ไขข้อข้องใจ สับปะรด เร่งคลอด ได้จริงหรือ?

สับปะรด เร่งคลอด ได้จริงหรือ? คงเป็นคำถามสำหรับคุณแม่ๆที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ใช่ไหมคะ วันนี้ทีมงาน Amarin Baby & Kids  มีคำตอบมาฝากแม่ๆกันว่า สับปะรด เร่งคลอด ได้หรือไม่?ค่ะ

 

สับปะรด เร่งคลอด ได้จริงหรือ?

ในการตั้งครรภ์ ใช่ว่าคุณแม่ๆจะมีความกังวลในเรื่องของการคลอดก่อนกำหนดเท่านั้น แต่สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์บางท่าน ก็มักจะมีความกังวลเรื่องการตั้งครรภ์เกินกำหนดได้เช่นกัน นั่นหมายถึงการตั้งครรภ์เกิน 40 สัปดาห์ ซึ่งหากปล่อยไว้นานย่อมไม่เกิดผลดีกับทารกน้อยในครรภ์แน่นอน เพราะจะทำให้รกเสื่อม และไม่สามารถนำอาหาร และออกซิเจนมาหล่อเลี้ยงทารกในครรภ์ได้  ดังนั้น จึงได้มีวิธีการเร่งคลอดขึ้น

การเร่งคลอด คือ การทำให้เกิดการเจ็บครรภ์ โดยอาศัยวิธีการต่างๆ ในขณะที่คุณแม่ยังไม่เจ็บท้องคลอดเองตามธรรมชาติ และหากเป็นไปได้ คุณแม่ก็มักจะเลือกวิธีการเร่งคลอดแบบธรรมชาติดีกว่า ซึ่งก็มีหลายวิธี หนึ่งในนั้นก็คือการกินสับปะรด ที่บางคนก็ยังมีข้อสงสัยว่า สับปะรด เร่งคลอด ได้จริงหรือ?

สับปะรด เป็นผลไม้ที่ช่วยย่อยอาหารที่เป็นกรดและเป็นด่าง เหมาะสำหรับรับประทานหลังอาหารที่หนักเนื้อสัตว์ ช่วยบรรเทาอาการแน่นท้อง อาหารไม่ย่อย นอกจากนี้ยังช่วยขับปัสสาวะ สามารถอมแก้เจ็บคอ หรือบรรเทาคออักเสบได้ และสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ สับปะรด เร่งคลอด ได้หรือไม่นั้น บอกเลยว่า สับปะรดมีส่วนช่วยในการเร่งคลอดได้บ้างค่ะ เพราะในสับปะรดมีสารบรอมีเลน ที่ช่วยทำให้ปากมดลูกอ่อนตัว และเปิดขยายออก รวมถึงมีฤทธิ์เป็นยาถ่ายอ่อนๆ ที่ช่วยให้การบีบตัวของมดลูกมีมากขึ้นค่ะ แต่คุณแม่ท้องก็ควรรับประทานในปริมาณที่พอดีนะคะ ไม่มาก ไม่น้อยจนเกินไป เพราะไม่ว่าอาหารชนิดใด รับประทานมากเกินไปก็ย่อมไม่เป็นผลดีกับร่างกายทั้งสิ้นค่ะ

เมื่อทราบแล้วว่า สับปะรด เร่งคลอด ได้ แม่ท้องสามารถที่จะรับประทานได้ แต่จะรับประทานเป็นผลไม้อย่างเดียว ก็คงจะเบื่อกันใช่ไหมคะ แม่ๆ มาลองทำเมนูจากสับปะรดกันดีกว่า จะมีอะไรมาบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

 

รวมเมนูสุดเริ่ดจาก สับปะรด แม่ท้องต้องลอง

 

 

รวม 5 เมนูสุดเริ่ดจาก สับปะรด

1.ข้าวผัดสับปะรด

ส่วนผสม

• ไข่เป็ด 1-2 ฟอง
• น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย
• เนื้อไก่ หั่นเป็นชิ้นบาง 4 ออนซ์ (113.6 กรัม)
• กุ้งสด 6-7 ตัว
• กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
• ข้าวหอมมะลิหุงสุก 2 ถ้วย (ข้าวเก่า)
• หอมใหญ่หั่นเต๋า 3 ออนซ์ (85 กรัม)
• ถั่วลันเตาและแครอทหั่นเป็นชิ้นเล็ก 1 ออนซ์ (42.6 กรัม)
• เนื้อสับปะรดหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 3/4 ถ้วย (หรือสับปะรดกระป๋อง)
• ซอสปรุงอาหารอเนกประสงค์ 2 ออนซ์ (56.8 กรัม) 
• ผงกะหรี่ 1+1/2 ช้อนชา
• ลูกเกด 1 ออนซ์ (28.4 กรัม)
• เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบสุก 2 ออนซ์ (56.8 กรัม)
• ต้นหอมและผักชีซอย สำหรับแต่ง 
• แตงกวา 

ส่วนผสม ซอสปรุงอาหารอเนกประสงค์

• น้ำปลา
• ซีอิ๊วขาว
• ซอสปรุงรส
• น้ำตาลทราย
• ผงกระเทียม
• พริกไทยดำบด
• น้ำมันหอย

วิธีทำซอสปรุงอาหารอเนกประสงค์

ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อ คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย นำขึ้นตั้งไฟกลาง เคี่ยวจนเดือดแล้วลดไฟลง ใช้ไฟอ่อนเคี่ยวต่ออีกประมาณ 5 นาที ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักไว้จนเย็น ใส่ภาชนะที่มีฝาปิด สามารถเก็บไว้ได้นานประมาณ 1 เดือน

วิธีทำ

1. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะนำขึ้นตั้งไฟ พอร้อนใส่ไข่เป็ดลงไปตีพอแตก
2. ใส่เนื้อไก่ลงไปผัดจนสุก ตามด้วยกุ้ง ผัดจนกุ้งเริ่มสุกและเปลี่ยนสี
3. พอกุ้งเริ่มเปลี่ยนสีให้ใส่กระเทียมลงไปผัดจนเข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟ
4. ใส่ข้าว หอมใหญ่ ผงกระหรี่ ถั่ว แครอท และสับปะรด เปิดไฟ ใช้ไฟแรงผัดให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันและข้าวไม่เป็นก้อน
5. ปรุงรสด้วยซอสปรุงอาหารอเนกประสงค์ ผัดให้เข้ากัน
6. ใส่ลูกเกดและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไปผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟ ตักใส่จานหรือชามสับปะรด โรยด้วยต้นหอมซอย ผักชีซอย และแตงกวา

 

2. สลัดสับปะรด 

     • สับปะรดภูแล ปอกเปลือกหั่นเป็นแว่น 2 ลูก
     • เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ 1/4 ถ้วย
     • ใบสะระแหน่ตามชอบ

ส่วนผสม น้ำสลัด

• น้ำส้มสายชู หมักจากแอปเปิล 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันสลัด 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำผึ้ง 1/2 ช้อนโต๊ะ
• พริกขี้หนูแดงซอย 1-2 เม็ด
• หอมใหญ่สีแดงซอย 1/2 หัว
• ใบสะระแหน่ ขยี้แล้วสับหยาบ 10 ใบ
• เกลือป่น
• พริกไทยดำบดหยาบ

วิธีทำ

     1. วางสับปะรด เม็ดม่วงหิมพานต์ สเปราต์ และใบสะระแหน่บนจานสำหรับเสิร์ฟ
     2. ผสมส่วนผสมน้ำสลัดทั้งหมดให้เข้ากัน ชิมรส ราดบนสลัดสับปะรด นำไปรับประทานเป็นเมนู สับปะรด เร่งคลอด ได้ค่ะ

 

3. สมูทตี้สับปะรด

ส่วนผสม

• สตรอเบอรี่ (หั่นชิ้นนำไปแช่แข็ง) 1 ถ้วยตวง
• กล้วยหอม (หั่นชิ้นนำไปแช่แข็ง) 1 ลูก
• เนื้อมะพร้าวสับ 1/3 ถ้วยตวง
• กะทิ 1 ถ้วยตวง
• มะม่วงสุก (หั่นชิ้นนำไปแช่แข็ง) 1 ถ้วยตวง
• น้ำสับปะรด 1+1/2 ถ้วยตวง
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
• เมล็ดแฟลกซ์ 1 ช้อนโต๊ะ
• อัลมอนด์แท่ง (สำหรับแต่ง)
• มะพร้าวคั่ว (สำหรับแต่ง)

