เคยไหม ที่ลูกก่อนวัยเรียนของคุณซึ่งสวมถุงเท้ารองเท้าเองได้คล่องแล้ว อยู่ๆ ก็ร้องโยเยให้แม่ช่วยใส่ให้ อะไรที่เคยทำได้ก็ปฏิเสธหมด แถมผลักหน้าที่ให้พ่อแม่อีกต่างหาก! พฤติกรรมนี้อาจมาจากการที่เด็กๆ รู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดแปลกไปจากเดิม ด้วยสาเหตุต่างๆ ได้แก่
1. ลูกไม่อยากทำพลาด
เด็กก่อนวัยเรียนเริ่มทำอะไรหลายอย่างได้ด้วยตนเอง ในขณะเดียวกันพวกเขาก็เริ่มกลัวเสียหน้าหากว่าทำอะไรผิดพลาดด้วย ยิ่งถ้าหากผู้ใหญ่คอยปรบมือชื่นชมอย่างออกนอกหน้ายามทำสิ่งใหม่ๆ มากเท่าไร หนูๆ ก็ยิ่งกดดันมากขึ้นเมื่อต้องทำสิ่งนั้นซ้ำอีกในครั้งต่อไป ถ้าไม่อยากให้ลูกวิตกจนเกินเหตุ พ่อแม่ลองถอยหลังมาสักก้าว ปล่อยให้ลูกทำอะไรเอง แม้ว่าจะมีเสียงงอแงงึมงำบ้าง ถ้าลูกยังยืนนิ่งไม่ยอมขยับ ก็ลองพบกันครึ่งทางด้วยการชี้ชวนให้มาช่วยกันทำสิ่งนั้นคนละไม้ละมือ โดยไม่ลืมสำทับว่า ครั้งนี้แม่จะช่วยหนูครึ่งหนึ่งแล้วครั้งหน้าหนูต้องทำเองนะคะ
2. ลูกตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย
กิจกรรมที่เคยชินอาจกลายเป็นภารกิจสุดหิน ถ้าหากลูกอยู่แปลกที่หรือไม่คุ้นกับผู้คนรอบข้าง เช่น ตอนอยู่บ้านลูกท่อง ABC ได้เสียงแจ๋ว แต่พออยู่ต่อหน้าคุณครูคนใหม่กลับตะกุกตะกัก ทางแก้คือ หากคุณไม่ได้เร่งรีบอะไร ก็อดใจรอให้ลูกชินกับสิ่งแวดล้อมก่อน แล้วค่อยกระตุ้นให้เขาลองทำสิ่งนั้นๆ อีกครั้ง
3. ลูกเกิดกลัวว่าพ่อแม่จะหยุดให้ความช่วยเหลือดูแล
จินตนาการอาจทำให้เด็กคิดเลยเถิดไปว่า ถ้าเขาแต่งตัวและช่วยเหลือตัวเองตอนกินข้าวได้แล้ว แม่อาจไม่ยอมกล่อมเขานอนหรือทำอาหารให้กินด้วย แล้วทีนี้จะทำอย่างไร นอกจากนี้เด็กโตส่วนใหญ่ก็มีอารมณ์หนึ่งที่อยากกลับไปเป็นเบบี๋ของพ่อแม่กันทั้งนั้น โดยเฉพาะถ้าในบ้านมีน้องเล็กอยู่ด้วย เขาก็ยิ่งอ้อนเรียกร้องความสนใจมากขึ้น ทางแก้ไขคือต้องอธิบายให้ลูกรู้ว่า แม่ยังคอยอยู่ช่วยเหลือดูแลเขาเสมอ เพียงแต่ว่างานของแม่เปลี่ยนไป เป็นการช่วยหาถุงเท้าให้เขาหรือช่วยสอนการบ้านเท่านั้น
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง