AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

9 สิ่ง ที่พ่อแม่ควรฝึกลูกน้อยเพื่อ เตรียมเข้าอนุบาล

เตรียมเข้าอนุบาล เป็นสิ่งที่คุณแม่ๆเป็นกังวลมากๆใช่ไหมคะ เมื่อวันที่ลูกต้องเข้าโรงเรียน แล้วคุณแม่ควรจะมีวิธีฝึกลูกอย่างไร เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับลูก 

 

เตรียมเข้าอนุบาล

เช่นเดียวกับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว สุดแกร่ง แอฟ ทักษอร ที่แม้ว่าจะมีงานละครติดต่อเข้ามาเยอะ แต่คุณแม่แอฟก็ต้องขอตัดใจไม่รับ เพราะเหตุผลเดียว คือ ลูกสาว น้องปีใหม่ กำลังจะเข้าโรงเรียนอนุบาลค่ะ

ซึ่งแม่แอฟ เผยว่า “ก็คิดหนักอยู่ค่ะ มีคนส่งบทมาให้บ้าง ก็ขอบคุณสำหรับผู้จัดที่นึกถึง แล้วส่งบทมาให้ลองอ่าน บางอันอาจจะขอพักไว้ก่อน ไม่ใช่เลือกงานนะแต่อยากจะส่งลูกเรียนให้เรียบร้อยก่อน กลางปีน้องจะขึ้นอนุบาล 1 แล้วก็เรียนยาวขึ้น คือใจหนึ่งเราก็อยากจะทำงานเร็วๆ แต่ใจหนึ่งก็คิดว่า…พูดง่ายๆ คือแอฟก็เป็นหลักของลูก ก็เลยอยากจะส่งลูกให้อุ่นใจที่สุด ตอนนี้เขาก็มีเราอยู่คนเดียวแล้ว ถ้าเราจะทิ้งเขาไปทำงานอีก นอกเสียจากว่าเขาเป็นฝ่ายทิ้งเราไปเรียนแล้ว อันนี้เราก็รู้สึกสบายใจที่จะออกไปทำงาค่ะ ก็วางแพลนไว้ว่า ถ้าอยู่ตัวเรื่องลูก ลูกเรียนเต็มวันเมื่อไหร่ แม่จะแว้บไปทำงานค่ะ”

ปรบมือให้แม่แอฟเลยค่ะ และเชื่อว่าคุณแม่ๆอีกหลายคน ก็คงเป็นเช่นกัน เพราะลูกต้องสำคัญเป็นดับแรกใช่ไหมคะ

 

 

ซึ่งถ้าพูดถึงการเข้าโรงเรียนของลูกน้อย สำหรับบ้านไหนที่กำลังมีลูกอยู่ในวัย 3 ขวบ และใกล้เข้าโรงเรียนอนุบาลแล้ว คุณแม่ๆก็คงเตรียมหาข้อมูลโรงเรียนอนุบาลที่จะให้ลูกเข้าเรียนกันเต็มที่เลยใช่ไหมคะ แต่คุณแม่คะ นอกจากการเลือกโรงเรียนที่เป็นสิ่งสำคัญแล้ว การฝึกลูกเพื่อ เตรียมเข้าอนุบาลก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันนะคะแม่ๆ

 

ขอบคุณภาพจากไอจี aff_taksaorn

 

เมื่อลูกน้อยต้องเตรียมเข้าโรงเรียนอนุบาล

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

เมื่อลูกน้อยต้องเตรียมเข้าโรงเรียนอนุบาล

เมื่อลูกน้อยต้องเตรียมเข้าโรงเรียนอนุบาล เชื่อว่าคุณแม่ๆก็มักจะตื่นเต้น และเป็นกังวลหลายอย่าง เป็นเรื่องธรรมดา แต่คุณแม่ๆก็ต้องเข้าใจมากๆ เพราะการไปโรงเรียนของลูกนั้นเป็นพัฒนาการส่วนหนึ่งของเด็ก เนื่องจากโรงเรียนเป็นสถานที่ที่่แปลกใหม่สำหรับลูก ที่โรงเรียนเด็กจะได้เรียนรู้ทั้งวิชาการ อ่าน เขียน ได้เล่น รวมถึงได้ฝึกการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมด้วย และสำคัญคือ การที่ลูกจะต้องแยกจากพ่อแม่

