ยาคุมกำเนิดชนิดฝัง
หลอดยาชนิดฝังจะมีขนาดเล็กประมาณเท่าก้านไม้ขีด ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร ตัวยาที่บรรจุข้างในเป็นยาชนิดเดียวกับยาคุมกำเนิดแบบฉีด โดยจะฝังไว้ใต้ท้องแขนท่อนบน ตัวยาจะค่อย ๆ ปล่อยออกมา มีฤทธิ์กดการตกไข่ มีผลคุมกำเนิดได้นาน 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดและจำนวน พอครบกำหนดแล้วก็ต้องผ่าเอาออกหรือเปลี่ยนใหม่ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมเนื่องจากมีการพัฒนายาจากอดีตจำนวนแท่งยามี 6 แท่ง สามารถคุมกำเนิดได้ 5 ปี แต่ปัจจุบันเพียง 1 แท่งสามารถคุมได้ถึง 3 ปี
ยาคุมกำเนิดชนิดฝัง เป็นยาคุมแบบเดียวกับยาฉีด อาจมีผลทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติหรือมาแบบกะปริบกะปรอยได้ และเนื่องจากเป็นการคุมกำเนิดที่มีระยะเวลายาวกว่าการฉีด จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนวิธี โดยการผ่าออกหากคุณแม่มีเลือดออกมาก
ยาฉีดคุมกำเนิด
ยาฉีดคุมกำเนิดมีฤทธิ์กดการตกไข่ โอกาสตั้งครรภ์มีน้อยมากถ้าฉีดตรงเวลา ถือว่ามีประสิทธิภาพดี เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ให้ลูกกินนมแม่ เนื่องจากไม่มีผลต่อคุณภาพและปริมาณของน้ำนม ยาฉีดคุมกำเนิดจะเริ่มฉีดใน 4 สัปดาห์หลังคลอด ในการฉีดแต่ละครั้งสามารถคุมกำเนิดได้นาน 12 สัปดาห์ เมื่อถึงเวลานัดจึงควรมาฉีดให้ตรงเวลา
ข้อพึงระวัง อาจมีปัญหาประจำเดือนมาไม่เป็นปกติ มีประมาณ 50% ที่ไม่มีประจำเดือนมาเลย อีก 25% มีประจำเดือนมากะปริบกะปรอย บางทีอาจมีเลือดออกทั้งเดือน ถ้าเลือดออกไม่มากนัก พอยอมรับได้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเลือดออกมาก ออกนานจนมีผลต่อสุขภาพ ก็ควรเปลี่ยนไปคุมวิธีอื่นจะดีกว่า คนที่ฉีดยาคุมแล้วไม่มีประจำเดือนมา ต่อมาหยุดฉีดยาประจำเดือนกลับมาเป็นปกติ สามารถตั้งครรภ์ได้ ต้องใช้เวลาอีกประมาณ 4-6 เดือนหลังหยุดฉีดไปแล้ว
ใช้ห่วงคุมกำเนิด
การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้สามารถทำได้ง่ายดายทีเดียว โดยคุณหมอจะทำการตรวจภายในเพื่อหาตำแหน่งที่ชัดเจนของมดลูกก่อนจะนำห่วงใส่เข้าไป ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 2 – 3 นาทีก็เป็นอันเสร็จ หลังจากนั้นแล้วห่วงคุมกำเนิดก็จะอยู่ภายในมดลูกเป็นเวลานานได้เท่าที่คุณต้องการเลยค่ะ สำหรับใครที่ต้องการใส่ห่วงไว้เป็นระยะเวลานานล่ะก็ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจดูห่วงกำเนิดบ้างว่าอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและมีความผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่
ถุงยางอนามัย
การคุมกำเนิดโดยใช้ถุงยางอนามัยเป็นการคุมที่ให้ประสิทธิผลเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ยามไม่พร้อมได้ดีมากที่สุด และไม่มีผลข้างเคียง แถมราคาไม่แพงอีกด้วย ซึ่งหากเลือกใช้วิธีนี้ คุณแม่ต้องปรึกษากับคุณพ่อด้วยนะคะ ว่าพร้อมและสะดวกที่จะใช้วิธีนี้หรือเปล่า
นอกจากนี้ยังมีวิธีการคุมกำเนิดที่นอกเหนือจากทางการแพทย์อีก อย่างการหลั่งนอกช่องคลอด เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดน้อยกว่าวิธีอื่น คุณพ่อและคุณแม่อาจจะต้องคอยระวังไม่ให้มีการหลั่งภายในช่องคลอด จึงอาจทำให้กังวลขณะมีเพศสัมพันธ์ ถือเป็นวิธีที่ลำบากและมีโอกาสล้มเหลวสูงค่ะ
หรือ การนับวัน เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่าวิธีอื่น เพราะคุณแม่ที่ให้นมลูกนั้น มักมีประจำเดือนไม่แน่นอน ทำให้การนับวันไม่แม่นยำ
การทำหมันถาวร
ทางเลือกสุดท้ายของการคุมกำเนิด หากคิดว่ามีลูกพอแล้วแน่นอน อาจตัดสินใจทำหมันถาวร การทำหมันจะทำให้เป็นหมันอย่างถาวร หากเกิดเปลี่ยนใจก็ต้องผ่าตัดแก้หมัน โดยปกติแล้วสามารถทำหมันได้ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ทางการแพทย์จะยืนยันเสมอว่า การทำหมันไม่ได้มีผลต่อสุขภาพ และไม่มีผลต่อความรู้สึกทางเพศแต่อย่างใด
♥ Must read : นักวิจัยค้นพบ! ยาฉีดคุมกำเนิดสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ ไม่ต้องทำหมัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าคุณแม่จะเลือกการคุมกำเนิดวิธีไหนก็ตาม คุณหมอจะเป็นผู้แนะนำอีกครั้งและให้คุณแม่ตัดสินใจ โดยวิธีการนั้น ๆ จะต้องไม่ส่งผลกระทบกับภาวะร่างกาย ภาวะแทรกซ้อน หรือโรคประจำตัว เมื่อไม่พบภาวะแทรกซ้อนในวิธีที่เลือก แนะนำให้คุมกำเนิดโดยวิธีนั้น ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่ควรเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เพราะอาจไม่เหมาะกับคุณแม่
√ หลัก 5 ข้อในการเลือกใช้วิธีคุมกำเนิด คือ
- เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสามารถคุมกำเนิดได้เกิน 99%
- ทำได้ง่ายและสะดวกสำหรับทั้งคุณแม่และคุณพ่อ
- มีผลข้างเคียง หรือมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคุณแม่มากน้อยแค่ไหน
- ราคาไม่แพง
- เมื่อหยุดใช้สามารถตั้งท้องต่อไปได้ไม่ยาก
หากต้องคุมกำเนิดก็ลองเลือกวิธีต่างๆ ไปปฏิบัติตามนี้ข้อมูลข้างต้นนี้ได้นะคะ รับรองการคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ยามไม่พร้อมย่อมเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิผลแน่นอน
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!
- แพทย์จุฬาชี้ วิธีใช้ “ยาคุมกำเนิด” ให้ปลอดภัย ช่วยป้องกัน “โรคมะเร็ง” บางชนิดได้
- กินยาคุมแล้วมีลูกยาก กับความเชื่อที่แม่ควรรู้
- คุมกำเนิดถาวร อีกทางเลือกที่ดีถ้ามีลูกพอแล้ว
- วิธีคุมกำเนิด แบบไหนมีสิทธิภาพและปลอดภัย ถ้าแม่ยังไม่พร้อมมีลูกคนที่ 2
บทความโดย : กองบรรณาธิการนิตยสาร Amarin Baby & Kids