ข่าวดีสำหรับแม่ท้อง โครงการมหัศจรรย์ 1,000 วันแรก มหัศจรรย์แห่งชีวิต หากไป ฝากท้อง ที่ รพ.สต. (โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล) รับนมจืดฟรี! 90 กล่อง
ข่าวดีสำหรับแม่ท้อง! ฝากท้อง ที่ รพ.สต. รับนมจืดฟรี! 90 กล่อง
กระทรวงสาธารณสุขได้จับมือ กับ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ รวม 4 กระทรวง วางแผนบูรณาการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต ขับเคลื่อน มหัศจรรย์ 1,000 วันแรกแห่งชีวิต สร้างคนไทย 4.0 มีสุขภาพดี สติปัญญาดี แข็งแรง มีทักษะสูง และมีจิตใจที่งดงาม ดูแลตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ถึงคลอด และเติบโตอย่างมีคุณภาพ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล โดยพลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี
ตั้งเป้าภายใน 5 ปี พ.ศ.2560-2565 เด็กไทยต้องมีไอคิว (IQ) คะแนนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 100 และร้อยละ 70 มีคะแนนอีคิว (EQ) เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
เพราะปัจจุบันอัตราการมีลูกของไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.6 คน ซึ่งต่ำกว่าอัตราทดแทนทางประชากรซึ่งควรต้องอยู่ที่ 2.1 คน นอกจากนี้การเกิดส่วนหนึ่ง ยังเป็นการเกิดที่ด้อยคุณภาพ เนื่องมาจากการเกิดในแม่วัยรุ่นที่ไม่มีความพร้อม ขณะที่คนที่มีความพร้อมก็แต่งงานช้าลง มีลูกช้าลง และเมื่อพิจารณาจากพัฒนาการของเด็กก็พบว่า… ในปี 2560 เด็กแรกเกิดถึง 2 ปี มีพัฒนาการไม่สมวัยร้อยละ 23.2 ส่วนเด็กอายุ 3-5 ปี มีพัฒนาการไม่สมวัยสูงถึงร้อยละ 42 หรือ 1 ใน 3 ดังนั้น แม้จะมีอัตราการเกิดน้อย แต่ก็ต้องทำให้การเกิดนั้นมีคุณภาพมากที่สุด
อ่านต่อ > > “ไปฝากท้องกับโครงการมหัศจรรย์ 1,000 วันแรกแห่งชีวิต
สำคัญอย่างไร” คลิกหน้า 2
ความสำคัญที่คุณแม่ต้อง ฝากท้อง กับ โครงการมหัศจรรย์ 1,000 วันแรกแห่งชีวิต
เพราะการจะสร้างเด็กไทยรุ่นใหม่ในศตวรรษที่ 21 ให้มีสุขภาพแข็งแรง และปราศจากโรค อันดับแรกเราควรให้ความสำคัญกับโภชนาการที่ดีตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิต โดยเริ่มจากการ ปฏิสนธิ จนถึง อายุ 2 ปี นั่นก็คือ
ช่วงที่ 1 ระยะ ฝากท้อง “270 วันแรก” ระหว่างการตั้งครรภ์ เป็นช่วงเวลาสำคัญของการสร้างเซลล์สมองควบคู่กับการสร้างเส้นใยประสาทเร็วที่สุด เด็กได้รับสารอาหารที่เพียงพอและหลากหลาย เสริมไอโอดีน เหล็ก โฟลิก
ช่วงที่ 2 “180 วัน แรกเกิด-6” เป็นช่วงที่ร่างกายและสมองของเด็กเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว การได้รับ นมแม่ตั้งแต่ชั่วโมงแรงของชีวิต การโอบกอดและเล่นกับลูกส่งผลให้ลูกเจริญเติบโตดี มีพัฒนาการทางด้านร่างกายและอารมณ์ดี
ช่วงที่ 3 “550 วัน อายุ 6 เดือน-2 ปี” เน้นการเป็นเด็กฉลาด มีพัฒนาการสมวัย สูงดีสมส่วน ทำด้วยการให้อาหารที่เหมาะสมตามวัย ควบคู่การดื่มนมแม่ให้นานที่สุด และส่งเสริมครอบครัวให้อบอุ่นเข้มแข็ง ด้วยกิจกรรม กิน กอด เล่น เล่า เพิ่มความฉลาด เฝ้าดูฟัน และลดปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อการเจริญเติบโต จะทำให้ลูกน้อยพัฒนาเป็นผู้ใหญ่ที่มีศักยภาพสูงในที่สุด
