยออกมา มีฤทธิ์กดการตกไข่ มีผลคุมกำเนิดได้นาน 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดและจำนวน พอครบกำหนดแล้วก็ต้องผ่าเอาออกหรือเปลี่ยนใหม่ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมเนื่องจากมีการพัฒนายาจากอดีตจำนวนแท่งยามี 6 แท่ง สามารถคุมกำเนิดได้ 5 ปี แต่ปัจจุบันเพียง 1 แท่งสามารถคุมได้ถึง 3 ปี

ยาคุมกำเนิดชนิดฝัง เป็นยาคุมแบบเดียวกับยาฉีด อาจมีผลทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติหรือมาแบบกะปริบกะปรอยได้ และเนื่องจากเป็นการคุมกำเนิดที่มีระยะเวลายาวกว่าการฉีด จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนวิธี โดยการผ่าออกหากคุณแม่มีเลือดออกมาก

ยาฉีดคุมกำเนิด

ยาฉีดคุมกำเนิดมีฤทธิ์กดการตกไข่ โอกาสตั้งครรภ์มีน้อยมากถ้าฉีดตรงเวลา ถือว่ามีประสิทธิภาพดี เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ให้ลูกกินนมแม่ เนื่องจากไม่มีผลต่อคุณภาพและปริมาณของน้ำนม ยาฉีดคุมกำเนิดจะเริ่มฉีดใน 4 สัปดาห์หลังคลอด ในการฉีดแต่ละครั้งสามารถคุมกำเนิดได้นาน 12 สัปดาห์ เมื่อถึงเวลานัดจึงควรมาฉีดให้ตรงเวลา

ข้อพึงระวัง อาจมีปัญหาประจำเดือนมาไม่เป็นปกติ มีประมาณ 50% ที่ไม่มีประจำเดือนมาเลย อีก 25% มีประจำเดือนมากะปริบกะปรอย บางทีอาจมีเลือดออกทั้งเดือน ถ้าเลือดออกไม่มากนัก พอยอมรับได้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเลือดออกมาก ออกนานจนมีผลต่อสุขภาพ ก็ควรเปลี่ยนไปคุมวิธีอื่นจะดีกว่า คนที่ฉีดยาคุมแล้วไม่มีประจำเดือนมา ต่อมาหยุดฉีดยาประจำเดือนกลับมาเป็นปกติ สามารถตั้งครรภ์ได้ ต้องใช้เวลาอีกประมาณ 4-6 เดือนหลังหยุดฉีดไปแล้ว

ใช้ห่วงคุมกำเนิด

การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้สามารถทำได้ง่ายดายทีเดียว โดยคุณหมอจะทำการตรวจภายในเพื่อหาตำแหน่งที่ชัดเจนของมดลูกก่อนจะนำห่วงใส่เข้าไป ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 2 – 3 นาทีก็เป็นอันเสร็จ หลังจากนั้นแล้วห่วงคุมกำเนิดก็จะอยู่ภายในมดลูกเป็นเวลานานได้เท่าที่คุณต้องการเลยค่ะ สำหรับใครที่ต้องการใส่ห่วงไว้เป็นระยะเวลานานล่ะก็ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจดูห่วงกำเนิดบ้างว่าอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและมีความผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่

ถุงยางอนามัย

การคุมกำเนิดโดยใช้ถุงยางอนามัยเป็นการคุมที่ให้ประสิทธิผลเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ยามไม่พร้อมได้ดีมากที่สุด และไม่มีผลข้างเคียง แถมราคาไม่แพงอีกด้วย ซึ่งหากเลือกใช้วิธีนี้ คุณแม่ต้องปรึกษากับคุณพ่อด้วยนะคะ ว่าพร้อมและสะดวกที่จะใช้วิธีนี้หรือเปล่า

นอกจากนี้ยังมีวิธีการคุมกำเนิดที่นอกเหนือจากทางการแพทย์อีก อย่างการหลั่งนอกช่องคลอด เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดน้อยกว่าวิธีอื่น คุณพ่อและคุณแม่อาจจะต้องคอยระวังไม่ให้มีการหลั่งภายในช่องคลอด จึงอาจทำให้กังวลขณะมีเพศสัมพันธ์ ถือเป็นวิธีที่ลำบากและมีโอกาสล้มเหลวสูงค่ะ

หรือ การนับวัน เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่าวิธีอื่น เพราะคุณแม่ที่ให้นมลูกนั้น มักมีประจำเดือนไม่แน่นอน ทำให้การนับวันไม่แม่นยำ

การทำหมันถาวร

ทางเลือกสุดท้ายของการคุมกำเนิด หากคิดว่ามีลูกพอแล้วแน่นอน อาจตัดสินใจทำหมันถาวร การทำหมันจะทำให้เป็นหมันอย่างถาวร หากเกิดเปลี่ยนใจก็ต้องผ่าตัดแก้หมัน โดยปกติแล้วสามารถทำหมันได้ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ทางการแพทย์จะยืนยันเสมอว่า การทำหมันไม่ได้มีผลต่อสุขภาพ และไม่มีผลต่อความรู้สึกทางเพศแต่อย่างใด

♥ Must read : นักวิจัยค้นพบ! ยาฉีดคุมกำเนิดสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ ไม่ต้องทำหมัน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าคุณแม่จะเลือกการคุมกำเนิดวิธีไหนก็ตาม คุณหมอจะเป็นผู้แนะนำอีกครั้งและให้คุณแม่ตัดสินใจ โดยวิธีการนั้น ๆ จะต้องไม่ส่งผลกระทบกับภาวะร่างกาย ภาวะแทรกซ้อน หรือโรคประจำตัว เมื่อไม่พบภาวะแทรกซ้อนในวิธีที่เลือก แนะนำให้คุมกำเนิดโดยวิธีนั้น ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่ควรเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เพราะอาจไม่เหมาะกับคุณแม่

√ หลัก 5 ข้อในการเลือกใช้วิธีคุมกำเนิด คือ

  1. เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสามารถคุมกำเนิดได้เกิน 99%
  2. ทำได้ง่ายและสะดวกสำหรับทั้งคุณแม่และคุณพ่อ
  3. มีผลข้างเคียง หรือมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคุณแม่มากน้อยแค่ไหน
  4. ราคาไม่แพง
  5. เมื่อหยุดใช้สามารถตั้งท้องต่อไปได้ไม่ยาก

หากต้องคุมกำเนิดก็ลองเลือกวิธีต่างๆ ไปปฏิบัติตามนี้ข้อมูลข้างต้นนี้ได้นะคะ รับรองการคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ยามไม่พร้อมย่อมเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิผลแน่นอน

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!


บทความโดย : กองบรรณาธิการนิตยสาร Amarin Baby & Kids