ภาวะเด็กเกิดความวิตกกังวลในการแยกจากพ่อแม่

ความวิตกกังวลของเด็กในการแยกจากพ่อแม่ จะเริ่มเกิดมีเมื่อเด็กอายุ 6 ถึง 8 เดือน และจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น เมื่อลูกอายุประมาณ 1 ขวบครึ่ง ถึง 2 ขวบ เวลาคุณพ่อ คุณแม่เข้าห้องน้ำ ลูกก็มักจะร้องไห้ มาเคาะประตูเรียกบ้าง หรือ คุณพ่อคุณแม่จะไปทำงานก็ร้องตาม ซึ่งความวิตกกังวลในการแยกจากพ่อแม่นี้ ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ภาวะนี้จะลดลงลงไป เมื่อเด็กอายุ 3 ปี ซึ่งตรงกับช่วงเวลาเข้าโรงเรียนอนุบาลของเด็กพอดี

ดังนั้น เด็กในวัยนี้จึงเหมาะที่จะเริ่มเข้าโรงเรียน แต่บางครั้งความวิตกในการแยกจากกันนี้ ก็เกิดขึ้นกับพ่อแม่เมื่อลูกต้องแยกไปโรงเรียนเช่นกัน พ่อแม่หลายคนมักรู้สึกกลัว ไม่มั่นใจ หรือรู้สึกผิดที่ส่งลูกไปโรงเรียน ก็จะยิ่งเป็นการทำให้ลูกกังวล ตัวอย่างที่เห็นบ่อยๆ เช่น คุณแม่ที่ไปส่งลูกที่โรงเรียน พอเห็นลูกร้องไห้ ก็ใจอ่อนน้ำตาซึม หรือส่งลูกแล้วก็มายืนเกาะรั้วโรงเรียน คอยเฝ้ามองลูกอย่างกังวล หรือคุณแม่บางคนนั่งเฝ้าลูกที่โรงเรียนตลอดทั้งวัน ไม่ยอมกลับบ้าน สิ่งเหล่านี้ที่กล่าวมา ก็จะยิ่งทำให้ลูกวิตกกังวลไปด้วย และทำให้ลูกปรับตัวได้ช้าอีกด้วย เพราะฉะนั้นคุณแม่ๆไม่ต้องกังวลไปค่ะ ต้องใจแข็ง ท่องไว้เพื่อลูกค่ะ และไม่นานลูกก็จะปรับตัวในการแยกจากพ่อแม่ได้ในที่สุดค่ะ

แต่ในบางครั้ง หลายบ้านเจอปัญหาลูกงอแงอย่างรุนแรงในการไม่ยอมไปโรงเรียน คุณแม่ๆจึงควรปรึกษาจิตแพทย์เด็ก หากลูกมีอาการดังนี้ ค่ะ

 

หากคุณแม่ๆไม่อยากให้ลูกเกิดการต่อต้านรุนแรงในการไปโรงเรียน อย่างที่กล่าว ซึ่งบอกเลยว่าปล่อยไว้นานไม่เป็นผลดีแน่นอนค่ะ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ก็ควรมีการฝึก เตรียมเข้าอนุบาล ด้วยการฝึกลูก 9 ข้อดังนี้ ค่ะ

 

9 สิ่ง ที่พ่อแม่ควรฝึกลูกเพื่อ เตรียมเข้าอนุบาล

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

9 สิ่ง ที่พ่อแม่ควรฝึกลูกเพื่อ เตรียมเข้าอนุบาล

1.การฝึกเตรียมร่างกายของลูกให้พร้อม

เตรียมเข้าอนุบาล ด้วยการเตรียมร่างกายให้พร้อม เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆเพราะในโรงเรียนอนุบาลนั้น ลูกต้องเจอกับเพื่อนใหม่ๆ เด็กใหม่ๆ และในในโรงเรียนอนุบาลนั้นก็ต้องยอมรับว่าเป็นสถานที่แพร่เชื่อโรคระบาดต่างๆ ได้ง่ายมาก ดังนั้นก่อนเข้าโรงเรียน ต้องพาลูกไปฉีดวัคซีนต่างๆให้ครบถ้วน ต้องให้ลูกได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมถึงฝึก เตรียมเข้าอนุบาล ด้วยการเน้นสอนและย้ำเรื่องสุขอนามัยเบื้องต้นให้รู้ เช่น ล้างมือให้สะอาด

