คุณแม่เคยสังเกตไหมว่า ลูกมักกลายเป็น เด็กดื้อ งอแง ต่อต้าน เมื่ออยู่ต่อหน้าเรา แต่พออยู่กับคุณพ่อ กลับตรงกันข้าม ทั้งแสนดี น่ารัก และเชื่อฟังอย่างง่ายดาย
ทั้งนี้จากเหตุผลที่ว่าทำไมลูก ๆ ถึงมีพฤติกรรมแย่ลงเมื่ออยู่ใกล้แม่มากถึง 800% ก็ว่าได้ ทั้งๆ ที่มีคนเป็นแม่นี่แหละที่คอยดูแลเลี้ยงดูลูกอยู่ใกล้ ๆ เป็นอย่างดี ซึ่งเรื่องนี้เรามีคำตอบมาฝากค่ะ
เหตุที่ลูกกลายเป็น เด็กดื้อ มีพฤติกรรมแย่ลง
และงอแงกับแม่มากกว่าพ่อ!
ถ้าคุณแม่สังเกตว่าลูกได้แสดงพฤติกรรมแย่ ๆ ออกมาต่อหน้า นั่นหมายความว่าบรรดาคุณแม่ทั้งหลายนั้นเป็น “แม่ที่ดี”และทำหน้าที่ของคุณได้อย่างดีเยี่ยมเลย
ซึ่งเรื่องนี้คุณแม่บล็อกเกอร์ลูกสอง ชาวอังกฤษ ผู้ให้คำแนะนำในเลี้ยงดูลูก ได้เผยถึงเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมลูก ถึงมีพฤติกรรมที่แย่ลงถึง 800% เมื่อแม่อยู่ใกล้ ๆ แต่เวลาอยู่กับพ่อหรือคนอื่น ๆ นั้น ก็จะเป็นเด็กดี น่ารัก เชื่อฟัง และมีพฤติกรรมที่น่าชื่นชมเสมอ และนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณแม่รู้สึกดีก็เป็นได้
ขอบคุณภาพจาก : IG @chfunfood
ลูกมีพฤติกรรมแย่กว่า 800% เมื่อแม่อยู่ใกล้
นั่นก็เพราะว่าแม่ คือ “แม่ ” ซึ่งถือเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับลูก เป็นสิ่งที่เมื่อลูกมีปัญหา ก็สามารเดินเข้ามาหาได้ทุกครั้งไม่ว่าอะไรก็ตาม เพราะถ้าไม่ใช่แม่แล้วก็จะมีใครอีกล่ะที่จะคอยแก้ปัญหาให้ คอยช่วยจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกที่ไม่สบายใจให้กับลูกได้
ซึ่งถ้าเด็ก ๆ เก็บความรู้สึกนี้ไว้ตลอดทั้งวัน ในวินาทีที่ได้เห็นหน้าแม่ก็รู้ได้ว่าเป็นเวลาที่ลูกจะสามารถระบายอารมณ์ที่ขุ่นข้องหมองใจต่างๆ เหล่านั้นออกมาได้ นั่นหมายถึงการได้ปลดปล่อยไม่ว่าจะเป็น การร้องไห้ครวญคราง การหยิกหรือแอบตีแม่เบา ๆ หรือพฤติกรรมอื่น ๆ ที่ดูเหมือนก้าวร้าว ซึ่งเป็นสิ่งที่คนเป็นแม่จะต้องเจอ
ขอบคุณภาพจาก : IG @chfunfood
แน่นอนว่าในสถานการณ์ที่ลูกวิ่งเข้ามาหาคุณแม่ และทำพฤติกรรมแบบนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า คุณแม่ได้ตามใจลูกจนเสียคน แต่นั่นหมายถึงการ
- เป็นพื้นที่ปลอดภัยของลูก
- เป็นที่ยอมรับความเป็นธรรมชาติวัยเด็กของลูกได้
- เป็นที่มีความรู้สึกตามอารมณ์และตามการเคลื่อนไหวของร่างกายอย่างตรงไปตรงมา