ทั้งนี้ นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดทุกระดับ ขับเคลื่อนงานมหัศจรรย์ 1,000 วันแรกของชีวิต พบว่า… เขตสุขภาพที่ 9 ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ได้จัดโครงการมหัศจรรย์ 1,000 วันแรกแห่งชีวิต
และสำหรับ จ. นครราชสีมา นพ.สุผล ตติยนันทพร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพิมาย ได้อธิบายว่า เพราะช่วง 1,000 วันมหัศจรรย์เป็นช่วงสำคัญ เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิต โครงการนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้อัตราการเกิดนั้นมีคุณภาพมากที่สุด โดยดูแลตั้งแต่ก่อนการตั้งครรภ์ ขณะตั้งครรภ์ (ฝากท้อง) และหลังคลอด จนถึงลูกน้อยวัย 2 ขวบ ถือเป็นการตอบโจทย์ประเทศ และเป็นต้นแบบในการดำเนินการให้แก่พื้นที่อื่นได้
โดยในส่วนของ อ.พิมาย นั้น แบ่งออกเป็น 5 ระยะ คือ
1. ระยะก่อนการตั้งครรภ์ จะเน้นการป้องกันความพิการแต่กำเนิด โดยจะมีการสนับสนุนยาเม็ดโฟลิก 5 มิลลิกรัม และยาเม็ดธาตุเหล็ก 60 มิลลิกรัมให้แก่ครอบครัวที่กำลังจะมีบุตร ซึ่งยิ่งได้รับก่อนการมีบุตรก็จะยิ่งดี เพราะเป็นการเตรียมความพร้อม โดยการค้นหาคู่รักคู่ไหนที่กำลังจะมีบุตร ก็ได้มีความร่วมมือกับร้านพรีเวดดิ้งในการช่วยประชาสัมพันธ์โครงการและให้ข้อมูล ก็ช่วยให้เข้าถึงคู่รักที่กำลังจะแต่งงานสร้างครอบครัวและวางแผนที่จะมีบุตรให้ได้เตรียมความพร้อมได้
อ่านต่อ “ฝากท้องที่ รพ.สต. รับนมจืดฟรี 90 กล่อง” คลิกหน้า 3
2. ระยะ ฝากท้อง หรือ 270 วันแรกของการตั้งครรภ์ จะเน้นให้เกิดการฝากท้องที่มีคุณภาพ คือการเสริมนมและไข่ 90 วัน 90 กล่อง และเกลือไอโอดีน โดยได้รับงบประมาณจากทางท้องถิ่น แต่ต้องยอมรับว่ายังไม่เพียงพอในการดำเนินการ ซึ่งพระครูวาทีธรรมสุนทร เจ้าอาวาสวัดป่าพิมาย ได้เห็นความสำคัญในเรื่องนี้จึงร่วมดำเนินโครงการนมก้นบาตร และสังฆทานนมจืด เพื่อให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการดูแลเด็กที่จะเกิดมาในชุมชน โดยใช้นมจืดใส่บาตร และถวายสังฆทานด้วยนมจืด โดยนมจืดที่ได้นั้นจะมีการรวบรวมแล้วกระจายไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในการจัดเก็บและแจกจ่ายให้แก่หญิงตั้งครรภ์
3. ระยะคลอด เน้นห้องคลอดคุณภาพ โดยแม่เกิดรอด ลูกปลอดภัย มีการซ้อมแผนภาวะฉุกเฉิน และเปิดการเยี่ยมรับขวัญในโรงพยาบาล
4. ระยะแรกเกิดถึง 6 เดือน หรือ 180 วัน เน้นการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยให้ยาเสริมธาตุเหล็กแก่หญิงให้นมบุตร มีคลินิกนมแม่จัดนะกร้าเยี่ยมบ้าน ดึงชุมชนร่วมต้อนรับเด็กใหม่ในชุมชน โดยจัดพิธีรับขวัญหลานเข้าสู่ครอบครัวและชุมชน มอบกระเช้าของขวัญที่จัดโดยชุมชนเอง
