นิทานไทย หรือนิทานพื้นบ้านนั้น เป็นหนังสืออีกหนึ่งประเภทที่แฝงด้วยคติสอนใจ ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ให้ข้อคิดดี ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำมาเล่าให้เด็ก ๆ ได้ฟังที่นอกจากจะได้รับความเพลิดเพลินแล้ว ยังสามารถนำมาแง่คิดมาเป็นคำสอนให้ลูกได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยนิทานพื้นบ้านไทยนั้นถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่บอกเล่าสู่รุ่นต่อรุ่น และแต่ละท้องถิ่นก็มีนิทานเรื่องเล่าที่แตกต่างกันออกไป
7 นิทานไทย นิทานพื้นบ้าน ให้แง่คิด สอนใจลูก
1.นิทานเรื่องจระเข้สามพัน
ในแม่น้ำสายหนึ่งมีจระเข้ชุกชุมถึงสามสายพันธุ์ด้วยกัน จึงทำให้ไม่มีใครกล้ามาจับปลา มีเพียงตาอยู่คนเดียวเท่านั้นที่คลุกคลีกับจระเข้และจับปลามาขายได้ เมื่อชาวบ้านเดือดร้อนที่ใช้แม่น้ำหล่อเลี้ยงชีวิตไม่ได้ เรื่องนี้จึงร้อนถึงหูพระราชา ตาอยู่จึงได้บอกกับพระราชาไปว่า ได้เลี้ยงจระเข้ตัวหนึ่งตั้งแต่ยังเล็กมันจึงไม่ทำร้าย ส่วนจระเข้ตัวอื่นถ้ามันกินอิ่มมันก็จะไม่ทำร้ายคน
พระราชาจึงได้มีพระราชโองการสั่งให้เสมียนไปนับจำนวนจระเข้เพื่อที่จะได้นำอาหารไปเลี้ยงพวกมันได้อย่างทั่วถึง เสมียนทั้งสามคนก็พยายามนับจระเข้ที่อยู่ทั้งบนบกและในน้ำ สุดท้ายก็นับจระเข้ได้คนละหนึ่งพันตัว รวมทั้งหมดมีจระเข้ถึงสามพันตัว และพระราชาก็ได้สั่งให้เลี้ยงอาหารจระเข้จนอิ่มและไม่ออกมาทำร้ายชาวบ้าน และหากินในแม่น้ำแห่งนี้ได้อย่างมีความสุข นิทานเรื่องนี้เป็นตำนานหรือนิทานพื้นบ้านของจังหวัดสุพรรณบุรี จนกลายมาเป็นชื่อตำบลจระเข้สามพันจนถึงทุกวันนี้
ขอบคุณคลิปวิดีโอจาก : Skybook Channel
2.นิทานเรื่องเศรษฐีกับยาจก
มีชายสองคนที่มีฐานะต่างกัน ทั้งสองได้เป็นเพื่อนกัน ชายคนแรกมีฐานะร่ำรวย แต่อาศัยอยู่ตามลำพัง ไม่มีญาติพี่น้อง ส่วนชายคนที่สองมีครอบครัวที่อยู่อย่างมีความสุขแต่มีฐานะยากจน ชายคนแรกได้บอกว่า ถึงแม้จะอยู่คนเดียว แต่ก็ไม่คิดอิจฉา ด้วยความที่มีทรัพย์สินเงินทองให้ใช้มากมาย ส่วนชายคนที่สองก็บอกว่า ไม่เคยคิดอิจฉาเช่นกัน เพราะมีครอบครัวที่ดี มีลูกคอยดูแล ชายทั้งสองต่างก็พยายามพูดให้อิจฉาในชีวิตในแบบของตนโดยไม่มีใครยอมใคร ในที่สุดชายคนที่สองจึงออกความเห็นให้ต่างฝ่ายต่างมากินข้าวที่บ้านของแต่ละคน เมื่อชายคนที่สองได้ไปกินข้าวที่บ้านชายคนแรกก็พบว่าบ้านของชายคนแรกมีของใช้ของกินมากมาย แต่กลับต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นที่จะต้องทำอะไรคนเดียว และเมื่อชายคนแรกไปกินข้าวที่บ้านของชายคนที่สองก็พบว่า เขาไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะมีลูก ๆ คอยช่วยเหลืองานบ้านต่าง ๆ และกินข้าวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
ขอบคุณคลิปวิดีโอจาก : Arunsin Benz
3.นิทานเรื่องทิศกับโทน
มีชายสองคนเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เล็ก ๆ ชื่อ ทิศกับโทน แต่ก็มีนิสัยที่ต่างกัน ทิศมีนิสัยโลภมาก ส่วนโทนเป็นคนขี้อิจฉา วันหนึ่งทั้งสองมีความทุกข์จึงพากันไปไหว้เจ้าปู่พญานาคที่ชาวบ้านในหมู่บ้านนับถือ เจ้าปู่รู้ว่านิสัยของทั้งสองเป็นอย่างไร จึงปรากฏตัวและบอกว่า “จะให้พรวิเศษแก่คนแรกที่ข้อ ส่วนอีกคนก็ได้ผลเป็นสองเท่าของคนแรก” ทิศผู้โลภมากจึงบอกให้โทนขอก่อน ส่วนโทนขี้อิจฉาก็รู้ทันเลยขอว่า “ขอให้ตัวเองตาบอกข้างหนึ่ง” เจ้าปู่จึงให้พรตามคำขอ ผลก็คือความโลภทำให้เจ้าทิศตาบอดสองข้าง และเจ้าโทนก็ต้องตาบอดข้างหนึ่ง เป็นการสั่งสองให้ทั้งคนโลภและคนขี้อิจฉา นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความโลภและความอิจฉาจะนำความเสียหายมาสู่ตัวเองได้
ขอบคุณคลิปวิดีโอจาก : นิทานสอนน้อง
4.นิทานเรื่องพญาคันคาก
พญาแถนเป็นผู้ควบคุมฟ้า คอยปัดเป่าทุกข์บำรุงสุขชาวบ้านอยู่เสมอ จึงเป็นที่สักการะนับถือของชาวบ้านอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นผู้เปิดประตูให้เหล่าพญานาคมาเล่นน้ำ ทำให้เกิดฝนตกในเมืองมนุษย์ ส่วนพญาคันคากนั้นเมื่อแรกเกิดมีผิวบนร่างกายตะปุ่มตะป่ำเหมือนคางคก แต่เมื่อโตขึ้นก็ได้กลายเป็นเจ้าชายหนุ่มรูปงามและปุ่มตามตัวก็หาไป และได้ปกครองบ้านเมืองด้วยทศพิศราชธรรม บ้านเมืองมีความสุข แต่ทั้งสองกลับมาต่อสู้กันด้วยอิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ เนื่องจากพญาแถนไม่ทำให้ฝนไม่ตกถึง 7 ปี และในที่สุดพญาแถนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ จึงมีการทำข้อตกลงร่วมกัน โดยพญาคันคากได้ขอร้องให้พญาแถนช่วยเปิดปล่องน้ำเพื่อให้พญานาคมาเล่นน้ำเพื่อฝนจะได้ตก โดยทำข้อตกลงในการเปิดปิดปล่องเป็นเวลาเพื่อไม่ให้น้ำไหลมากไป โดยให้สัญญานเป็นการจุดบั้งไฟขึ้นมาในเเดือน 6 ซึ่งเป็นฤดูทำนา เมื่อฝนตกลงมากบก็จะร้องระงม และเมื่อน้ำมากพอก็จะแกว่งโหวดเพื่อให้ฝนหยุด นิทานเรื่องนี้จึงเป็นตำนานของประเพณีบุญบั้งไฟเพื่อขอฝนเพื่อเป็นการสักการะบูชาถึงพญาแถน.
ขอบคุณคลิปวิดีโอจาก : Skybook Channel
5.นิทานเรื่อง เกาะหนู เกาะแมว
ตำนานของเกาะหนู เกาะแมว สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดสงขลา ที่เล่าว่า..เมื่อนานมาแล้วยังไม่มีเกาะหนูเกาะแมวเกิดขึ้นนั้น ที่นี่เคยเป็นเมืองท่าสำคัญที่มีการค้าขายมากมาย และพ่อค้าชาวจีนก็ได้นำหมาและแมวคู่หนึ่งขึ้นเรือสำเภามาด้วย พวกมันทั้งคู่ต่างก็อยากกลับบ้าน จนได้ค้นพบความลับว่ามีลูกแก้ววิเศษที่ทำให้ไม่จมน้ำ และให้เจ้าหนูไปขโมยลูกแก้ววิเศษนั้นมา แต่ทว่าเจ้าหนูกลับนำลูกแก้ววิเศษหนีลงทะเลซะเอง การไล่ล่าของเจ้าแมวและหนูกลางทะเลจึงเริ่มต้นขึ้น ส่วนเจ้าหมาตัดสินใจที่จะว่ายไปฝั่งข้างหน้า ในที่สุดเรี่ยวแรงจากการล่าและหนีก็ทำให้พวกมันจมลงสู่ทะเล และได้เกิดความมหัศจรรย์แห่งท้องทะเลขึ้น คือได้เกิดเกาะหนูซึ่งมีลักษณะเหมือนหนู และเกาะแมวที่มีลักษณะเหมือนแมว ส่วนเจ้าหมาขาดใจตายเมื่อว่ายถึงฝังกลายเป็นกลายเป็นเป็นเขาตังกวน และลูกแก้ววิเศษแตกละเอียดและถูกคลื่นซัดกลายเป็นหาดแก้วที่สวยงามในปัจจุบัน.
ขอบคุณคลิปวิดีโอจาก : Skybook Channel
6.นิทานเรื่อง เมขลากับรามสูร
เรื่องราวของพญามังกรที่มีแก้วติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด แล้ววันหนึ่งก็แปลงกายเป็นหนุ่มรูปงามขึ้นไปบนสวรรค์ดาวดึงส์และได้พบรักกับนางอัปสร และได้ให้กำเนิดธิดาชื่อว่า เมขลา ที่โตมารักอิสระมีนิสัยซุกซนชอบเหาะไปตามที่ต่าง ๆ และไม่เกรงกลัวผู้ใด พญามังกรเห็นว่าเมขลาควรมีคู่ครองและจะยกเมขลาให้กับพระอินทร์ และมอบดวงแก้ววิเศษให้กับพระอินทร์ ตั้งแต่เมขลาเป็นนางสนมพระอินทร์ก็ได้อยู่แต่ในวิมานไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่นซุกซนเหมือนเคย จึงเข้าไปที่ประสาทพระอินทร์และขโมยนำดวงแก้วมาเที่ยวเล่นด้วยความสนุกสนาน ฝ่ายรามสูรที่มีขวานเพชรเป็นอาวุธและมีเพื่อนรักชื่อราหูที่มีเพียงร่างกายครึ่งบน รามสูรจึงคิดจะช่วยเพื่อนด้วยการจับตัวเมขลาที่ขโมยดวงแก้วไปถวายคืนพระอินทร์ แต่ด้วยความว่องไวของเมขลาจึงสามารถหลบได้ทุกครั้งไป และทุกครั้งที่เจอรามสูรก็ได้ขว้างขวานเพชรออกไปโดนก้อนเมฆและเกิดเสียงดัง ฟ้าร้อง ทั่วพสุธา นิทานเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าต่อกันมาว่า ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงฟ้าร้องเป็นเพราะเมขลากำลังโยนดวงแก้ววิเศษหลอกล่อรามสูร จึงทำให้เกิดฟ้าร้อง ฟ้าแล่บ ฟ้าผ่านั่นเอง.
ขอบคุณคลิปวิดีโอจาก : Nutkit 2
7.นิทานเรื่อง กล่องข้าวน้อยฆ่าแม่
ลูกชายที่ออกไปทำนาวันหนึ่งเขาออกไปทำนาตั้งแต่เช้ามืด รออยู่จนสายไม่เห็นแม่นำข้าวมาส่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดเพราะหิวจนแสบท้อง แม่เห็นแม่ถือกล่องข้าวเดินมาแต่ไกล ก็รีบลุกตรงเข้าไปต่อว่าทันที ด้วยความหิวจึงทำให้ลืมตัวว่าคนที่ต่อว่าอยู่นั่นคือแม่ตัวเอง และไม่สนใจเหตุผลที่แม่อธิบาย และทำร้ายแม่เพราะมองเห็นว่าข้าวที่แม่นำมาให้ในกล่องนั่นน้อยนิดเดียว และรีบเปิดกล่องข้าวกินอย่างหิวโหย เมื่อกินอิ่มแล้วจึงรู้ว่าข้าวในกล่องยังเหลืออีกตั้งมาก และมองเห็นแม่ที่นอนแน่นิ่ง ปรากฏว่าแม่ได้สิ้นใจด้วยน้ำมือลูกไปแล้ว ชายหนุ่มจึงสำนึกตัวได้ว่าตนเองทำรุนแรงกับแม่ กอดศพแม่ร้องไห้รำพัน และได้สร้างพระธาตุเจดีย์ขึ้นมากลางท้องนาเป็นรูปลักษณะคล้ายกล่องข้าว เพื่ออุทิศส่วนกุศลและใส่กระดูกของแม่ ทุกวันนี้ธาตุกล่องข้าวน้อยฆ่าแม่ได้ตั้งอยู่ที่จังหวัดยโสธรนั่นเอง
ขอบคุณคลิปวิดีโอจาก : Nutkit 2
ถึงแม้ว่าสังคมในยุคปัจจุบันจะมีการเปลี่ยนแปลงไป การได้เล่านิทานพื้นบ้านไทยให้ลูกได้ฟังบ้าง จะทำให้เด็ก ๆ ได้รู้เรื่องราวในอดีต วิถีชีวิตของคนสมัยก่อน ความเชื่อที่ส่งต่อมาถึงคนรุ่นหลัง ทั้งนิทานไทยนั้นมีโครงเรื่องที่ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน มีวิธีการเล่าแบบตรงไปตรงมา ซึ่งจะทำให้เด็กเข้าใจในแง่คุณธรรม การทำความดี การกตัญญู จากนิทานที่คุณพ่อคุณแม่เล่าได้ง่ายขึ้น.
อ่านบทความน่าสนใจอื่น ๆ คลิก
นิทานอีสป มดกับตั๊กแตน สอนลูกมีวินัย แบ่งเวลาเป็น ตอนไหนเล่น ตอนไหนเรียน
รวม นิทานหมอประเสริฐแนะนำ พ่อแม่อ่านให้ฟัง เสริมพัฒนาการลูกทุกวัย
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่