และนั่นถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีต่อพัฒนาการอารมณ์ของลูก แม้ลูกจะแสดงออกถึงพฤติกรรมที่แย่ ๆ ไปบ้าง แต่นี่ก็คือสิ่งที่แสดงออกให้เห็นว่าลูกรักและต้องการคุณแม่มากแค่ไหนนั่นเอง
อ่านต่อ >> “จะทำอย่างไรเมื่อลูกรักพ่อมากกว่าแม่” คลิกหน้า 2
ข้อมูลอ้างอิงจาก : creativeandhealthyfunfood.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
หากลูกจะรักพ่อมากกว่าก็สามารถเป็นไปได้ เพราเด็กๆ เขาก็มี “หัวใจหลายห้อง” เหมือนเราๆ ผู้ใหญ่นี่แหละค่ะ เพียงแต่พวกเขายังไม่เรียนรู้ที่จะแบ่งความสนใจหรือเอาใจใส่ใครหลายๆ คนพร้อมกัน …ดังนั้นถ้ามีคนที่รักอยู่พร้อมกัน 2 คน ลูกจึงจัดอันดับแล้วทุ่มให้คนที่ชอบมากกว่าจนเหมือนจะเมินอีกคนไปเสีย
ทำไมเด็กๆ จึง (เหมือนจะ) รักพ่อมากกว่าแม่
บทบาทในครอบครัว ส่วนใหญ่แม่จะเป็น “นายจ่าคุมกฎ” หรือ “คุณนายระเบียบ” คอยห้ามคอยสั่งให้ลูกทำสิ่งต่างๆ ถ้าเทียบกับพ่อซึ่งมีเวลาให้น้อยกว่า แต่สนุกสนานมากกว่า (แถมตามใจมากกว่า) หนูๆ เลยชอบเวลาที่อยู่กับพ่อมากกว่าเวลาที่อยู่กับแม่
มีอาการติดพ่ออย่างมากจนไม่สนใจใคร จะแก้ไขอย่างไร?
เรื่องนี้คุณหมอสินดี จำเริญนุสิต ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรมเด็กจากโรงพยาบาลเวชธานี ได้ให้คำตอบและคำแนะนำว่า
จริง ๆ แล้วถือเป็นเรื่องที่ดีนะคะ เพราะแสดงว่าลูกผูกพันกับพ่อและแม่ (และไม่ต้องแปลกใจเพราะอาจติดคนที่ไม่ใช่คนเลี้ยงหลักก็ได้) นอกจากนั้นยังเป็นเรื่องของพฤติกรรมตามวัยที่เด็กจะติดเรามาก กลัวการพลัดพรากหรือแยกจาก เพราะเราจะเห็นว่าวัยนี้เริ่มทำอะไรเองได้มากขึ้น เดินวิ่งได้คล่อง เริ่มหัดพูด แต่เรื่องความเป็นอิสระเหล่านี้ยังไม่มั่นคง เด็กจึงมีช่วงเวลาที่ไม่มั่นใจต้องเกาะติดพ่อแม่ไว้ก่อน ซึ่งเมื่อวุฒิภาวะมากขึ้นเดี๋ยวก็จะดีเองค่ะ
คุณหมอยังบอกอีกว่า เข้าใจคุณพ่อคุณแม่นะคะ เพราะถ้าติดมาก ๆ บางครั้งเราก็ทำอะไรไม่ค่อยได้ วิธีการตอบสนอง คือ เข้าใจเขาก่อนนะคะว่าเขากลัวจริง ๆ จากนั้นหากพ่อต้องไปไหนหรือทำอย่างอื่น พ่ออาจจะต้องให้ความมั่นใจว่าเดี๋ยวก็กลับมา อาจฝากของอะไรเล็กน้อยแทนตัวพ่อ พยายามไม่แสดงท่าทีใจอ่อน แต่ให้ทำตามสัญญาให้ได้คือ จะกลับมาช่วงเวลาไหนก็ให้เป็นไปตามนั้นค่ะ