5.ระยะ 6 เดือน ถึง 2 ปี รวม 550 วัน เน้นพัฒนาการสมวัย ฟันแข็งแรง โดยมีการตรวจคัดกรองพัฒนาการ จ่ายยานำเสริมธาตุเหล็ก และดูแลสุขภาพช่องปาก ส่งเสริมอาหารตามวัย ชวนผู้สูงอายุในโรงเรียนผู้สูงอายุทำของเล่นมอบให้แก่เด็กในชุมชน ซึ่งเป็นการสร้างคุณค่าให้แก่ผู้สูงอายุ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในชุมชน เป็นต้น
ด้าน พญ.นภาพรรณ วิริยอุตสาหกุล ผู้อำนวยการสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กล่าวว่า… สาเหตุที่ แม่ท้องต้อง ฝากท้อง และรับประทานนมมากๆ นั้น จริงๆ แล้วต้องบอกว่าคนตั้งครรภ์ไม่ได้ต้องการแคลเซียมมากกว่าคนปกติเลย คือ ต้องการ 800 มิลลิกรัม หรือนมประมาณ 3 กล่อง เพียงแต่ที่คนท้องต้องกินนมเพิ่ม เนื่องจากว่าหญิงไทยปกติก็กินอาหารที่มีแคลเซียมน้อยอยู่แล้ว ไม่เพียงพอ ตอนตั้งครรภ์
จึงต้องส่งเสริมให้ทานนมเพิ่ม คือ ควรดื่มให้ได้วันละ 3 แก้ว แต่คนที่ไม่เคยดื่มอาจเริ่มดื่มแต่น้อย แล้วเพิ่มอาหารอื่นที่มีแคลเซียม เนื่องจากท้องอาจปั่นป่วนได้ และอาจต้องระวังโปรตีนจากนมวัว เพราะหากดื่มมากก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เด็กที่เกิดมาแพ้นมวัวได้
ซึ่งความมหัศจรรย์ของโครงการนี้ ที่แต่ละจังหวัดได้เข้าร่วม คือ หลังจากดำเนินการในปี 2560 จนถึงปัจจุบัน พบว่า ไตรมาสสองของปี 2561 อัตราทารกแรกเกิดคลอดครบกำหนด มีน้ำหนักตัวเกิน 2,500 กรัมทั้งสิ้น แต่หากรวมกับทารกคลอดก่อนกำหนดแล้ว ทารกน้ำหนักตัวน้อยกว่า 2,500 กรัมนั้นมีไม่เกิน 7% ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าเด็กที่เกิดมานั้นมีคุณภาพ และเมื่อมีการติดตามดูแลอย่างต่อเนื่อง ก็เชื่อว่าเด็กจะเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพมากที่สุด
***ทั้งนี้สำหรับใครที่กำลังตั้งท้อง หรือคุณแม่ท้องที่กำลังจะไป ฝากท้อง ให้ติดต่อสอบถามกับทาง รพ.สต. (โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล) หรือ โรงพยาบาลของอำเภอ ก่อน เพราะบางจังหวัดบางอำเภอก็ไม่ได้ได้เข้าร่วมโครงการนี้
แต่อย่างไรก็ดีหากไม่ได้รับของแจก และไม่ว่าจะยากดีมีจนหรือมีฐานะอย่างไร คุณแม่ก็ไม่ควรเลี่ยงที่จะไป ฝากท้อง เพราะหากได้รับการดูแลอย่างดีตั้งแต่ช่วง 1,000 วันแรกของชีวิต ก็สามารถทำให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่ดีได้ ช่วยให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ สูงดีสมส่วน และเมื่อเข้าสู่การเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งจะต้องมีการวัด IQ และ EQ เชื่อว่า IQ จะต้องเกิน 100 จุดแน่นอน
อ่านต่อบทความอื่นๆน่าสนใจ คลิก :
- รวมคำถามที่แม่ต้องตอบ! เมื่อไปฝากท้องครั้งแรก
- ฝากครรภ์พิเศษ กับ ฝากครรภ์ธรรมดา ต่างกันอย่างไร?
- ฝากครรภ์ฟรี ส่งเสริมสาวไทยแก้มแดง มีลูกเพื่อชาติ
- สมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก มีความสำคัญอย่างไร?
- 2 เรื่องสำคัญ แม่ท้องต้องทำ เพื่อให้ลูกเกิดมาครบ 32 และมีสมองดี
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.thaihealth.or.th , www.matichon.co.th
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่