2. ฝึกให้ลูกรู้จักการช่วยเหลือตัวเอง

เรื่องนี้ก็สำคัญเช่นกันในการ เตรียมเข้าอนุบาลค่ะแม่ๆ เพราะเมื่อลูกเข้าไปอยู่ที่โรงเรียน ก็คือการที่ลูกต้องไปในอีกสังคมหนึ่ง สังคมใหม่ ที่ไม่มีคนมาดูแลใกล้ชิดเหมือนอยู่ที่บ้าน ดังนั้น ลูกต้องช่วยเหลือตัวเองให้เป็น ให้ได้พอสมควร เพราะเด็กที่ช่วยเหลือตัวเองได้ดี ย่อมสามารถปรับตัวให้เข้ากับโรงเรียนได้ดีด้วย เช่น การฝึกให้รับประทานข้าวได้ด้วยตัวเอง การฝึกให้บอกว่าปวดปัสสาวะหรืออุจจาระกับคุณครูได้ แต่การฝึกให้ลูกรู้จักช่วยเหลือตัวเองได้นั้น ย่อมต้องใช้เวลาค่ะ ไม่ใช่เรื่องที่จะฝึกกันวันสองวันแล้วก็ได้ผล การฝึก ก็ต้องฝึกตามวัย ตามพัฒนาการของลูก เช่น

3. ฝึกลูกให้รู้จักการอดทนและรอคอย

การฝึกลูกให้รู้จักการอดทนรอคอย เป็นการ เตรียมเข้าอนุบาลที่ดีค่ะ เพราะเมื่อเวลาลูกอยู่ที่โรงเรียนนั้น จะไม่มีการตอบสนองความต้องการในทันทีทันใดเหมือนเวลาที่อยู่บ้าน เช่น อยากเล่นเครื่องเล่น ก็ต้องรู้จักอดทนรอตามคิว เพราะมีเด็กคนอื่นๆอีกมากมายที่ต้องการเล่นเช่นกัน  หรือรู้จักรอพ่อแม่มารับกลับบ้าน

ซึ่งการฝึกความอดทนของลูกนั้น ต้องค่อยๆ ฝึกทีละน้อยค่ะ ตัวอย่างเช่น ถ้าลูกจะเล่นอะไรบางอย่างที่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา คุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะฝึกให้เขารอเวลาสักครู่หนึ่ง และระหว่างนั้นพ่อแม่ก็อาจจะให้ความสนใจในตัวลูก การชวนลูกคุย และเวลาที่ลูกอยากได้อะไร ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องตามใจลูกทุกครั้งอาจจะใช้วิธีเบี่ยงเบนให้ลูกหันไปสนใจสิ่งอื่นทดแทน เป็นการสอนให้ลูกรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีขอบเขต ก็จะเป็นการช่วยทำให้ลูกได้เรียนรู้การรอคอยได้มากขึ้น

4. ฝึกการเข้าสังคม

เตรียมเข้าอนุบาล ด้วยการฝึกเข้าสังคมในที่นี้ รวมถึง การฝึกให้ลูกรู้จักแบ่งปัน แบ่งของเล่นและรู้จักเล่นกับเพื่อนคนอื่นด้วย ซึ่งการจะฝึกให้ลูกเข้าสังคมให้ได้นั้น ก็ควรเริ่มจากตัวพ่อแม่ค่ะ  สังคมเบื้องต้นของลูกก็คือพ่อแม่ พ่อแม่ทำได้โดย สอนให้ลูกเล่นกับเรา และสอนให้รู้จักเล่นกับคนอื่นๆให้เป็นด้วย เมื่อลูกรู้สามารถเล่นกับคนอื่นได้ ก็ถือว่าฝึกการเข้าสังคมของลูกได้ในระดับหนึ่งแล้วค่ะ

แต่เนื่องจากเด็กในวัยนี้จะเป็นวัยที่ถือตัวเองเป็นใหญ่ อาจจะมีความเห็นแก่ตัวอยู่ พ่อแม่ต้องไม่ไปบังคับลูกจนเกินไป แต่เน้นการเปิดโอกาสให้ลูกทำมากกว่า เมื่อลูกทำได้รู้จักแบ่งปัน ก็ควรชื่นชมลูก

5. ฝึกให้ลูกรู้จักการใช้ภาษาในการสื่อสาร

การ เตรียมเข้าอนุบาล เรื่องของการฝึกให้ลูกรู้จักการใช้ภาษาสื่อสารความต้องการก็จำเป็นค่ะ เพราะเมื่อลูกไปโรงเรียนไม่มีใครที่จะรู้ความต้องการของลูกได้ดีเท่ากับพ่อแม่ ดังนั้น ต้องฝึกให้ลูกสามารถสื่อสารความต้องการของตัวเองได้ ว่าต้องการอะไร ชอบ หรือไม่ชอบอะไร หรือถ้าเพื่อนมาแย่งของตัวเองไป ก็สามารถสื่อสารบอกครูได้

ข้อดี เมื่อลูกสามารถบอกความต้องการตัวเองกับคนอื่นได้ ลูกก็จะปรับตัวได้ดี และยังลดพฤติกรรมก้าวร้าวลงอีกด้วย เพราะเด็กที่ไม่มีการพูดสื่อสาร เมื่อโมโหอาจแสดงออกด้วยการตีเพื่อน หรือแย่งของเพื่อน