บางครั้งถ้าเรารู้แน่ ๆ ว่าพ่อแม่จะไปไหน ไม่อยู่เราก็ต้องบอกเขาล่วงหน้า ให้ความมั่นใจว่าพ่อแม่อยู่ ไม่มีใครทิ้งไปไหน อาจจะเล่าเรื่องผ่านนิทานที่เกี่ยวกับการไปทำงานของพ่อแม่แต่เดี๋ยวก็กลับมา และพยายามไม่ขู่เด็กว่าจะทิ้งหรือไม่มีใครอยู่ด้วยนะคะ เพราะเขาจะยิ่งติดมากขึ้นค่ะ หรืออย่าให้เหตุผลนี้ทำให้เราต้องฝากคนอื่นเลี้ยงเพราะจะกลายเป็นว่าสิ่งที่เขาคิดคือกลัวการพลัดพรากได้เกิดขึ้นจริง ๆ
สุดท้ายหมอขอให้กำลังใจนะคะ ส่วนใหญ่หายได้เองค่ะ ประมาณ 4-7 ขวบจะค่อย ๆ ดีขึ้น แต่ถ้าดูมากผิดปกติและทำให้การใช้ชีวิตของพ่อแม่มีปัญหาจริง ๆ ก็คงต้องปรึกษาแพทย์ดีที่สุดค่ะ
ถ้าแม่อยากได้ตำแหน่ง “ขวัญใจ” คืนบ้าง
ลองทำตัวให้สนุกสนานและผ่อนคลายขึ้นอีกหน่อย ชวนลูกเล่นหรือทำกิจกรรมต่างๆ หลังจากทำการบ้านเสร็จ มีส่วนร่วมมากขึ้น ตอนที่พ่อ – ลูกเตะฟุตบอลกัน คุณอาจทำหน้าที่เป็นผู้รักษาประตู หรือดึงลูกเข้ามาในกิจกรรมของคุณ เช่น ให้พวกเขาช่วยเด็ดผักระหว่างที่คุณกำลังทำอาหาร ช่วยเลือกของเวลาไปช็อปปิ้ง ฯลฯ
ถึงแม้ว่าทำแล้วยังดูเหมือนลูกยัง “ติด” พ่อมากกว่า ก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะถ้าถึงเวลาที่หนูๆ ต้องการใครสักคนขึ้นมาจริงๆ แม่จะเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งโดยอัตโนมัติ
อ่านต่อ >> “เหตุผลที่ลูกสาวติดพ่อมากกว่าแม่” คลิกหน้า 3
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.manager.co.th
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
9 เหตุผลที่ ลูกสาวติดพ่อมากกว่าแม่
1. คุณพ่อคือ ฮีโร่ของลูกสาวตัวน้อย
คุณเคยสังเกตไหมว่าเวลาที่คุณเลือกแฟนทีไรนิสัยคล้ายคุณพ่อทุกที ถ้าพ่อไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ก็อย่าหวังว่าจะเลือกผู้ชายที่ทั้งสูบบุหรี่และกินเหล้ามาเป็นแฟน ก็เพราะคุณประทับใจในตัวพ่อคุณนั่นไง ถ้าให้ดีนะพาหนุ่มๆที่ลูกคบไปเจอคุณพ่อด้วยก็ได้นะ ผู้ชายกะผู้ชายเค้าอาจจะดูกันออก ยิ่งไปกว่านั้นเวลาคุณพ่อทำอะไรนะ ก็ดูเท่ไปซะหมดเลย
2. คุณพ่อเป็นเหมือนเพื่อน
เวลาที่ลูกสาว ทำผิดแล้วแม่รู้ก็ต้องโดนบ่นไป 3 วัน 8 วัน แต่ถ้าลุกสาวลองบอกคุณพ่อหล่ะก็ พ่อก็จะบอกแค่ว่า “มันเรื่องเล็ก คราวหลังอย่าทำอีกล่ะกัน” พ่อจะไม่ค่อยทำให้รู้สึกผิด ซึ่งอาจจะเป็นสไตล์ที่ gen-Y ,gen-X ,gen-Z ชอบ ไหนจะเวลาพ่อเล่นกับลูกสาว ก็ มักจะเล่นแรงๆ ให้ลูกได้หัวเราะอยู่เสมอ ทำให้ลูกได้ผ่อนคลายเป็นประจำ