วิธีทำ

     1. ใส่สตรเบอรี่ กล้วยหอม เนื้อมะพร้าว และกะทิลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ปั่นให้เข้ากันจนละเอียด รินใส่แก้วเป็นชั้นที่ 1
     2. ใส่มะม่วง น้ำสับปะรด กลิ่นวานิลลา และเมล็ดแฟลกซ์ลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ปั่นให้เข้ากันจนละเอียด รินใส่แก้วเป็นชั้นที่ 2 ตกแต่งด้วยอัลมอนด์แท่งและมะพร้าวคั่ว ได้อีกหนึ่งเมนู สับปะรด เร่งคลอด ค่ะ

 

4. สมูทตี้สับปะรดอะโวคาโด และกล้วย

ส่วนผสม

     • กะทิ 1/2 ถ้วยตวง
     • เนื้อสับปะรด (หั่นชิ้น) 3/4 ถ้วยตวง
     • อะโวคาโดสุก (หั่นชิ้น) 1/2 ลูก
     • กล้วยหอม (หั่นชิ้นแช่แข็ง) 1 ลูก
     • กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
     • เมล็ดทับทิม (สำหรับแต่ง)

วิธีทำ

     1. ใส่กะทิ เนื้อสับปะรด อะโวคาโด กล้วยหอม และกลิ่นวานิลลาลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ปั่นให้เข้ากันจนละเอียด 
     2. รินใส่แก้ว ตกแต่งด้วยเมล็ดทับทิม เป็นอีกหนึ่งเมนู สับปะรด เร่งคลอด เริ่ดๆค่ะ

 

5. ไอศกรีมสับปะรดซอร์เบท

ส่วนผสม 

• เนื้อสับปะรด (หั่นเป็นชิ้นเล็ก) 1 ลูก
• น้ำตาลทราย 8 ช้อนโต๊ะ
• น้ำ 2 ถ้วย
• น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ใส่เนื้อสับปะรด น้ำตาลทราย น้ำ น้ำมะนาว และเกลือป่น ลงในเครื่องปั่น ปั่นผสมจนละเอียด เทใส่พิมพ์ นำเข้าช่องแช่แข็ง ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
2. นำออกจากตู้เย็น ตักใส่เครื่องปั่น ปั่นจนเนื้อเนียนอีกครั้ง ตักส่วนผสมใส่พิมพ์แล้วนำเข้าแช่แข็งอีกครั้ง นานประมาณ 5 ชั่วโมง ก่อนเสิร์ฟ

 

แต่สำหรับคุณแม่ๆที่ไม่ชอบรับประทานสับปะรด แต่ต้องการเร่งคลอดแบบวิธีธรรมชาติ นอกจาก สับปะรด เร่งคลอด แล้วก็ยังมีวิธีอื่นๆอีกด้วยนะคะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก kapook

เร่งคลอดด้วยวิธีธรรมชาติ มีวิธีไหนบ้าง?

 

 

เร่งคลอดด้วยวิธีธรรมชาติ

นอกจากการรับประทาน สับปะรด เร่งคลอด แล้ว ก็ยังมีวิธีเร่งคลอดแบบธรรมชาติ วิธีอื่นๆ เช่น

1. เร่งคลอด ด้วยการเดินเล่น

คุณแม่ท้องที่ใกล้ครบกำหนดคลอดในอีกไม่ถึงสองสัปดาห์ แต่ไม่เคยมีอาการเจ็บเตือนเลย แนะนำให้กระตุ้นการคลอดด้วยการเดินเล่นค่ะ เพราะการเดินช้าๆ บ่อยๆ จะช่วยให้คุณแม่เจ็บท้องคลอดเร็วขึ้น การเดินของคุณแม่ยังเป็นการกระตุ้นให้ทารกน้อยเคลื่อนต่ำลงมาอยู่ในตำแหน่งการคลอด คือเอาศีรษะมารออยู่ที่ช่องเชิงกรานของแม่

