สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ได้ดำเนินโครงการจัดพิมพ์หนังสือชุดสำหรับเยาวชน โดยจัดพิมพ์ หนังสือนิทานเฉลิมพระเกียรติ สำหรับเด็ก อายุ 5-9 ขวบ เพื่อนำเสนอพระปรีชาสามารถ 9 ด้าน ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผ่านการเล่าเรื่องในรูปแบบของหนังสือภาพอันเป็นสื่อที่เข้าถึงเด็กกลุ่มเป้าหมายที่สุด จำนวน 9 เล่ม
ทั้งนี้ เพื่อขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ข้าพระพุทธเจ้า Amarin Baby & Kids จึงขอนำเสนอเรื่องราวจุดเด่นของ ชุดหนังสือนิทานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ของแต่ละเล่ม มาให้เด็กและคุณพ่อคุณแม่ได้ทราบกันค่ะ
รวมชุด หนังสือนิทานเฉลิมพระเกียรติ
เล่มที่ ๑ ในหลวงของฉัน
เรื่องและภาพโดย คุณเฉลิม อัคคะพู ข้อมูลโดย รศ.จินดา จำเริญ
เล่มนี้เป็นเล่มเปิดของชุด หนังสือนิทานเฉลิมพระเกียรติ เกี่ยวกับพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผ่านการเล่าเรื่องของคุณยายที่เก็บภาพในหลวงไว้ในอัลบั้มรูป แล้วเปิดเล่าให้หลานฟัง
เล่มที่ ๒ กล้องของใคร
เรื่องและภาพโดย คุณลำพู แสงลภ
เล่มนี้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการถ่ายภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ไม่ว่าพระองค์จะเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎร ณ จังหวัดใด ก็จะทรงมีกล้องถ่ายรูปติดพระองค์ไปด้วยเสมอ ทรงโปรดถ่ายภาพสถานที่ทุกแห่งเพื่อทรงเก็บไว้เป็นหลักฐานประกอบงานที่ได้ทรงปฏิบัติ แต่ละภาพทรงคุณค่าทางศิลปะและวิชาการ สามารถนำมาใช้ประโยชน์เพื่อการพัฒนาประเทศชาติบ้านเมือง และนำความผาสุกร่มเย็นมาสู่ประชาชนชาวไทยเสมอมา
โดยเนื้อเรื่องเล่าด้วยการประกวดกล้องที่มีผลงานดีเด่น กล้องแต่ละประเภทต่างก็ถ่ายภาพในมุมมองต่างๆ กัน บ้างก็ชอบถ่ายงานคอนเสิร์ต บ้างก็ชอบถ่ายภาพคนสนุกสนาน แต่มีกล้องชราที่ถ่ายภาพความทุกข์ยากของผู้คนในดินแดนที่ได้รับความเดือดร้อน เอ…กล้องชรานี้เป็นกล้องของใครกัน!
เล่มที่ ๓ เพลงแผ่นดิน
เรื่องและภาพโดย คุณชีวัน วิสาสะ
หนังสือเล่มนี้ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ผู้ใดได้ฟังแล้วย่อมก่อเกิดความสุขความปีติและรื่นรมย์คิดเชื่อมโยงไปถึงความสุขในชีวิตที่เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทย โดยใช้ถ้อยคำเป็นจังหวะร้อยเรียงเป็นท่วงทำนองผสานกับภาพกึ่งนามธรรมมีลักษณะลื่นไหลเชื่อมต่อกันดุจเสียงเพลงทำให้เกิดความซาบซึ้งสะเทือนอารมณ์และด้วยถ้อยคำที่กระตุ้นให้คิดตามติดตามไปหาจุดกำเนิดอันยิ่งใหญ่แห่งความสุขนั้น
เปิดเรื่องด้วยการถามว่าได้ยินเสียงเพลงไหม และมีเรื่องราวและรูปภาพต่างๆ ต่อเนื่องกันไปตลอดเล่ม จนกระทั่งถึงหน้าสุดท้ายมีเงาคนเป่าแซกโซโฟน ในงานเปิดตัวชุดหนังสือนี้ ซึ่งครูชีวันได้แสดงภาพต้นฉบับที่วาดต่อกันยาวเป็นภาพเดียว ทำเอาคนทั้งห้องประชุมฮือฮามาแล้ว
เล่มที่ ๔ วาดภาพตามพ่อ
เรื่องและภาพโดย คุณกฤษณะ กาญจนาภา และคุณวชิราวรรณ ทับเสือ
เล่มนี้ บอกกล่าวถึงพระปรีชาสามารถทางด้านศิลปะของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และตั้งใจแสดงให้ทุกคนเห็นว่าไม่ว่าเราจะมีบทบาทหน้าที่ใดก็สามารถนำงานศิลปะมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ ผู้เขียนและผู้วาดมีความตั้งใจใช้ตัวหนังสือในเล่มให้น้อยที่สุด เพื่อให้เด็กได้ใช้จินตนาการให้มากที่สุด จึงเสนอภาพผ่านคุณลุงคนหนึ่งที่ทำงานศิลปะอย่างต่อเนื่องและมีความสุขทุกวัน โดยให้เรื่องราวและการกระทำต่างๆ เชื่อมโยงกับเด็กคนหนึ่งที่ซึมซับเรื่องราวรอบตัวที่น่าประทับใจ
โดยมีตัวอักษรน้อยที่สุดจากทุกเล่ม แต่เนื้อหาของภาพกลับมีสิ่งต่างๆ ให้ดูมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตัวละครหลักของเรื่อง ตัวประกอบ แม้กระทั่งสิ่งของเล็กน้อยๆ มีการเปลี่ยนตำแหน่ง ปรับเข้ามาตามยุคสมัย มีการแสดงจินตนาการผ่านผลงานของพ่อนักวาด
เล่มที่ ๕ เมฆน้อยของพระราชา
เรื่องและภาพโดย รศ.เกริก ยุ้นพันธ์
เล่มนี้ บอกกล่าวถึงพระปรีชาสามารถและพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ได้พระราชทานโครงการพระราชดำริ ‘ฝนหลวง’ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ต้องประสบปัญหาความแห้งแล้ง หรือขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และการทำเกษตร ด้วยความศรัทธาและความรักในพระองค์ท่านก่อเกิดแรงบันดาลใจปรากฏเป็นผลงานหนังสือ ‘เมฆน้อยพระราชา’
เครื่องบินบนท้องฟ้าโปรยฝุ่นขาวฟุ้งกระจาย กลับกลายเป็นก้อนเมฆ ก้อนเมฆเปลี่ยนรูปร่างไปต่างๆ นานา พาให้ผู้คนมีความสุขจากฝนหลวงของพระราชา ชาวประชากล่าวคำสดุดี “ทรงพระเจริญ”
เล่มที่ ๖ เรือใบใจกล้า
เรื่องและภาพโดย คุณวิภาวี ฉกาจทรงศักดิ์
เล่มนี้น้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาแต่งเกี่ยวกับการเล่นเรือใบ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงออกแบบและทรงต่อเรือใบประเภทม็อธไว้ 3 แบบคือ เรือใบมด เรือใบซูเปอร์มดและเรือใบไมโครมด โดยวิธีการสร้างเรือใบมดตามแบบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นวิธีที่ทรงคิดค้นขึ้นใหม่ให้สร้างง่าย ประหยัดและสะดวก ใช้เครื่องมือช่างไม้ธรรมดาๆ ก็สามารถทำได้ เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงคิด ทรง ‘ลงมือ ลงแรง’ ทำเป็นแบบอย่างนี้ ทรงสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกหลานคนไทยในทุกๆ ศาสตร์
สร้างเป็นเรื่องราวได้น่าประทับใจ ผู้เล่นเรือใบเป็นต้องรู้จักคิดและต้องรู้จริง นำส่วนต่างๆ ของเรือใบมาประกอบเป็นเรือใบแบบลองผิดลองถูก หลังจากทราบแล้วว่าส่วนต่างๆ ทำหน้าที่อะไร เรือใบก็ลงสู่ทะเล เรียนรู้ทางลม ฝ่าพายุคลื่น เหนื่อยก็พัก แล้วลุยแล่นต่อไป จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ รูปภาพ แต่ละภาพใช้ความพยายามสูงมาก ลากเส้นทีละเส้นและจุดทีละจุด
เล่มที่ ๗ การเดินทางของความสุข
เรื่องและภาพโดย คุณชาญศิลป์ กิตติโชติพาณิชย์
สำหรับเล่มนี้ สื่อถึงความรักในพสกนิกรทุกคน เพราะแม้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะทรงงานอย่างหนักเพื่อสร้างโครงการตามพระราชดำริต่างๆ ไว้มากมาย ทว่ายังทรงสละเวลาทุกๆ ปี เพื่อทำบัตรส่งความสุขด้วยพระองค์เอง ส่งไปสู่ข้าราชบริพารที่ทำงานถวาย รวมทั้งพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ บัตรส่งความสุขนี้เองที่เป็นตัวแทนแห่งพระเมตตาอันยิ่งใหญ่ เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็กอย่างบัตรส่งความสุข พระองค์ก็มีความตั้งพระทัยที่จะส่งผ่านความสุขไปสู่คนไทยทุกๆ คน
ซึ่งวันปีใหม่ ใครๆ ก็มีความสุขที่ได้ ส.ค.ส. แต่ ส.ค.ส. ไหน เห็นแล้วจะมีความสุขเท่ากับได้รับ ส.ค.ส. พระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยหนังสือเล่มนี้แสดงพระปรีชาสามารถด้านเรขศิลป์ (หรือ Graphic Design) ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระองค์ได้ทรงออกแบบ ส.ค.ส. มาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๐ จนถึงปัจจุบัน ทำให้พสกนิกรชาวไทยทุกแห่งหนต่างมีความสุข
เล่มที่ ๘ ต้นไม้ของพระราชา
เรื่องโดย คุณธนะชัย และคุณนวิษฐา สุนทรเวช ภาพโดย คุณนันทวัน วาตะ
เนื้อเรื่องบอกเล่าผ่านเนื้อหาที่เป็นบทร้อยกรองผ่าน ‘ครูต้นไม้’ ที่เป็นดั่งร่มโพธิ์ร่มไทรและศูนย์รวมใจของคนในสังคม โดยแฝงความหมายสอนใจทั้งเรื่องการรักการอ่าน การฟันฝ่าอุปสรรคของผู้คนในสังคมด้วยความสามัคคี มีการน้อมนำบทพระราชนิพนธ์เรื่อง ‘พระมหาชนก’ และ ‘ทองแดง’ มาเป็นตัวอย่างในการให้คติเรื่องความเพียร การทำความดีมีศีลธรรม ความกตัญญูรู้คุณ ตลอดไปจนถึงตอนท้ายของเรื่องที่สอดแทรกเรื่องการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนที่แผ่ขยายออกไปได้ทั่วทั้งแผ่นดินไทย
ซึ่งพูดถึงต้นไม้พิเศษที่พระราชาทรงปลูกไว้ ออกดอกผลเป็นหนังสือ แต่อยู่มาวันหนึ่งถูกพายุใหญ่พัดหนังสือกระจายหายไปเหลือเพียงลำต้น เด็กๆ เฝ้ามาเยี่ยมต้นไม้ กอดและเล่านิทานตามที่ตัวเองจำได้ให้ต้นไม้ฟัง “มีเจ้าชายตกลงไปในทะเล ว่ายไปเรื่อยๆ จนนางฟ้ามาช่วย” อีกเรื่อง “หมากตัญญูมีลูกเก้าตัว ทุกตัวเป็นชื่อขนมไทยหมดเลย” ต้นไม้ฟังเรื่องราวทุกวันจนผลิใบขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เนื้อหาของเรื่องนี้แต่งเป็นบทร้อยกรอง เพื่อให้สอดคล้องกับการแสดงพระปรีชาสามารถด้านวรรณศิลป์ของพระองค์ท่าน
เล่มที่ ๙ ตามยายไปวัด
เรื่องและภาพโดย คุณวีระยุทธ เลิศสุดวิชัย
เล่มนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้านสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก ที่พระองค์ท่านมีพระราชดำริเกี่ยวกับโครงการบึงพระราม ๙ โครงการบำบัดน้ำเสีย และได้มีพระราชดำริต่อจนกลายเป็นที่มาของวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก ที่ได้เชื่อมโยง ๓ องค์ประกอบให้เป็นหนึ่งเดียวกัน คือ บวร มาจาก บ้าน วัด และโรงเรียน โดยเน้นเรื่องความพอเพียง ความเรียบง่ายในงานสถาปัตยกรรม สร้างความผูกพันให้เกิดขึ้นในชุมชนพระราม ๙
สำหรับห้องสมุดและโรงเรียนใดที่สนใจนิทานชุดนี้ สามารถติดต่อขอรับหนังสือได้ที่ สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ๖๖๖ ชั้น ๑๗ อาคารธนาลงกรณ์ ถนนบรมราชชนนี แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร ๑๐๗๐๐ โทรศัพท์ ๐๒-๔๒๒-๘๘๒๘ โทรสาร ๐๒-๔๒๒-๘๘๓๑ เว็บไซต์ www.ocac.go.th
และหากคุณพ่อคุณแม่สนใจชุดรวมหนังสือนิทานเฉลิมพระเกียรตินี้ สามารถโหลดได้ฟรีที่ >> http://bit.ly/2e3dSul
ขอบคุณข้อมูลจาก