3. ไม่ค่อยกำหนดชีวิต
ไม่ค่อยมีคุณพ่อที่จะบอกว่า ลูกต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่คุณพ่อจะชิลล์ๆ ให้ทางเลือกที่ยุติธรรมเสมอ (แต่อันนี้ก็แล้วแต่บ้านด้วยนะ)
4. คุณพ่ออยากให้คุณมีความสุขเสมอ
ถึงแม้ว่าพ่อจะเป็นผู้ชายไม่ค่อยแสดงออก แต่ลูกก็จะรับรู้ได้เสมอ ว่าพ่ออยากจะเห็นรอยยิ้มของลูก
5. คุณพ่อเป็นนักเกลี้ยกล่อมชั้นดี
หากว่าลูกทะเลาะกับแม่ คนที่เบรคอารมณ์ลูกให้ใจเย็นเสมอคือ คุณพ่อนี่แหละใจเย็นและมีความสุขุมเสมอ
6. ถ้าจะขอเงินคุณพ่อจะให้ง่ายกว่า
ขอเงินแม่ 2 วันกว่าจะได้ ขอเงินพ่ออาจจะแค่ 2 นาที เพราะพ่อมักจะแพ้ลูกอ้อนของเจ้าของตาแป๋วๆ อย่างลูกสาวเป็นประจำ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่เค้าก็เป็นคนประหยัดแล้วรู้จักใช้เงินเสมอ ถ้าลูกอยากปรึกษาเรื่องการใช้เงินปรึกษาคุณพ่อจะได้ข้อคิดดีๆ เสมอ
7. ไม่ใช่ผู้พิพากษาแต่เป็นผู้ให้กำลังใจ
พ่อจะไม่ตัดสินความผิดของลูกเลยแม้แต่น้อยแต่จะให้กำลังใจคุณเสมอ
8. พ่อผู้เถรตรงเสมอ
ถ้าอยากได้อะไร ตรงๆ ถามคุณพ่อเลยชัวร์สุด
9. พ่อไม่ทำให้ลูกอึดอัดใจ
คุณจะใช้ชีวิตได้เต็มที่ กินดื่มได้ เต็มที่ แต่เค้าจะคอยเป็นห่วงลูก ซึ่งพ่ออาจจะแกล้งดูทีวีดึก แต่จริงๆ แล้วพ่อรอลูกกลับบ้านอยู่นั่นแหละ
สุดท้ายเพราะพ่อรักลูกแบบไม่มีเงื่อนไข = ข้อนี้ไม่ว่าจะเป็นทั้งลูกสาวหรือลูกชาย และไม่ว่าลูกดี จะทำถูกหรือผิด พ่อไม่เคยสนใจหรอก เพราะพ่อรู้อยู่อย่างเดียวว่าลูก คือ ลูกของเค้า และเค้ารักคุณมากกว่าสิ่งใดในโลกใบนี้
ลูกสาวคนไหนที่ยังมีพ่อให้ดูแลห่วงใย อย่าลืมดูแลเอาใจใส่ท่านให้มากพอ หรือ มากกว่าที่ท่านห่วงใยคุณ แต่ก็อย่าลืมคุณแม่ผู้ให้กำเนิดเราด้วยนะคะ เพราะเวลานั้นผ่านไปเร็วกว่าที่คิด อย่าปล่อยเวลาให้ผ่านไป จนคิดว่ารู้อย่างนี้น่าจะทำดีกับท่านให้มาก เมื่อสายไปแล้วนะคะ
อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!
- 7 เรื่องที่พ่อแม่ควร สอนลูกสาว ให้ติดตัวเป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิต
- แม่ติดลูก หรือลูกติดคุณ 5 สัญญาณบอกที่คุณควรเช็ก
- 7 หน้าที่พ่อแม่ เลี้ยงลูกชาย เป็นเด็กรักดี ไม่เกเร
ที่มา femalefirst.co.uk