6. ฝึกการสร้างทัศนคติที่ดีต่อโรงเรียน

เตรียมเข้าอนุบาล ถ้าไม่อยากให้ลูกกลัวการไปโรงเรียน พ่อแม่ต้องพูดถึงโรงเรียนในแง่ที่ดี ไม่พูดในสิ่งที่ลูกอาจจะรู้สึกกลัวโรงเรียน เช่น ใช้คำพูดว่า “ถ้าทำตัวไม่ดี ไม่น่ารักจะส่งไปอยู่โรงเรียนเลย” แบบนี้ไม่ควรค่ะ เพราะจะยิ่งทำให้การไปโรงเรียนของลูกยิ่งยากลำบากขึ้นไปอีก แต่ควรทำให้ลูกรู้สึกว่า พ่อแม่ภูมิใจที่เห็นลูกได้ไปโรงเรียน หรือไปโรงเรียนแล้วลูกจะได้เจอกับเรื่องสนุกๆอะไรบ้าง

7. ฝึกให้ลูกค่อยๆ คุ้นเคยกับการไปโรงเรียน

วิธีนี้ค่อยๆทำทีละน้อย ค่อยเป็นค่อยไปค่เช่น ก่อนเปิดเทอม พ่อแม่อาจจะขับรถพาลูกผ่านหน้าโรงเรียน ต่อมาอีก 1-2 วันอาจจอดรถพาลูกดูนอกรั้วโรงเรียน หรือหลังจากนั้นอาจจะเริ่มพาลูกเข้าไปเล่นเครื่องเล่นในโรงเรียนแล้วกลับบ้าน  หรือพาเข้าไปพูดคุยทำความคุ้นเคยกับคุณครู พาไปดูห้องเรียน ห้องน้ำ สนามเด็กเล่นก็ได้ค่ะ ก็เป็นอีกวิธีในการเตรียมเข้าอนุบาล ได้ดีทีเดียว

8. ให้ความมั่นใจกับลูกว่าจะไม่ทิ้งลูก

อย่างที่บอกว่าเด็กในวัยนี้มักจะกลัวการพลัดพราก และลูกอาจจะกังวลว่าเวลาไปโรงเรียนแล้ว เมื่อไรพ่อแม่ถึงจะมารับ ดังนั้น พ่อแม่ต้องสร้างความมั่นกับลูกว่า ไม่ได้ทิ้งลูก แต่เป็นหน้าที่ของลูกที่ต้องไปโรงเรียน และเมื่อถึงเวลา ก็จะมารับลูกให้ตรงเวลา หรืออาจจะใช้วิธีให้ตุ๊กตาหมีตัวโปรด ผ้าห่ม ติดตัวลูกไปก็ได้นะคะ เพื่อให้ลูกได้มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจลูกค่ะ

9. ฝึกให้ลูกรู้จักเก็บของให้เป็นระเบียบ

การเตรียมเข้าอนุบาล อีกหนึ่งสิ่งที่พ่อแม่ควรฝึกก็คือ การฝึกให้ลูกรู้จักการดูแลสิ่งของ ของเล่นของตัวเอง ฝึกให้จัดเก็บให้เป็นระเบียบ ด้วยการที่เล่นเสร็จแล้วต้องเก็บใส่ตระกร้า คุณแม่อาจจะชวนลูกเก็บสิ่งของเพื่อเป็นการฝึกไปในตัวก็ได้ค่ะ ซึ่งเมื่อลูกไปโรงเรียนก็จะเป็นเด็กที่น่ารัก รู้จักที่จะเก็บของเล่นที่โรงเรียนให้เป็นระเบียบเช่นกันค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะแม่ๆ เพียงแค่ 9 ข้อเท่านั้นในการฝึกลูกเตรียมเข้าอนุบาล คุณแม่ๆอาจจะต้องใช้ความอดทนกันหน่อย แต่เชื่อว่าผลที่ออกมาจะเป็นสิ่งที่ดีและติดตัวลูกน้อยมาจนโตแน่นอนค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก www.bangkokhealth.com  / Kapook

 

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ

อัพเดท ค่าเทอมโรงเรียนอนุบาล 2561 รวม 30 โรงเรียนในกรุงเทพฯ

อัพเดทราคา แพคเกจวัคซีน 2561 จาก 12 โรงพยาบาลดัง

อัพเดท ราคาวัคซีนโรต้า 2561 จาก 12 โรงพยาบาลดัง

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids