AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ถ้าลูกทำการบ้านไม่เสร็จ ให้ฝึกลูกรับผิดชอบชีวิตตัวเองใหม่!

เคยไหม เมื่อถึงวัยเรียน ลูกทำการบ้านนานมาก ทำไปหยุดไป มีการอิดออด หรือ ทำการบ้านไม่เสร็จ อยู่บ่อยๆ ปล่อยไว้คงไม่ดีแน่ เรามาดูวิธีแก้ไข “อย่างยั่งยืน” ของคุณหมอประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์กันค่ะ

Q: จะมีวิธีอย่างไรให้ลูกจดจ่อ มีสมาธิทำการบ้านตรงหน้าให้เสร็จเร็วขึ้นได้คะ ตอนนี้การบ้านที่ควรใช้เวลาทำ 10-15 นาที กลายเป็นครึ่งชั่วโมงขึ้นไปค่ะ เขียนได้ 3-4 ตัว ต้องมีและบอกเมื่อย หิวน้ำ ปวดหัว ไปหยิบของเล่นบ้าง จนแม่ต้องดุ ลูกอายุ 6 ขวบ อนุบาล 3 ค่ะ

เวลาพบปัญหาเฉพาะหน้า คุณแม่อย่ามัวแต่หมกมุ่นกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ควรระลึกเสมอว่าก่อนที่จะมีวันนี้ เขามีชีวิต 5 ปีก่อนหน้านี้ และชีวิต 5 ปีก่อนหน้านี้เป็นต้นเหตุนำมาสู่วันนี้ คือทำการบ้านไม่รู้จักเสร็จเสียที

พูดเช่นนี้มิใช่กล่าวหาว่าเราเลี้ยงไม่ดี “จะเลี้ยงยังไงก็ช่างเถอะ อย่ามัวแต่ฟื้นฝอยหาตะเข็บซึ่งกันและกัน แต่ให้มุ่งแก้ไขทั้งอดีตและปัจจุบัน” แก้ไขอดีตคือเตรียมความพร้อมกันใหม่ แก้ไขปัจจุบันคือจัดการเรื่องการทำการบ้านให้เสร็จในเวลาที่กำหนด นักกีฬาพื้นฐานไม่ดียังไงก็ต้องทำไม่ได้ ฉันใดก็ฉันนั้น

เรื่องในอดีตคือ เป็นไปได้ว่าเขาไม่เคยต้องรับผิดชอบทำอะไรให้สำเร็จเลย หรืออาจจะมีบ้างก็ไม่มากพอ (inadequate) เรื่องที่เด็กหรือมนุษย์ทุกคนควรได้รับการฝึกตั้งแต่แรกๆ คือ รับผิดชอบชีวิตและบ้านของตัวเอง

คุณแม่ลองนั่งทบทวนใหม่ตั้งแต่เช้าถึงเข้านอน เขาได้รับโอกาสหรือรับการฝึกอะไรบ้าง เก็บที่นอน เอาชุดนอนลงตะกร้า ไปล้างหน้าแปรงฟัน วางสบู่และแปรงสีฟันให้เข้าที่ หมุนฝาหลอดยาสีฟันให้เรียบร้อย แต่งตัวให้ทันเวลา ลงมากินอาหารเช้าให้ทันเวลา กินบนโต๊ะอาหารตามที่ผู้เจริญแล้วทำ กินเสร็จแล้วเอาจานไปวางในอ่างล้างจาน ช่วยเช็ดโต๊ะอาหารบ้างหรือเปล่า ตอนเช้ารีบๆ จะไม่ล้างจานเองก็ไม่เป็นไร แต่เสาร์อาทิตย์หรือมื้อเย็นรับผิดชอบล้างจานหรือไม่ ขึ้นรถทันเวลา ไปโรงเรียนให้ทัน หากลืมของอะไรก็จงรับผิดรับชอบ (accountable) การลืมของตนเอง มิใช่พ่อแม่ขับรถเอาของไปส่งให้ทุกครั้ง

อ่านต่อ “หากลูกทำการบ้านไม่เสร็จ ให้ฝึกรับผิดชอบชีวิตตัวเองใหม่” คลิกหน้า 2

ไล่ไปเถอะครับ จนถึงภาคเย็นเมื่อกลับเข้าบ้าน เขาได้รับโอกาสและการฝึกให้ทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นๆ หรือเป็นลำดับๆ บ้าง หากคุณแม่ว่าทำแล้ว ผมจะตอบว่า “ไม่พอ”

ย่อหน้าข้างต้นเขียนยาวเพื่อให้เห็นภาพ นี่ยังไม่เขียนเรื่อง “งานบ้าน” อีกทั้งกระบุงที่เราควรเปิดโอกาสหรือฝึกเขาทำทุกชนิดที่เขาช่วยได้ ปัดกวาดเช็ดถู ทิ้งขยะ เอาถังขยะไปทิ้ง ขัดล้างห้องน้ำ ซักผ้า ตากผ้าชิ้นเล็ก ผมเขียนไปจนครบหน้ากระดาษได้ไม่ยาก หากคุณแม่ว่าทำแล้ว ผมจะตอบว่า “ไม่พอ”

คำว่าฝึกพอแล้วหรือฝึกไม่พอขึ้นกับเด็กแต่ละคนครับ บางคนฝึกไม่มากก็รู้เรื่องทำเป็น บางคนต้องฝึกมากกว่ามากจึงจะรู้เรื่อง ถามว่ารู้อะไร คำตอบมิใช่ว่ารู้วิธีถูบ้าน อย่าหลงประเด็น คำตอบคือรู้ว่า “เกิดเป็นคนต้องทำอะไรบางอย่างให้เสร็จในเวลาที่กำหนดให้”

สรุปว่าหากคุณแม่อยากแก้ปัญหาเรื่องทำการบ้าน ให้ไปฝึกทักษะการใช้ชีวิตใหม่หมด หากทำได้เขาจะดีไปหมดทุกเรื่อง หากไม่ทำ จบเรื่องการบ้านก็รับประกันว่าจะมีเรื่องใหม่มาให้ท่านปวดกะ.. ขออภัย ปวดศีรษะอีก

คราวนี้เรื่องการบ้าน ก่อนอื่นขอให้เข้าใจลูกก่อนว่าการบ้านจากโรงเรียนส่วนใหญ่เป็นการบ้านที่ไม่เข้าท่า ไม่ค่อยมีประโยชน์ และทำเสร็จไปก็เท่านั้น ไม่ได้ทำให้ลูกเราฉลาดหรือเป็นนักเรียนรู้ที่ดีกี่มากน้อย ไปเล่นยังมีประโยชน์กว่าเยอะ อย่างไรก็ตามเรามีหน้าที่สอนให้เขาทำตามกติกาสังคม

เมื่อเข้าใจสถานการณ์น่าอึดอัดและโคต..ขออภัย แสนจะไม่สนุกแล้ว เราจะได้เห็นใจเขามากขึ้น ไม่ต้องดุแต่ต้องนั่งคุมเขาทำให้เสร็จ เป็นเรื่องจำเป็นที่คุณแม่ต้องเสียสละเวลาส่วนตัวมานั่งใกล้ๆ คุ้มกฎและให้กำลังใจ ไม่เสร็จไม่ให้ลุก เสร็จเมื่อไรก็หอมแก้มสักฟอดแล้วไปได้

 

บทความโดย: นพ. ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ จิตแพทย์ แผนกจิตเวช โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์

ภาพ: Shutterstock