2. เร่งคลอด ด้วยการนวดเต้านม

ขณะตั้งครรภ์เต้านมถือเป็นจุดที่ไวต่อการสัมผัส หากคุณแม่ยังไม่ได้มีการเตือนถึงอาการเจ็บท้องคลอด แนะนำว่าให้ลองนวดเต้านมเบาๆ ดูค่ะ เพราะการนวดบริเวณเต้านมประมาณ 15-20 นาทีทำวันละหลายๆครั้ง จะช่วยกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก ให้คุณแม่รู้สึกถึงการเจ็บท้องเตือนได้ค่ะ

3. เร่งคลอด ด้วยการเล่นลูกบอลโยคะ

การใช้ลูกบอลขนาดใหญ่ที่ใช้สำหรับเล่นโยคะ ที่มีความยืดหยุ่นได้ดีค่ะ จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว สำหรับคุณแม่ท้องก็สามารถใช้ประโยชน์จากการเล่นลูกบอลโยคะ เพื่อช่วยในการเร่งคลอดได้ วิธีคือให้คุณแม่นั่งลงบนลูกบอลแล้วโยกตัวไปมาเบาๆ ซึ่งการเคลื่อนไหวของแม่ท้อง จะช่วยกระตุ้นให้ลูกในท้องเคลื่อนตัวไปอยู่ที่ช่องเชิงกรานเร็วขึ้น

4. เร่งคลอด ด้วยการมีเพศสัมพันธ์

แม่ท้องสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้จนถึงใกล้คลอด และประโยชน์จากการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงใกล้คลอดช่วยกระตุ้นการเจ็บท้องคลอดให้เร็วขึ้นได้ด้วยค่ะ  นั่นเพราะการมีเพศสัมพันธ์จะสามารถช่วยกระตุ้นให้มีการบีบตัวของมดลูกนั่นเอง  แต่ก็ควรมีการระมัดระวัง อย่าใช้อุปกรณ์หรือเป่าลมเข้าช่องคลอดคุณแม่ท้องนะคะ เพราะอันตรายถึงเสียชีวิตได้ค่ะ

5. เร่งคลอด ด้วยการทานเผ็ด

คุณแม่บางท่านอาจจะมีคำถามว่า การทานเผ็ดช่วยเร่งคลอดได้ด้วยหรือ แต่ก็มีคุณแม่ท้องหลายๆ คนพูดถึงและแนะนำให้ใช้ค่ะ  การทานเผ็ดจะไปกระตุ้นบริเวณคอมดลูก และระบบย่อยอาหารที่มีการเชื่อมต่อกันผ่านระบบประสาท เมื่อระบบหนึ่งได้รับการกระตุ้นก็จะส่งผลให้อีกระบบที่อยู่ติดกันถูกกระตุ้นไปด้วย  ซึ่งถ้าสังเกตปฏิกิริยาร่างกายของเราเองหลังการได้รับรสชาติเผ็ดจัดจ้านจากอาหารเข้าสู่ร่างกาย ระบบประสาทสัมผัสทุกส่วนก็จะตื่นตัวพร้อมกัน

6. เร่งคลอด ด้วยการนวดกดจุด

ความจริงแล้ว มักจะไม่แนะนำให้คนท้องนวดร่างกายค่ะ แต่ในกรณีที่ใกล้คลอดแต่ยังไม่มีสัญญาณการเตือนการคลอด คุณแม่ท้องอาจต้องใช้วิธีนวดกดจุด ที่นวดเฉพาะบริเวณข้อเท้าและมือ เพราะกล้ามเนื้อบริเวณนี้มีเส้นประสาทเชื่อมโยงไปยังมดลูก อาจช่วยกระตุ้นมดลูกให้บีบรัดตัวได้ค่ะ

 

การเร่งคลอด ก็มีหลากหลายวิธีดังที่กล่าวไป ซึ่งเป็นวิธีแบบธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการรับประทาน สับปะรด เร่งคลอด หรือวิธีอื่นๆ คุณแม่ๆ ก็สามารถลองเลือกนำไปใช้ได้นะคะ และอย่าลืมระมัดระวังเรื่องของความปลอดภัยด้วย เพื่อจะได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และปลอดภัยทั้งแม่และลูกค่ะ 

 

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ

ป้าหมอเผย วิธีเตรียมเต้า กระตุ้นน้ำนม ก่อนคลอด

อัพเดทล่าสุด! แพคเกจคลอด 2561 โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ

รักษาผิวแตกลายหลังคลอด ด้วย 5 สูตรธรรมชาติ